“อาบี” อดีตผู้จัดการดารา เปิดใจกับอีจัน โลกสองใบของ “เค” ไม่มีจริง

2 ปี จำยอมตกเป็นจำเลยสังคม “อาบี-ปกชนม์” อดีตผู้จัดการดารา เปิดใจ เรื่องโลกสองใบของ “เค” ไม่เป็นความจริง ถูกมิจฉาชีพ ปั่นหัว สวมเขา หลอกมาอีกทอด

ปี ต้องอยู่อย่างหวาดระเเวง วันนี้ขอทวงความยุติธรรม !

อาบี อดีตผู้จัดการส่วนตัวดาราสาว ตกเป็นเหยื่อ มิจฉาชีพ สร้างหลักฐานเท็จ กุเรื่องโลกสองใบ สามีดาราสาว จนเชื่อเกิดเป็นเรื่องราวบานปลาย

เปิดใจกับอีจันที่เเรก

อาบี หรือ น.ส.ปกชนม์ ดิษยบุตร ขอเปิดใจกับอีจันที่เเรก หลังหายไป 2 ปี วันนี้เธอกลับมา พร้อมขอทวงความยุติธรรมคืนให้กับตัวเอง เปิดใจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น 2 ปีที่ผ่านมา จนวันนี้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพเเละตกเป็นผู้ต้องหาในคดีหมิ่นประมาท

เธอเปิดใจกับอีจันว่า วันนี้อยากมาขอโทษ คุณเค วัฒนา เจริญศักดิ์วัฒนา สามีของดาราสาว อีกครั้ง จากเรื่องที่ก่อนหน้านี้ทำให้เกิดความเสียหาย และได้มีการฟ้องร้องกัน

“บีได้แชทจริง ผิดจริงค่ะ เคยโพสต์ขอโทษเค ดาราสาว และครอบครัวรวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบในเรื่องนี้ไปแล้วในเฟซบุ๊กและไอจีของบี ตอนเจอเคในห้องพิจารณาคดีก็ได้ยกมือไหว้ขอโทษเคไปอีกครั้งหน้าบัลลังก์ต่อหน้าท่านผู้พิพากษา วันนี้อยากขอโทษอีกครั้งค่ะ เคไม่ได้เป็นแบบที่บีบอกเล่าบุคคลที่3 ไม่ได้มีโลกใบที่ 1ที่ 2 อะไร ไม่มีเรื่องธุรกิจผิดกฎหมายใดๆ สิ่งที่บีทำ ทำผิดกับเค อันนี้ยอมรับ น้อมรับจากใจจริง ขอโทษอีกครั้งนะคะ”

ถึงเวลาพูดความจริง ที่เก็บเงียบมา 2 ปี เหตุเกิดเพราะ “น.ส.กอ ไก่”

“วันนี้ถึงเวลาที่จะต้องเปิดปากพูดในเรื่องที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน บีไม่ได้เป็นคนกุเรื่องสร้างเรื่องตาลหรือโลกใบที่ 1 รวมถึงข้อมูลทั้งหมดนี่ขึ้นมา บีได้ข้อมูลทั้งหมดนี้มาจาก น.ส.ก. ซึ่งเธอคนนั้น เป็นแฟนคลับดาราสาวมานานหลายปี น.ส.ก.เริ่มให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีแค่คนในบ้าน หรือ เพื่อนสนิทดาราสาวเท่านั้นที่รู้ สร้างตัวละครขึ้นมา ทั้งตาลทิพย์ เเละอีกหลายคน สร้างสถานการณ์เท็จขึ้นมา จนบีเริ่มคิดว่า หรือตาลมีตัวตนจริง เราตัดสินใจเก็บเงียบไม่บอกใคร แม้กระทั่งดาราสาวเอง เพราะไม่ชัวร์ในข้อมูล จนกระทั่งมีการณ์ที่ น.ส.ก. สร้างขึ้นมาว่า ตาลโกรธแค้นดาราสาวมาก จะทำลายชื่อเสียงน้องด้วยการส่งข่าวไปให้สื่อ ทำนองว่าแย่งสามีตัวเองไป เเต่บีไม่เชื่อ จนมีสื่อหลักช่องหนึ่งเล่นข่าวนี้จริงๆ

ช่วงนี้แหละที่บีทำผิดพลาด ติดต่อไปหาพิธีกรท่านหนึ่งเพื่อขอให้ช่วยน้อง หากข่าวนี้เป็นเรื่องจริง น้องไม่รู้เรื่องมาก่อน จุดนี้แหละค่ะ ที่บีให้ข้อมูล คุณเค ตามที่ถูก น.ส.ก.หลอก จนเกิดเป็นคดี”

น.ส.กอไก่ สร้างเรื่องราวเท็จ ตัวละคร เหตุการณ์ที่เชื่อได้ว่าเกิดขึ้นจริง

“วันหนึ่ง น.ส.ก. มาบอกว่า ตอนนี้ ตาล กำลังจะบุกไปทำร้ายร่างกาย ดาราสาว ที่ห้าง ปรากฏว่าน้องอยู่ที่ห้างนั้นจริงๆ บี เเละ นก จึงรีบขับรถไปหาน้องเพื่อเตือนและบอกเล่าเรื่องที่รับรู้มาในรถส่วนตัว คุณเค ได้ปฏิเสธเรื่องราวที่ได้รับฟัง ซึ่งนั่นก็ถูกเเล้วเพราะมันไม่ใช่เรื่องจริง หลังจากนั้นมาก็บานปลายแบบที่เห็น ตลอดเวลา น.ส.ก.ยังคงส่งข้อมูลอย่างต่อเนื่องทุกวัน วันละหลายๆครั้ง แทบจะทั้งวันทั้งคืน มีการบอกว่า คุณเคแค้นพวกเรามาก ถึงขนาดส่งคนมาเก็บ หลังจากนั้นชีวิตของ บีกับนก ก็เจอเรื่องแปลกๆ รถถูกติดจีพีเอส ติดถึง 2ครั้ง มีผู้ชายขับรถวนเวียนรอบบ้าน นก หลายชั่วโมง มีคนมาด้อมๆมองๆถ่ายภาพบ้านแม่บี ซึ่ง น.ส.ก.บอกว่า ทั้งหมด คือ ฝีมือคู่กรณี จะจัดการบีกับนกให้ได้ อาจดูเหมือนละครนะคะ ใครอ่านถึงตอนนี้อาจจะขำ แต่บีกับนกและครอบครัวขำไม่ออกค่ะ เราสองคนต้องหลบไปนอกพื้นที่ ไปอยู่ที่ไหนได้ไม่นานก็จะมีคนแปลกหน้าขับรถบุกเข้าไปที่เราอยู่แบบแปลกๆ เราต้องย้ายจังหวัดหลบอยู่ตลอดเวลา”

เหตุการณ์ทั้งหมด ไม่ได้พูดลอยๆ มีหลักฐาน พยานรู้เห็น

“เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ มีพยานบุคคลรู้เห็นหมดนะคะ บีไม่ได้เอ่ยอ้างลอยๆ ตลอดเวลาน.ส.ก.ติดต่อให้ข้อมูลพวกเราตลอด นางบอกว่าคู่กรณีจะทำอะไรเรา สิ่งเหล่านั้นมันก็เกิดขึ้นจริงทุกอย่าง”

โดน น.ส.ก.ปั่นหัวไม่พอ โดนหลอกจนสูญเงินหลักสิบล้านด้วย

“น.ส.ก.อาศัยจังหวะที่ บี สับสนกับเรื่องทั้งหมดที่เจอ หลอกลวงเงินบีไปอย่างอำมหิตหลายครั้ง รวมแล้วหลักสิบล้าน ทุกครั้งเขาจะหยิบยกเรื่องความปลอดภัยของดาราสาวความตายของคนที่บีรัก บีห่วง เช่นแม่และน้องชาย รวมถึงตัวนกและครอบครัวนกก็โดนด้วย หยิบมาอ้างเป็นเครื่องมืออย่างเลือดเย็น เมื่อไม่นานมานี้บีทนเรื่องพวกนี้ไม่ไหว ตัดสินใจเล่าทุกอย่างตั้งแต่ต้นให้ทนายความและนายตำรวจชั้นใหญ่กลุ่มหนึ่งฟังอย่างละเอียดพร้อมแสดงหลักฐานทุกอย่างที่ไปกู้มาจากมือถือที่โดนแฮก คลิปเสียงที่ น.ส.ก. โทรมาเล่ามาให้ข้อมูลตั้งแต่ต้น ตำรวจก็สืบเชิงลึกให้ จนพบว่าทั้งหมดมาจาก น.ส.ก.คนเดียวตั้งแต่ต้นเรื่อง มีการนำบัญชีบุคคลอื่นมาใช้ มีการปลอมแปลงบัญชีโซเชียลมากมาย ทั้งเฟซบุกและไอจีรวมถึงไลน์ก็น่าจะถึงร้อยบัญชี ได้เอาหลักฐานทั้งหมดแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.ปักธงชัย เเล้ว ตอนแรกตำรวจเตรียมขอศาลออกหมายจับ แต่เขาไหวตัวทันชิงเข้ามอบตัวก่อน และเซ็นต์รับสภาพหนี้ พร้อมกำหนดวันผ่อนชำระหนี้ที่โกงไปต่อหน้า พนักงานสอบสวน แล้วเขาก็เบี้ยวหนี้ ไม่ยอมชำระแถมยังติดต่อหามือปืนมาเก็บ บี อีก เอาเป็นว่ารายละเอียดและหลักฐานทั้งหมดตอนนี้อยู่ในมือตำรวจแล้ว สอบพยานบุคคลเพิ่มไปแล้วหลายปาก บางเรื่องจึงมาเล่าตรงนี้ไม่ได้ในตอนนี้ เร็วๆนี้บีกับนกก็จะเข้าแจ้งความนส.ก.เพิ่มในข้อหาอื่นๆตามหลักฐานความผิดอีกหลายข้อหา”

ยืนยัน เจตนาที่ออกมาพูดวันนี้ ไม่ได้จะทำร้ายใคร

ผิดที่ตัวเองหลงเชื่อคำพูดของมิจฉาชีพ

“ขอยืนยันเจตนาในการมาพูดวันนี้อีกครั้งนะคะ

ความผิดพลาดที่บีทำให้ คุณเค ได้รับความเสียหายและรำคานใจ อันนี้ผิดจริง ยอมรับและน้อมรับผลของการกระทำจากใจจริงค่ะ บีกับนก ไม่มีเจตนาทำร้ายใคร บีไม่ได้สร้างเรื่องตาลอะไรนี่ขึ้นมา น.ส.ก.เป็นคนสร้างเรื่องขึ้นมาทั้งหมด เป็นขั้นเป็นตอน สร้างสตอรี่ หาข้อมูลวงใน จัดฉากสร้างสถานการณ์ ทำหลักฐานปลอม หลอกลวง ฉ้อโกง บีกับนกไม่ปล่อยไว้แน่ค่ะ กม.กำลังจัดการอยู่ ปล่อยคนแบบนี้ไว้ก็ไปทำกับคนอื่นอีก

สุดท้ายนี้ กราบขอโทษเคและครอบครัว ขอโทษดาราสาวและครอบครัว รวมถึงเพื่อนใกล้ชิด คนรอบข้างที่อาจได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ทุกคน ขอโทษนะคะ

ผิดส่วนผิดค่ะ ที่พลั้งเผลอทำผิดไปน้อมรับทุกอย่าง ส่วนอะไรที่บีกับนกไม่ได้ทำไม่ได้เป็น ก็ขอใช้โอกาสนี้ชี้แจงตามที่ได้พูดไปค่ะ ถ้าถามว่าทำไมตั้งนานไม่ออกมาพูด ตอบเลยว่า เพิ่งถอดเขาควายออกจากหัวได้ค่ะ เพิ่งจับโป๊ะ น.ส.ก.ได้ไม่นานมานี้ แล้วใช้เวลาให้ เจ้าหน้าที่สืบเช็กเชิงลึกอีกระยะหนึ่ง ตอนที่เป็นข่าวไม่อยากออกมาพูดไปมา ฝั่งนั้นพูดทีฝั่งนี้พูดที บีมองว่าเราคนกันเองทั้งนั้น ถ้าเรายอมเงียบฝ่ายหนึ่งน่าจะดีกว่า แต่มันไม่ใช่ สังคมพิพากษาให้เราเป็นจำเลยสังคมทั้งประเทศ วันนี้ถึงเวลาที่ต้องพูดความจริงบ้างแล้ว จากนี้ก็จะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ เดินหน้าต่อทั้งในส่วนคดีที่ถูกฟ้องและคดีที่เป็นโจทย์ฟ้องเขา”

คลิปอีจันแนะนำ
ครูไพบูลย์ ยืนยันไม่ได้พรากผู้เยาว์ จะติดคุกได้ไง