ทนายเดชา กราบลาแม่แตงโม เผย 3 สาเหตุการขอถอนตัว

ทนายเดชา เผย 3 เหตุผลขอถอนตัวออกจากการเป็น ทนายคุณแม่แตงโม ลั่นขอกราบลา ขอให้พระมารดาจงเจริญ พร้อมอวยพรให้ชนะคดี

หลังจากที่เมื่อวานนี้ทางด้าน ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของ คุณแม่นักแสดงสาว แตงโม ภัทรธิดา ได้ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวว่า โทรศัพท์มือถือของแตงโมอยู่ที่ บังแจ็ค โดยการยืนยันของคุณแม่ ล่าสุดวันนี้ทางด้าน ทนายเดชา ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเพจเฟซบุ๊ก ว่าขอถอนตัวออกจากการเป็นทนายความให้กับทางคุณแม่แตงโม และได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงเหตุผลของการถอนตัวในครั้งนี้ว่า

“มี 3 เหตุผลครับ คือข้อที่ 1 เป็นเรื่องความคิดเห็นในทางคดีที่ไม่ตรงกัน คุณแม่ก็จะไปเชื่อทาง ส.ส.เต้ กับคุณอัจฉริยะ และก็ทางคณะของเขา เชื่อว่าเป็นคดีฆาตกรรม คุณแม่ถามผมว่าสะดวกใจไหมที่จะทำคดีให้เป็นฆาตกรรม แต่ผมไม่สะดวกใจ เพราะว่าพยานหลักฐานทางพนักงานอัยการที่กำลังจะฟ้องในวันศุกร์นี้มันไปได้แค่คดีประมาท เพราะฉะนั้นผมจึงคุยกับคุณแม่ว่าผมขออนุญาตถอนตัว คุณแม่ก็โอเค โดยให้ผมรับผิดชอบ คดีแตงโม ถึงชั้นพนักงานอัยการ คือตอนนี้ก็ยังเป็นทนายอยู่แต่รับผิดชอบไปจนถึงวันที่พนักงานอัยการออกคำสั่งฟ้อง พาตัวไปส่งศาล เหตุผลที่ 2 มาจากการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ เรื่องคุณแม่นำโทรศัพท์แตงโมไปให้ บังแจ็ค และต่อมาก็มีภาพของ แตงโม หลุดออกไปยังสาธารณะ แล้วคุณแม่ก็ยังไปบอกว่าโทรศัพท์อยู่กับผม อันนี้เป็นสิ่งที่ผมรับไม่ได้ ผมมองว่าไม่น่าจะนำโทรศัพท์มือถือของแตงโมให้ บังแจ็ค จะไปให้อัจฉริยะ จะไปให้ ส.ส.เต้ จะไปให้หมอพรทิพย์ ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะว่า บังแจ็ค เป็นบุคคลที่สังคมไม่ให้ความน่าเชื่อถือ เรื่องที่ 3 คุณแม่ไม่พอใจทนายตั้มให้ผมไปคุยกับทนายตั้มว่าให้มาขอโทษ ทนายตั้มก็ไม่มาขอโทษ คุณแม่จึงบอกให้ผมไปฟ้องทนายตั้ม ผมก็บอกว่าผมเป็นเพื่อนกับทนายตั้ม เพราะฉะนั้นผมก็คงจะไม่ฟ้องทนายตั้ม นี่คือ 3 เหตุผลที่ทำให้เราต้องยุติบทบาท แต่คุณแม่ไม่ได้ปลดผมนะ”

ต่อข้อคำถามที่ว่า หลังจากที่เมื่อวานนี้ทาง ทนายเดชา ได้ให้สัมภาษณ์ไป มีประเด็นใดบ้างที่คุณแม่รู้สึกไม่พอใจ ด้าน ทนายเดชา เผยว่า “ไม่มีครับ คุณแม่นั่งฟังอยู่ตลอดเวลา คุณแม่บอกว่ามันเป็นความจริงผมพูดไปก็ถูกแล้ว คุณแม่ไม่ได้โกรธอะไรผมเลย เรายังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม มีอะไรก็ยังให้ช่วยกันเหมือนเดิม คุณแม่ยังบอกว่าถึงแม้จะมีทนายความใหม่แล้วก็อยากให้ผมเข้าไปช่วยด้วย เพราะฉะนั้นไม่ได้มีปัญหาอะไรกับคุณแม่เลย กับเรื่องที่ว่าถ้าคุณแม่จะให้ไปช่วยอีกครั้งจริงๆ ผมสะดวกไหม ผมตอบเลยว่าก็แล้วแต่คุณแม่ คุณแม่ก็อยากให้ผมเข้าไปช่วย เพราะว่าผมติดตามคดีมาตลอด จนมีข้อมูลเยอะ ก็ถ้าเป็นประโยชน์กับทางคุณแม่ ผมก็ยินดี”

กับคำถามที่ว่าทิศทางที่คุณแม่อยากให้เป็นคดีฆาตกรรม ทนายเดชา มองว่าอย่างไร เจ้าตัวตอบว่า “ผมมองว่าพยานหลักฐานไปไม่ถึง แต่ทางคุณอัจฉริยะ ทาง ส.ส.เต้ ทาง บังแจ็ค เขาอาจจะมีหลักฐานดีที่สามารถพิสูจน์ฆาตกรรมได้ ก็เป็นสิทธิ์ของคุณแม่ ถ้าดำเนินคดีฆาตกรรมได้ก็เป็นประโยชน์ของลูกความ อันนี้เราไม่ขัดอยู่แล้ว ยินดีครับ ซึ่งตอนนี้ถ้าถามว่าเป็นห่วงอะไรไหม ผมก็เป็นห่วงคุณแม่ว่ามันจะไปได้ถึงฝั่งหรือเปล่า ก็ภาวนาว่าให้ชนะคดี ส่วนที่ผมบอกว่าพยานหลักฐานไปไม่ถึง อย่าบอกว่าผมดูข้อมูลในโทรศัพท์แตงโมแล้วเลย เอาเป็นว่าผมคุยกับพนักงานสอบสวน คุยกับผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว พยานหลักฐานที่ว่ามีการฆ่ากันบนเรือมันไม่มี เอามีดมากรีดขาข้างขวามันก็ไม่มี แต่ว่าคุณแม่ก็ยังเชื่อ บังแจ็ค เชื่อ ส.ส.เต้ เชื่อ อัจฉริยะ เชื่อ หมอพรทิพย์ ก็เป็นสิทธิ์ของคุณแม่ ลูกความมีสิทธิ์ที่จะไปต่อ ผมก็สนับสนุน แต่ตอนนี้ผมเป็นห่วงคุณแม่ ฝากคุณดายศ (พี่ชายแตงโม) ช่วยดูแลคุณแม่ด้วย โดยเฉพาะเรื่อง บังแจ็ค ผมเป็นห่วงมาก ไม่รู้ว่าไปคุยกันอีท่าไหนถึงได้โทรศัพท์ไป มันน่ากลัวนะ เพราะว่าข้อมูลในนั้นมันมีอะไรกระทบกับบุคคลภายนอกเยอะ และผมเชื่อว่าวันข้างหน้าเขาต้องปล่อยภาพออกมาอีก ซึ่งจะมีบุคคลที่มีชื่อเสียงเสียหาย ผมห่วงว่ามันอาจจะมีการเรียกเงินแบล็คเมล์กันหรือเปล่า อันนี้เป็นสิ่งที่ตำรวจในประเทศไทยก็เป็นห่วง เพราะภาพมันตั้ง 1,200,000 ภาพในอดีต เป็นภาพส่วนตัวของแตงโม เป็นสิ่งที่ร้ายแรงมาก ไม่น่าส่งมอบให้ บังแจ็ค”

ในทางกฎหมายการที่คุณแม่ส่งมอบโทรศัพท์มือถือให้ บังแจ็ค คุณแม่จะโดนดำเนินคดีทางกฎหมายหรือไม่ ด้าน ทนายเดชา กล่าวว่า “มันขึ้นอยู่กับการเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ผู้ใช้เป็นผู้สนับสนุน เป็นผู้อนุญาตหรือเปล่า ถ้าไปเกี่ยวข้องตามที่ บังแจ็ค พูดว่าคุณแม่อนุญาตหมด คุณแม่ก็ต้องไปชี้แจงต่อผู้บัญชาการไซเบอร์ ถ้าผู้บัญชาการแจ้งว่าคุณแม่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการอนุญาต หรือใช้ หรือสนับสนุน หรือร่วมกระทำความผิด อันนี้เป็นหน้าที่พนักงานสอบสวน ผมหมดหน้าที่แล้ว จริงๆ วันนี้ผมนัดไว้แล้วให้ไปพบผู้บัญชาการ เพื่อจะได้จบๆ แต่คุณแม่ไม่ไป”

กับคำถามที่ว่า บังแจ็ค ให้สัมภาษณ์ว่าทาง ทนายเดชา รู้เรื่องของการปล่อยคลิป ปล่อยภาพ ทาง ทนายเดชา กล่าวแค่ว่าไม่ทราบ ไม่รู้เรื่องเลย ส่วนเรื่องที่จะนำมือถือกลับมา ทนายเดชาเผยว่า “ยากครับ ไม่มีทาง เขาไม่คืน คือตอนนี้ข้อมูลต่างๆ เขาก็ดูดไปหมดแล้ว เพราะฉะนั้นคนที่เคยติดต่อกับ แตงโม ก็ตกอยู่ในอันตราย เท่าที่ทราบมามีภาพที่อันตรายอยู่ประมาณ 30 ภาพ เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง เป็นนักธุรกิจด้วยผมก็เป็นห่วงตรงนี้ครับ”

ถ้าทำคดีในชั้นอัยการออกคำสั่งฟ้องเรียบร้อยแล้ว ทาง ทนายเดชา อยากจะอำลาคุณแม่อย่างไร ทนายเดชา กล่าวว่า “ก็ขอให้คุณแม่โชคดี แล้วก็นิ่งๆ มีสติ วันๆ มีคนเข้ามาเกี่ยวข้องเยอะมาก คุณแม่ต้องดูให้ดีว่าคนเหล่านั้นหวังดีกับเราจริงไหม คดีความยังอีกยาวไกลมันยังไม่ยุติ บางคนก็ไปเสนอว่าจะได้เงินสองร้อยล้าน สามร้อยล้าน บางคนโพสต์ไปห้าร้อยล้าน แต่เราก็ไม่รู้จะได้หรือเปล่า อันนี้ก็ขอให้คุณแม่โชคดี แต่ให้ระมัดระวังอย่าไปเที่ยวหลงเชื่ออะไรคนอื่นมากนัก ตอนนี้ผมใช้คำว่ากราบลาพระมารดาได้แล้วครับ วันนี้ก็ขออนุญาตกราบลาพระมารดา สิ่งที่ผ่านมาอะไรที่ทำให้คุณแม่รู้สึกไม่สบายใจ ทนายเดชา ก็ขอกราบพระมารดา ขอให้พระมารดาได้ที่ปรึกษาใหม่ที่เป็นคนที่รักพระมารดาแบบนานๆ ระวังนะครับคุณแม่ คุณแม่เป็นคนบอกกับผมเอง หมดโปรแล้วก็ทิ้ง แตงโม ไว้ที่ท่าน้ำ ตอนนักการเมืองคนหนึ่งจะสร้างศาล คุณแม่บอกไม่ต้อง หมดโปรแล้วก็ทิ้งแตงโมอยู่ที่ท่าน้ำ เพราะฉะนั้นวันนี้มีนักการเมือง มี ส.ส. มีใครต่อใครมาช่วยคุณแม่ คุณแม่ระวังนะครับ หมดโปรผู้สื่อข่าวไม่สนใจแล้วเนี่ย เขาจะอยู่กับคุณแม่ไหม คุณแม่ต้องให้เขาทำบันทึกข้อตกลงนะครับ ถ้าไม่มีข่าว ไม่มีผู้สื่อข่าวตาม เขาจะว่าความให้คุณแม่ ไหม เพราะต้องใช้เวลาอีกหลายปี ก็ขอให้พระมารดาจงเจริญ”

คลิปอีจันแนะนำ
อิงฟ้า ภูมิใจสร้างบ้านให้ครอบครัว