ฮาร์ท พุทธิพงศ์ อัดคลิปถึง แรมโบ้ ขอโทษหากพูดติงเจ้านายพี่ เรามาคุยกันดีกว่าไหม ?

ฮาร์ท พุทธิพงศ์ อัดคลิปถึง แรมโบ้ ขอโทษหากพูดติงเจ้านายพี่ อีกฝ่ายไม่รอช้าอัดคลิปตอบกลับทันที

จากกรณี นายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และทนายความของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ( แรมโบ้อีสาน ) ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เข้าแจ้งความนักร้องชื่อดัง ฮาร์ท สุทธิพงศ์ เนื่องจากมีการโพสต์ข้อความวิจารณ์ในประเด็นเกี่ยวกับวัคซีน อาจทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และพ.ร.บ.ว่าด้วยกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560

ซึ่งทาง ฮาร์ท สุทธิพงศ์ ได้อัดคลิปโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า ” ผมตั้งใจทำคลิปนี้เพื่ออยากสื่อสารกับพี่ แรมโบ้อีสาน หรือ ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายก เราสองคนมีอะไรที่คล้ายกัน ต่างก็สนอกสนใจในความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่ไม่ใช่ญาติ

ผมทราบมาว่า พี่ แรมโบ้ ไม่พอใจที่ผมได้ออกมา ตำหนิเจ้านายพี่ ออกมาวิจารณ์การทำงานของรัฐบาลภายใต้การนำของ เจ้านายพี่ จนกระทั่งล่าสุดที่ผมได้โพสต์เฟชบุ๊กเกี่ยวกับเรื่องวัคซีน เรื่องโควิด พี่เลยเดินทางมาที่ สน.นางเลิ้ง เพื่อฟ้องผม

อยากจะบอกพี่ตรง ๆ ว่าเจตนาที่ผมเนี่ยออกมาตำหนิ หรือวิจารณ์การทำงานของรัฐบาลนี้ ด้วยความสัตย์จริง ผมไม่ได้ทำไปด้วยความสะใจ หรือเป็นการระบายอารมณ์ เพียงแต่อยากให้ เจ้านายพี่ ได้ทราบว่า ในโลกของความเป็นจริง ผมและชาวบ้านต้องเผชิญกับมันทุกวันเป็นยังไง เราต่างก็รักชีวิตตัวเอง รักครอบครัวของเรา คงไม่อยากให้คนที่เรารักต้องตายก่อนเวลาอันควร

ที่ผ่านมาที่ผมได้ดูข่าว เห็นชาวบ้านเห็น รวมไปถึงคนที่อยู่ในวงการเดียวกันกับผม อย่าง น้าค่อม ต้องจากเราไปด้วยโรค โควิด เพียงเพราะการบริหารจัดการเรื่องสถานพยาบาล เรื่องการโลจิสติกส์ พาคนป่วยไปถึงมือหมอ ไปจนถึงการจัดหา วัคซีน เพื่อที่จะมาสร้างภูมิคุ้มกันให้กับคนที่เขาอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ผมได้ค้นคว้าหาข้อมูล โทรหาเพื่อนที่อยู่ต่างประเทศ ทราบมาว่า ในหลายประเทศ เขามีการฉีด วัคซีน ให้กับประชาชนของเขาตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์-มีนาคม จึงทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าเราได้ วัคซีน อะไรก็ได้ มาฉีดให้คนไทยก่อนให้เร็วกว่านี้ 2 เดือน น้าค่อม หรือเพื่อนร่วมชาติของเราอีกหลาย ๆ คนอาจจะไม่ต้องตาย

ผมต้อง ขอโทษ พี่นะ แต่สิ่งที่ผมพูดเป็นเพียงแค่หนึ่งตัวอย่างในอีกหลาย ๆ เรื่องที่ผมไม่แฮปปี้กับการทำงานของ เจ้านายพี่ ประเด็นมันอยู่ตรงนี้พี่ แรมโบ้ เพียงแค่ผมหรือใครก็แล้วแต่ออกมาตำหนิออกมาวิจารณ์การทำงานของ เจ้านายพี่ ผู้ซึ่งอาสาเข้ามาทำงานให้กับเราและผมคนหนึ่งไม่ได้เรียกท่านมา แต่ท่านอาสามาทำงานให้กับเรา แล้วเราในฐานะประชาชน ก็พยายามที่จะบอกว่าตรงไหนควรจะปรับปรุง แก้ไข ตรงไหนมันบกพร่อง

ผมขอโทษวิธีที่ผมบอกกับพี่ และสื่อสารไปยังเจ้านายพี่มันฟังดูอาจจะไม่ลื่นหู อ่านแล้วแสลงตา แสลงใจ แต่มันสมควรแล้วหรือ ที่พี่ในฐานะลูกน้องคนสนิทของเจ้านายพี่ จะเอาเรื่องนี้มาฟ้องผม เอางี้ไหมพี่ เรามาคุยกันดี ๆ พี่ก็อธิบายให้ผมฟังสิว่า ฮาร์ท มันเป็นอย่างนี้เพราะมันอย่างนี้นะน้อง ไอ้นี่ทำไมมันถึงไม่พอ ไอ้นี่ทำไมมันถึงทำไม่ได้ ไอ้นี่ทำไมมันถึงมาช้า ผมไปหาพี่ก็ได้ ผมว่างทุกวัน ตอนนี้ไม่มีใครมาจ้างผมแล้ว ถ้าพี่โน้มน้าวผมสำเร็จ ผมรับประกันเลยว่า ผมจะกลับบ้าน แล้วผมจะช่วยโน้มน้าวเพื่อน และแฟน ๆ ของผม ให้เขาร่วมมือ ช่วยเหลือเจ้านายพี่ ให้ขับเคลื่อนประเทศไทยของเราไปในทิศทางที่เจ้านายพี่เขาต้องการ พี่แรมโบ้ Please เรามาคุยกัน

และหลังจากนั้น แรมโบ้ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ได้อัดคลิปวิดีโอถึง ฮาร์ท ทันที โดยระบุว่า ตนเองไม่ได้มีปัญหาส่วนตัวกับ ฮาร์ท แต่ตนเองมองว่าคำพูดของ ฮาร์ท ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง และการที่ตนเองกับนาย อภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไปแจ้งความในนามส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรี

ซึ่งหลังจากที่ได้แจ้งความแล้ว ฮาร์ท ยังมีการท้าทายโพสต์เฟซบุ๊กที่มีรูปถ่ายคู่กับนายปิยบุตร แสงกนกกุล และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า และยังมีการบอกว่าจะเอารูปนายโทนี่ขึ้นมาเยาะเย้ยนายกฯอีก สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ฮาร์ท ไม่ได้หยุดการเคลื่อนไหว และชัดเจนว่าสนับสนุนกลุ่มที่ต้องการปฏิรูปสถาบัน

หาก ฮาร์ท ยืนยันที่จะกลับใจ เป็นคนที่คิดดีทำดีเพื่อบ้านเมือง เพื่อชาติ เพื่อประชาชน และอยากทำงานให้รัฐบาล อยากจะพูดคุยกับตนเองนั้น ตนอยากให้ตอบ 2 ข้อคือ 1.ฮาร์ทต้องมีความจริงใจ ไม่ได้เสแสร้งเล่นละครที่อยากจะช่วยบ้านเมืองจริง อย่าโจมตีการทำงานของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา รวมถึงวัคซีนของไทย เพราะไม่ได้ประโยชน์อะไรและยังจะทำให้ประชาชนเข้าใจสับสน และ 2.สิ่งที่ไปแจ้งความดำเนินคดีกับ ฮาร์ท ไม่ได้ไปแจ้งข้อหาหมิ่นประมาทนายกฯ หรือเป็นเพราะตนเองโกรธแทนนายกฯ หรือเพราะว่านายกฯโกรธ นายกฯไม่ได้โกรธคุณ ฮาร์ท แต่ตนเองไปแจ้งความในข้อหา 112 ที่โพสต์ในลักษณะที่ใครได้อ่านก็รู้ว่าเกี่ยวข้องกับสถาบัน

หากมีความจริงใจ ว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ต้องแสดงจุดยืนให้ชัดเจน ว่าคุณฮาร์ทมีความจงรักภักดีต่อสถาบัน ซึ่งคุณฮาร์ทเป็นคนที่เกิดที่โรงพยาบาลศิริราช ก็จะต้องสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ ของพระราชาด้วย และหากนายฮาร์ทมีความชัดเจนแล้ว ตนเองและนายอภิวัฒน์ ทนายความ จะไปถอนแจ้งความตามมาตรา 112 ให้กับคุณฮาร์ทและพร้อมจะพูดคุยด้วย

ส่วนเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร ก็คงต้องติดตามกันต่อไปจ้า