จากกรณีที่ มีล่า จามิล่า อดีตนักร้องดังค่าย Kamikaze ได้ออกมาเปิดเผยความจริง ด้านมืดของชีวิตตัวเองที่ได้เจอ หลังจากเก็บเป็นความลับมานาน 2 ปี โดย มีล่า ได้เขียนเล่าเหตุการณ์ พร้อมภาพประกอบลง ไอจีสตอรี่ เมื่อวันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมา เธอเล่าเหตุการณ์ที่ถูกน้องชายตนเองทำร้ายร่างกาย จนบาดเจ็บสาหัส ซึ่งเธออ้างว่า ทางครอบครัวไม่ให้พูดเรื่องราวนี้ เพราะอาจทำให้คนมองไม่ดี ซึ่งภายหลังจาก มีล่า ได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล และตัดสินใจไปอยู่กับแฟน เธอยอมรับว่าไม่กล้ากลับไปที่บ้านหลังนั้นอีก โดย มีล่า ยังบอกอีกว่า ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาเธออยู่อย่างหวาดระแวง เพราะเธอไม่ทราบเลยว่า ตอนนี้น้องชายได้เข้ารักษาตัวหรือยัง เป็นอย่างไรบ้าง เพราะเธอบอกว่า ทางครอบครัวไม่ได้บอกข่าวอะไรกับเธอ ซึ่งเธอจะไม่ยอมอยู่อย่างหวาดระแวงแบบนี้อีกแล้ว เป็นเหตุ มีล่า ต้องออกมาเขียนเรื่องราวทั้งหมดลง อินสตาแกรม ทำให้กลายเป็นข่าวที่ใครหลายคนตกใจมากๆ ว่า ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งจะต้องมาเจอเรื่องราวร้ายๆได้ถึงขนาดนี้
มีล่า จามิล่า เปิดความจริง เล่าว่า น้องชาย ทำร้ายร่างกายปางตายต่อมาชาวเน็ตก็จับสังเกตุว่า หลังจากที่มีข่าวของ มีล่า นำเสนอออกไป อินสตาแกรมของ เจนนี่ รติพันธ์ ก็ไม่ได้มีการกด ฟอลโล่ไอจี น้องสาว แต่ถ้าเราไล่ดูรูปที่ เจนนี่ เคยลง หลายครั้งก็มีรูปที่มี มีล่า อยู่ในเฟรมด้วย แม้ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด ที่แฟนหนุ่มของ มีล่า ขอแต่งงาน เจนนี่ ก็ไปร่วมแสดงความยินดีกับน้องสาว คล้ายกับว่า ความสัมพันธ์ของพี่น้องทั้งคู่ก็เหนียวแน่น รักกันดี แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร อยู่ๆ ไอจีของเจนนี่ กลับไม่ได้มีการ ฟอลโล่ไอจี น้องสาว ทำใช้ชาวเน็ตบางกลุ่มเกิดความไม่พอใจ จนเกิดทัวร์ลงในที่สุด
ล่าสุดวันนี้ เจนนี่ ได้โพสต์ชี้แจง เล่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นในฝั่งของตนเองเป็นครั้งแรก พร้อมเผย ความสัมพันธ์ในครอบครัว โดย เจนนี่ เผยว่า ในเรื่องที่คนเข้าใจผิดว่า คุณแม่ของเธอไม่รัก มีล่า ซึ่งเธอยืนยันว่า คุณแม่ รักลูกทั้ง 3 คนเท่ากัน ยิ่งเห็นลูกทะเลาะกัน คนที่เจ็บที่สุดก็คือคุณแม่ ซึ่งพอ มีล่า ออกมาชี้แจงเรื่องราวแบบนั้น ทำให้ตนเอง และคุณแม่โดนถล่มหนัก ตอนนี้คุณแม่กินไม่ได้ นอนไม่หลับทั้งๆที่เคยเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก เธอจึงอยากให้ทุกคนฟังฝั่งเธอบ้าง
เจนนี่ เผยต่อว่า ความสัมพันธ์ในเรื่องของพี่น้องของทั้ง 3 คน ที่ผ่านมา มีล่า และ น้องชายมีปัญหาทะเลาะกันมาตลอดอยู่แล้ว ใช้อาวุธขึ้นมาขู่กันอยู่บ่อยครั้ง หนักถึงขั้นเลิกคุยกันก็มี ภายหลังน้องชายเป็นโรคซึมเศร้า ตนเองก็พยายามพาน้องไปรักษาจนดีขึ้น และกลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม
ภาพจาก IG majanie_เรื่องของวันที่เกิดเหตุการณ์รุนแรงนั้น เจนนี่ เล่าว่า เธอได้ยินเสียงร้องของน้องสาวเลยรีบวิ่งไปดู ตกใจกับภาพที่ได้เห็น เพราะ มีล่า มีแผลบนตัวเยอะมาก จากการถูกน้องชายทำร้าย ตนเองเลยพยายามตั้งสติ เรียกรถพยาบาล และตำรวจ ซึ่งในวันนั้นคุณแม่ไม่อยู่ ไปต่างจังหวัด เธอจึงรีบโทรบอกคุณแม่ให้รีบกลับมา พอถึงโรงพักตำรวจก็ถามว่า น้องชายมีอาการผิดปกติหรือเปล่า เจนนี่เองเลยบอกว่าเคยรักษาตัวที่ ศรีธัญญา เหตุนี้ทางตำรวจจึงได้แนะนำว่าให้ส่งตัวน้องกลับไปรักษาเป็นคนไข้ในศรีธัญญา ด้านของ มีล่า เธอพยายามติดต่อหาโรงพยาบาลที่ดีที่สุด หมอที่เก่งที่สุดระดับประเทศมารักษาและผ่าตัดในคืนนั้น
เจนนี่ เองได้สอบถามไปยังน้องชายว่าทำไมถึงทำแบบนี้ ซึ่งทางน้องชายก็บอกว่า เขาตั้งใจจะฆ่าตัวตาย ดื่มเหล้าเพื่อย้อมใจ แต่จิตใต้สำนึกของเขาคิดว่า เหตุผลที่เขาเป็นแบบนี้เขาคิดว่าเป็นเพราะ มีล่า จึงได้ตัดสินใจก่อเหตุขึ้น ยืนยันว่าตลอดมา ตนเองและคุณแม่ไม่เคยนิ่งนอนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลย หลังจากที่ มีล่า รักษาตัวเสร็จ ก็อยู่ในการดูแลของคุณหมอ จิตแพทย์ ซึ่งตนเอง และคุณแม่ก็พยายามทำดีที่สุด หาที่อยู่ให้ มีล่า ใหม่ เพราะไม่อยากให้ไปเจอกับที่อยู่ในที่เกิดเหตุ และคุณแม่ก็คอยไปดูแล มีล่า อยู่ตลอด
ด้านน้องชาย หลังจากรักษาได้ 2 เดือนน้องก็ดีขึ้น คุณหมอก็บอกให้ปล่อยตัวได้ แต่ก็ยังต้องเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ทานยาตลอด คุณแม่ และ เจนนี่ พยายามเยียวยาให้น้องดีขึ้น ยืนยันว่าครอบครัวทุกคนทุกข์ทรมานมาก ไม่อยากให้เป็นแบบนี้ ที่ผ่านมา มีล่า ขอที่อยู่น้องชาย แต่ไม่ได้บอกเรื่องการขึ้นศาลอย่างชัดเจน แต่ถ้าต้องการอย่างนั้นจริงๆก็ยินดี แต่ที่ไม่ได้บอกสถานที่เพราะไม่อยากให้ปะทะกัน เพราะน้องชายก็ยังคงต้องรักษาอยู่ หากทาง มีล่า ต้องการยืนยันฟ้องศาลจริงๆครอบครัวก็ยินดีไม่เคยห้าม แต่ในฐานะพี่สาวก็อยากจะให้ทั้งสองคนรักษาทั้งกายและใจก่อนเป็นอันดับแรกเท่านั้นเอง ถ้าตัดสินใจผิดก็ต้องขอโทษด้วย สุดท้ายก็อยากวอนสังคมให้เห็นใจด้วย แม่และเจนนี่พยายามหาทางแก้ไขมาโดยตลอด ไม่เคยละเลยเรื่องนี้จริงๆ
และนี่ก็เป็นเรื่องราว จากฝั่งของพี่สาว มีล่า ที่ยืนยันว่าเรื่องราวที่เล่ามาทั้งหมดคือเรื่องจริง พร้อมมีหลักฐานหากต้องการตรวจสอบ ซึ่งจากการโพสต์ชี้แจงแบบนี้ของพี่สาว ทาง มีล่า จะออกมาโพสต์อะไรอีกไหม ก็คงต้องรอดูต่อไป ซึ่งสิ่งที่เรารับรู้ได้จากเหตุการณ์นี้ คือความบอบช้ำของจิตใจ ที่ไม่รู้ว่ามันจะมีวันจางหายลงไหม
