นักแสดงสาวสุดแซ่บ มากความสามมารถ อย่าง หนิง ปณิตา ที่ปัจจุบันเธอผันตัวมาเป็นทั้ง ผู้จัดละคร และพิธีกร ที่มีผลงามมากมาย ล่าสุด หนิง ปณิตา ก็ได้เปิดใจในวันถ่ายพรีเซนเตอร์เข้าสู่ปีที่ 3 ของ SEWA พร้อมอัปเดตชีวิต โดยเจ้าตัวเผยว่า ตอนนี้ไม่ว่าจะเจอ ดราม่า อะไร เธอก็สามารถปล่อยวางได้ เพราะเธอมี แม่ชีศันสนีย์ หรือ ยายจ๋า ของคนบันเทิง เป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต เธอกล่าวว่า
” ชีวิตส่วนตัวช่วงนี้กลับมาทำงานแล้ว วุ่นวายเป็นธรรมดา เวลาทำงานก็มีความเครียดเบาๆ ก็พยายามที่จะปล่อยวาง เอาตัวอย่างคุณ ยายจ๋า ( แม่ชีศันสนีย์ ) ท่านปล่อยวาง ท่านจากไปด้วยสิ่งที่ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างๆ อะไรที่เข้ามารบกวนใจ ก็อย่าไปใส่ใจ เพราะทุกวันนี้ เรามีคนรอบข้างที่ต้องดูแล โดยเฉพาะลูกที่กำลังอยู่ในวัยที่จะเข้าสู่วัยรุ่น จากที่เราเคยดูแลเขาแบบนี้ ก็ต้องใช้ความเข้าใจอีกแบบหนึ่ง ไหนจะสามีอีก ที่ช่วงนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเทิร์นเป็นอีกเพศหนึ่งหรือเปล่า เพราะวันๆ ก็จะแต่งหน้า ทาปาก เดี๋ยวนี้แอบเอาครีมเราไปใช้ด้วยนะ แอบเอาน้ำตบไปใช้ ทำให้ตัวเองดูเด็กลง ก็แอบระแวงเล็กน้อย แต่ยังไม่มีเวลาไปจับตาดู เพราะด้วยงานที่เร่งถ่ายเพื่อให้ได้ออนแอร์เร็วที่สุด “
โดย แม่ชีศันสนีย์ ถือเป็นผู้ที่สาว หนิง ปณิตา เคารพนับถือ และเป็นที่พึ่งทางจิตในของเธอมาโดยตลอด เธอเล่าว่าหลังจากที่ปล่อยวางได้มากขึ้นตาม คำสอนของ แม่ชีศันสนีย์ ใจเธอเองก็สงบขึ้น เธออธิบายว่า
” ช่วงนี้ปล่อยวางมากขึ้น หลายคนบอกแบบนั้นว่าเดี๋ยวนี้ดูไม่ค่อยอะไรกับใคร พอมันทำได้ ใจเราเองก็สบายใจ แต่ถามว่ายังมีหงุดหงิด โวยวาย โมโหเหมือนเดิมไหม….มี แต่แค่เวลามันเป็นปุ๊ป แล้วมันจบเร็ว รวมถึงข่าวดราม่าต่างๆ นานา คือถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คงอยากออกมาพูดว่ามันไม่ใช่อย่างที่คุณเข้าใจนะ มันไม่ใช่ที่คอมเม้นต์แบบนี้นะ อยากจะออกมาอธิบาย แต่ ณ วันนี้คือไม่จำเป็นต้องพูด ไม่จำเป็นต้องอธิบาย เวลาเท่านั้นจะเป็นตัวที่พิสูจน์คนเราว่าใครเป็นแบบไหน คือของทุกอย่างต้องใช้เวลา เวลาที่เราทุกข์ ถ้าเราปล่อยทุกอย่างได้เร็ว เราก็จะมีความสุขเร็ว”
เธอยังเผยอีกว่าในช่วงวิกฤติ โควิด เธอมีโอกาสได้กลับมาดูแลตัวเองมากขึ้น จนทำให้หลายคนทักว่าเด็กลง ทำให้เธอรู้สึกดี และช่วยผลักดันให้เธอมีแรงในการทำสิ่งต่างๆอีกด้วย หนิง ปณิตา เผยว่า
” ช่วง โควิด มีเวลาดูตัวเอง ซึ่งเวลา 1-2 ปีช่วง โควิด ถือเป็นช่วงเวลาดีอย่างหนึ่งสำหรับหนิงนะ ได้มีเวลากลับไปคิดว่าเราอยากจะมีแรงบันดาลใจในการทำอะไรให้ชีวิตเรารู้สึกฟู่ฟ่า รู้สึกกระชุ่มกระช่วย รู้สึกว่ามีความกระตือรือร้นในการทำงาน ซึ่งถ้าเราเดินไปไหนแล้วมีคนถามว่าปีนี้อายุเท่าไร แล้วมีคนบอกว่าหน้าดูเด็กลง ซึ่งตอนนี้หลัก 4 เลยมาครึ่งทางแล้ว พอมีใครบอกว่าหน้าเราเด็กลง เราแฮปปี้มาก มันก็เลยมีความกระตือรือร้นที่อยากจะทำอะไรอีกสักอย่างในชีวิต ให้ความกระตือรือร้นในความที่เรารู้สึกว่าเราเด็ก ความมั่นใจมันกลับมาอีก หลายคนทักหน้าเด็กลง เพราะได้ออกฤทธิ์อาละวาดตบคน !! พูดเล่นค่ะ ตบหน้าบ่อยๆ ด้วยน้ำตบค่ะ “
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับดีๆในการใช้ชีวิตของสาว หนิง ปณิตา เพียงแค่เราปล่อยวาง ไม่ต้องแบกทุกอย่างเอาไว้ เท่านี้ชีวิตเราก็มีความสุขึ้นแล้ว สงสัยแอดคงต้องเอาไปปรับใช้กับชีวิตบ้างแล้วล่ะค่ะ