ผู้การฯปัตตานี สั่ง ภาคทัณฑ์ ยิว ฉัตรมงคล แฟน เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ปม Work From Home

ผู้การฯปัตตานี สั่ง ภาคทัณฑ์ ยิว ฉัตรมงคล แฟน เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ปม Work From Home ทำ หน่วยงานเสียหาย

สืบเนื่องจากข่าวของ ยิว ฉัตรมงคล แฟนหนุ่มของ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น เจอกระแสดราม่า เมื่อเจ้าตัวไลฟ์สดกับแฟนสาว แล้วมีการตอบคอมเมนต์ชาวเน็ตว่า ตำรวจ Work From Home เป็นเหตุให้เกิดกระแสวิจารณ์อย่างหนักว่า ตำรวจทำงานที่บ้านได้ด้วยเหรอ กระทั่งเวลาต่อมา ยิว ได้ถูกผู้บังคับบัญชาเรียกตัวกลับ เพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริง

ล่าสุด เมื่อวานนี้ (9 มิ.ย.) พล.ต.ต.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี เผยผ่านแถลงการณ์ ว่า จากกรณีดังกล่าวได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพิจารณาข้อบกพร่อง ส.ต.ต.ฉัตรมงคล สมแก้ว หรือยิว ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กําหนดในกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง

สําหรับประเด็นการปฏิบัติงานแบบ Work from home หรือการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งนั้น สืบเนื่องจากห้วงเดือนพฤษภาคม 2564 ได้มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 และมีข้าราชการตํารวจในสังกัด ภ.จว.ปัตตานี ซึ่งทําหน้าที่ยามรักษาการณ์ทางเข้า-ออก ได้รับเชื้อ และกลุ่มเสี่ยงที่ต้องทําการกักตัว จํานวนหลายนาย ผู้บังคับบัญชาจึงได้มีนโยบายให้ทํางานนอกสถานที่ตั้ง เพื่อลดความแออัดในสถานที่ทํางาน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ประกอบกับตามหนังสือจังหวัดปัตตานีแจ้งให้หน่วยราชการพิจารณาดําเนินการ เรื่องข้อกําหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 22 และ 23 เรื่องการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง เพื่อลดการเดินทางของเจ้าหน้าที่ ลดจํานวนบุคคลที่อยู่ประจําสถานที่ตั้ง เพื่อป้องกันและลดโอกาสเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อและให้ดํารงการติดต่อสื่อสารได้ตลอดเวลา พร้อมถูกเรียกตัวกลับมาปฏิบัติงาน ณ ที่ตั้งได้ทันที

คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้ดําเนินการเสร็จสิ้นแล้วปรากฏข้อเท็จจริงว่าการกระทําของ ส.ต.ต.ฉัตรมงคล สมแก้ว หรือยิว มีการใช้สื่อสังคมออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ รัชนก สุวรรณเกตุ เมื่อวันศุกร์ที่ 21 พ.ค. 2564 เวลา ประมาณ 20.00 น. และได้มีการกล่าวถึงในประเด็นคําพูด “Work From Home” ซึ่งเป็นการใช้คําพูดที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขาดการยั้งคิดไตร่ตรอง และไม่อธิบายให้บุคคลทั่วไปที่ติดตามทางสื่อสังคมออนไลน์ได้เข้าใจอย่างถูกต้อง จึงทําให้ประชาชนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบ ส่งผลทําให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของหน่วยงานและสํานักงานตํารวจแห่งชาติ

ดังนั้นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพิจารณาเห็นว่าการกระทําของ ส.ต.ต.ฉัตรมงคล สมแก้ว หรือยิว เป็นการกระทําที่ขาดความรอบคอบในการคิดวิเคราะห์การใช้ถ้อยคําเพื่อสื่อสารกับคนทั่วไป ไม่ระมัดระวัง ขาดการไตร่ตรอง ทําให้ถ้อยคําที่สื่อความหมายออกไปแล้วเกิดความเคลือบแคลงสงสัย จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงลบจากบุคคลทั่วไปเป็นจํานวนมาก

ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของสํานักงานตํารวจแห่งชาติ และเกิดความเสียหายต่อข้าราชการตํารวจโดยส่วนรวม ประกอบกับ ส.ต.ต.ฉัตรมงคล สมแก้ว ยอมรับว่าเป็นความผิดของตนจริง ซึ่งผู้บังคับบัญชาได้มีการสั่งการและกําชับแล้ว

ถือได้ว่า พฤติการณ์การกระทําของ ส.ต.ต.ฉัตรมงคล สมแก้ว เป็นความผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตาม พ.ร.บ.ตํารวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 7 กล่าวคือต้องปฏิบัติตามคําสั่งของผู้บังคับบัญชาซึ่งสั่งในหน้าที่ราชการโดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบของทางราชการ โดยไม่ขัดขืนหรือหลีกเลี่ยงต้องไม่ใช้กิริยาวาจาหรือประพฤติตนในลักษณะที่ไม่สมควร และต้องไม่กระทําหรือละเว้นการกระทําใดๆ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการหรือให้เสียระเบียบแบบแผนวินัยตํารวจ ในการนี้ ผู้บังคับบัญชาจึงสั่งลงโทษ ภาคทัณฑ์ ส.ต.ต.ฉัตรมงค สมแก้ว

ซึ่งทาง ผู้การฯปัตตานี ก็ได้สั่งลงโทษทางวินัย หนุ่มยิว เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งความผิดนี้ไม่ได้ร้ายแรง ทั้งนี้ ท่านผู้การฯปัตตานี ยังอธิบายถึง การปฏิบัติงานแบบ Work from home หรือการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง เป็นอย่างไรอีกด้วย หากมีอะไรคืบหน้า แอดจะรายงานให้ทราบต่อไปค่ะ