เชน – แพร เล่าโมเมนต์วันขอแต่งงาน เพราะโควิด19 ทำแผนล่ม 2 ครั้ง

รักหวานฉ่ำ เชน – แพร ควงคู่เล่าโมเมนต์วันคุกเข่าขอแต่งงาน เพราะโควิด19 ทำแผนล่มถึง 2 ครั้ง

อีกหนึ่งคู่รักหวานฉ่ำที่ก่อนหน้านี้ได้คุกเข่าขอแต่งงานกันไปได้ไม่นานสำหรับคู่ของนักแสดงหนุ่มมาดเข้ม เชน ณัฐวัฒน์ กับ แฟนสาว แพร พรรัมภา อีกทั้งล่าสุดทั้งคู่ก็ได้ควงแขนกันมาเปิดใจ ผ่านทางรายการคุยแซ่บshow หลังคุกเข่าขอแต่งงานกลางทะเลอ่าวไทย แต่กว่าจะมีวันนี้ต้องเปลี่ยนสถานที่ถึงหลายรอบ

โควิด-19 มีผลกระทบกับทั้งคู่มากเลย?

เชน : คงเหมือนกับทุกคน 100% ที่โดนผลกระทบไม่ว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน หรือเรื่องธุรกิจที่ทำอยู่

เพิ่งขอแต่งงานกันไปหมาดๆ ยังตื่นเต้นอยู่ไหม?

เชน : ถ้าถามว่ายังตื่นเต้นไหม มันไม่ได้ตื่นเต้นแล้ว แต่มันเป็นความรู้สึกอีกแบบนึง ต่อให้วันนี้เราไม่มีโอกาสได้จัดงานแต่งงาน แต่วันนี้เราสองคนนั่งมองหน้ากันที่บ้าน เริ่มรู้สึกแล้วว่ามันต่าง มันเป็นความรู้สึกอีกอย่าง นี่คือคู่ชีวิตเราจริงๆ แล้ว คือมันไม่ใช่ความรู้สึกของแฟนแล้ว มันก็ดีนะ ผมว่ามันมีบรรยากาศบางอย่างที่มันมีความสุขมากขึ้น

คบกันมา 4 ปี แต่การวางแผนขอแต่งงาน 4 เดือน?

เชน : จริงๆ รู้จักแพรประมาณ 20 ปีแล้วที่เคยจีบเขา เชนเรียนปี1

แพรรู้หรือเปล่าว่าเขาชอบเรามา 20 ปีแล้ว?

แพร : รู้ค่ะ คือเขาก็เข้ามาจีบ แล้วเราก็แลกเบอร์กัน คุยกัน แต่ว่าไม่ได้เป็นแฟนกัน ตอนนั้นแพรก็ไม่ได้มีแฟนนะ แล้วก็ห่างหายไปเลย

เชน : เดทแรกนะครับ ภูมิใจเป็นผู้ชายคนแรกที่ได้ไปเดทกับแพร

แพร : คนแรก แล้ววนมาเจอกัน

เชน : แล้วพอมาถึงวันนี้ด้วยสถานการณ์ต่างๆ นานาที่มันทำให้เราเห็นแพรเครียดขนาดนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต ประกอบกับเรื่องป่วย เรื่องอะไรต่างๆ มันทำให้เรารู้สึกว่าเราอยากจะอยู่ข้างเขาจริงๆ อยากจะคอยซัพพอร์ตคอยให้กำลังใจ แล้วก็มานึกว่าเดี๋ยวกรกฎาจะเป็นวันเกิดเขาแล้ว ถ้างั้นเราวางแผนเลยดีกว่าว่าเราจะขอเขา แต่เราจะทำยังไงที่เราจะขอเขาได้ เพราะว่าตัวติดกันแทบจะ 24 ชั่มโมง เราเป็นเงาของกันและกันไปแล้ว เพราะฉะนั้นการที่จะหาโอกาสในการคุยโทรศัพท์มันยาก เราก็เลยพยายามหาจังหวะ โอกาสในการขอแต่งงาน

ที่แรกที่ไหน ที่เราคิดไว้ในหัว?

เชน : เชียงใหม่ครับ เพราะด้วยสถานการณ์ต่างๆ เรารู้ว่าคงไม่สามารถเกณฑ์เพื่อนๆ มาแล้วมาจุดพลุ นู่นนี่นั่นเราเลยรู้สึกว่าเราอยากได้บรรยากาศที่ค่อนข้างเป็นธรรมชาติ แล้วจังหวัดเชียงใหม่ผมมีคนที่รักอยู่ที่นั่นเยอะมาก เป็นผู้ใหญ่หลายๆ คน ก็นัดทุกคนแล้ว บางคนขับรถไปรอแล้ว เพื่อนจองตั๋วไปแล้ว แต่ว่าสุดท้ายมันไม่สามารถเดินทางได้จริงๆ เราก็เลยต้องระงับไปต้องขอโทษเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ไปรออยู่ที่นั่น

เปลี่ยนจากเชียงใหม่ไปที่ไหนต่อ?

เชน : เป็นภูเก็ตครับ อย่างที่บอกผมต้องการอะไรที่ค่อนข้างเป็นธรรมชาติ ไพร์ทเวทหน่อย เราก็เลยคิดถึงทะเลภูเก็ต เราก็เลยดูตามเกาะที่หาดสวยๆ จัดแบบว่ามีเทียนอะไรแบบนี้ เหมือนเพ้อฝัน สุดท้ายแล้วมันก็ไปไม่ได้อีก เพราะว่าหลังจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เปิดได้ไม่นานก็มีคนติด แล้วอีกอย่างที่เป็นประเด็นหลังคือเราไม่อยากขึ้นเครื่อง เพราะตอนเชียงใหม่กะว่าจะขับรถไป เพื่อให้เราเซฟตัวเอง เพราะเราต้องกลับมาทำงาน

พอเชียงใหม่ไปไม่ได้ ภูเก็ตก็มีคนติดเชื้อ ทำยังไงต่อ?

เชน : เชียงใหม่จองแล้ว ภูเก็ตคุยจะคอนเฟิร์ม แต่โชคดีที่ผมบอกว่าพี่ครับ ผมขอรอดูสถานการณ์ก่อน เพราะมันยังติดเรื่องปัญหาถ้าไปภูเก็ตต้องนั่งเครื่อง แต่สุดท้ายก็ไปไม่ได้ และโชคดีที่ไม่ได้ลงจองไป

แผนเปลี่ยนอีก ไปสถานีไหนต่อ?

เชน : ตอนแรกคิดว่าทำใจแล้ว คิดว่าอาจจะหาร้านกาแฟสักร้านริมแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วก็คิดขึ้นได้ว่ามีรุ่นพี่คนนึงซึ่งเป็นเพื่อนของแอนดรูว์ กรเศก เขามีเรือยอร์ช อยู่แถวๆ ชลบุรี พัทยา ซึ่งปกติตอนนี้เขาออกไม่ได้ เขาไม่สามารถรับนักท่องเที่ยวได้ ก็เลยให้คุณแอนดรูว์ถามว่าถ้าเราขอเป็นกรณีพิเศษ แล้วถามว่าพนักงานบนเรือ มีการ Swab Test หรือเปล่า ได้มีการพ่นฆ่าเชื้อหรือเปล่า เขาบอกเขาจัดการให้ได้ทุกอย่าง ก็เลยโชคดีออกได้ แต่ก็เช็กดิน ฟ้า อากาศ ทั้งวัน

ครั้งนี้เราจับสังเกตได้บ้างไหม?

แพร : ตั้งแต่คบเชนมา 4 ปี คือจับได้ทุกครั้ง แต่มีครั้งนี้ครั้งเดียวที่ไม่เอะใจสักนิดเดียว เพราะเราอยู่ด้วยกัน ทุกคนรู้ ไม่คิดว่าเขาจะมีโมเมนต์คุกเข่าขอแต่งงาน ด้วยสถานการณ์แบบนี้ด้วย คือคิดแค่ว่าเขาอยากเซอร์ไพรส์วันเกิดเราเฉยๆ

เรื่องขอแต่งงานก่อนหน้านี้เคยมีพูดคุยกันไหม?

เชน : ไม่เคยเลยครับ

แพร : ไม่มีเลย เพราะว่าแพรบอกเขาว่าพื้นฐานแพรไม่ได้อยากมีลูกนะ คือการแต่งงานไม่ได้จำเป็นสำหรับเราแล้ว โตแล้วก็เลยมองว่าเป็นเรื่องปกติไม่แต่งก็ได้

เชน : มันอาจจะเป็นความคิดขอวเราสองคนที่มีตัวอย่างเป็นรุ่นพี่ที่น่ารัก แล้วเขาก็มีความสุขในชีวิตคู่เขาดูแลกันดีมาก คบกันตั้งแต่มัธยม แต่ไม่ได้มีการแต่งงานเกิดขึ้น ไม่ได้มีการจดทะเบียนเกิดขึ้น และไม่มีปัญหากันเลย เขาอยู่ด้วยความเข้าใจจริงๆ

วันที่เซอร์ไพรส์เป็นยังไงบ้าง?

เชน : ผมไม่เคยนั่งเรือยอร์ชที่คลื่นแรงขนาดนี้ เหมือนไวกิ้งอยู่ช่วงนึง แต่โชคดีได้กินยาแก้เมาเรือ นั่งอยู่แบบนั้นประมาณชั่วโมงกว่า

ในที่สุดคุณก็ได้คุกเข่าแล้วหยิบกล่องแหวนขึ้นมา?

เชน : ไม่มีคำพูดใดๆ ทั้งสิ้นเลยครับ แต่เราซ้อมนะ ยิ่งกว่าท่องบทละครอีก คือวิธีการซ้อมของเราอะไรที่อยู่ในใจจะพูดออกมาเรื่อยๆ ให้เขาซึ้ง คุกเข่า จับมือ ที่รักเราอยู่กันมานานขนาดนี้แล้ว เราผ่านเรื่องอะไรมามากขนาดนี้ คิดไว้อย่างน้อย 1 นาที ต้องไล่ไปเรื่อยๆ ให้มันซึ้ง แต่พอถึงเวลาจริงๆ หยิบกล่องแหวนไม่ออก มันติดอยู่ในกางเกง พอเรามาโฟกัสตรงแหวนที่กางเกง คำพูดทั้งหมดหายไป พอหยิบออกมานั่งคุกเข่าก่อนเลย เปิดกล่องแหวนปุ๊บลมแรงมาก คราวนี้สมาธิเราหลุดไปแล้วว่าเราต้องพูด ทำให้ตอนนั้นเป็นอะไรที่ไม่ค่อยสมบูรณ์แบบ

แพรพอจะจำประโยคได้ไหมว่าเชนพูดอะไรให้เราฟังรู้เรื่องบ้าง?

แพร : จำได้ เพราะตอนแรกเขาคุกเข่า เราก็คิดว่าถ่ายรูปเล่นเหรอ แป๊บนึงก็มีช่อดอกไม้แล้ว เราก็แบบใช่แล้ว เขาก็พยายามพูด ซึ่งแพรก็บอกว่าอะไรเหรอ เขาบอกอยู่กับเชนนะ ซึ่งเขาน้ำตาคลอ แล้วก็พูดไม่รู้เรื่องของเขา ส่วนแพรน้ำตาก็ไหลเอง มันบอกไม่ถูกจริงๆ เพราะเราไม่ได้คิดเลยว่าจะมีโมเมนต์นี้เกิดขึ้นกับเรา

คำพูดที่อยู่ในใจ แล้ววันนั้นไม่ได้พูด?

เชน : ถ้าความรู้สึกไม่ได้พูดกับเขาสักเท่าไหร่ แต่หนึ่งอย่างในชีวิต คือเป็นผู้ชายคนนึงที่ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายอะไรในชีวิต ไม่ได้คิดว่าบั้นปลายชีวิตตัวเองจะเป็นยังไง เขาเป็นคนที่เข้ามาคอยสอน คอยเติมเต็มในสิ่งที่เราไม่รู้ เติมเต็มในสิ่งที่เราขาด คอยสอนให้เราเก่งขึ้น อะไรไม่ดี คอยทำให้เราเป็นผู้ชายที่ดีขึ้น เขาเคยพูดไว้ตั้งแต่วันแรกที่คบกันว่า คือเชนจะดูลุคเจ้าชู้ คนก็จะชอบมองว่าเราเจ้าชู้ ซึ่งมันก็จริงบ้าง ไม่จริงบ้างตามข่าว แต่เขาไม่ได้สนใจตรงนั้น เขาพูดกับผมว่า คอยดูนะ แพรจะทำให้ชื่อเสียงของเชนเปลี่ยนไป แล้ววันนี้ผมก็มั่นใจว่าคนไม่ได้มองผมแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว ที่ผ่านมาเราสองคนจูนกันมาแบบมันถึงจุดที่ผมมีความรู้สึกไม่ว่าผู้หญิงคนนี้จะทำผิดอะไรก็แล้วแต่ เชนจะไม่มีวันโกรธเลย

แพร : ขอบคุณค่ะ

แพรล่ะรู้สึกยังไงบ้าง?

แพร : ก็ขอบคุณเชน คือ แพรคุยกับเขาเยอะมาก ต้องมีเทคนิกการคุย เพราะส่วนตัวเขาเป็นคนแข็งๆ ที่ผ่านมา 4 ปี ก็ใช้ความสามารถพิเศษเยอะเหมือนกัน ที่ปรับเปลี่ยนเขา เขาก็น่ารักที่ฟังเรา แล้วค่อยๆ ทำตาม

ที่บอกว่าเหนื่อยมันเหนื่อยยังไง?

แพร : คำว่าเหนื่อยของแพร อย่างเชนจะรู้ว่าความรักของแพรไม่ต้องเพอร์เฟคท์ ต้อวแบบมีรถ มีบ้าน เงินทอง คือแพรเป็นคนชอบความรัก100% ตั้งแต่คบครั้งแรกแพรบอกเชนขอเติมเต็มความรัก100% นะ เรื่องเงินทอง แพรหาของแพร แพรจัดการของแพรเองด้วยลู่ทางด้วยกัน สร้างด้วยกันได้ คำว่าเหนื่อยของแพรคือพื้นฐานเขาอาจจะคิดตามเราช้ากว่า เพราะประสบการณ์เราเยอะกว่า ด้วยการเอาตัวรอด การวางแผนชีวิตจะค่อนข้างใช้เยอะ การปรับเปลี่ยนเขาก็ต้องใช้เหตุและผลสูงมาก แต่ที่ผ่านไปได้เพราะว่าเรามองแล้วว่าพื้นฐานเขาเป็นคนดี มันสามารถปรับเปลี่ยนได้ มันก็จะไม่เหนื่อย แล้วก็ในทุกๆ วันที่มันเหนื่อย แค่เราเติมความรักให้กันหรือให้กำลังใจกันทุกวัน แบบจับมือหรือบอกรักอะไรพวกนี้ มันเป็นพลังที่ต่อให้เหนื่อยแค่ไหน แพรก็สู้กับมันไปต่อเรื่อยๆ

แต่ปกติเวลาคุกเข่าขอแต่งงานมันจะมีช่อดอกไม้ แต่ทำไมของเราเป็นช่อผัก?

เชน : ประเด็นแรกแพรเป็นคนชอบทำอาหารมาก แล้วช่วงนี้เขาบ้าทำอาหารจริงๆ เราก็เลยมองว่าเราเคยเห็นที่เป็นช่อแบบนี้ของฝรั่ง แล้วเรามีความรู้สึกว่ามันน่ารัก มันดูแตกต่าง แล้วผมมีความรู้สึกว่าแพรต้องชอบ เพราะแพรเคยพูดกับผมหลายรอบแล้วว่า วาเลนไทน์ไม่ต้องให้ดอกไม้นะ มันสิ้นเปลือง แต่วาเลนไทน์เราก็ต้องให้อยู่ดี หมเลยรู้สึกว่าวันนี้เราไม่ให้ดอกไม้ แต่เราให้ในสิ่งที่เขาชอบก็คือเรื่องของผักที่จะเข้าครัว

เห็นว่าวันนั้นขอแต่งงานเสร็จคิดอยู่นานเลยว่าจะลงรูปในโซเชียลดีไหม?

เชน : เราสองคนเป็นคนไม่ชอบดราม่า ถึงไม่ค่อยเห็นเราสองคนอยากเป็นข่าวเราไม่ชอบตอบคำถามหรือเถียงกับใครในไอจี เราคิดว่าถ้าลงไปสถานการณ์ตอนนี้

แพร : ในวันนั้นมีการชุมนุมด้วยในกรุงเทพฯ

เชน : เราก็กลัวมันจะดราม่าไหมต่างๆ นานา แต่สุดท้ายผมคิดว่า นี่คือวันเกิดแพร แล้วเราก็ไม่ได้ทำอะไรผิด เราอยากอวยพรให้คนที่เรารักคงไม่เป็นไรมั้ง ก็ตัดสินใจลง แต่ก็คิดอยู่นานพอสมควร

แล้วพอลงไปเกิดดราม่าไหม?

เชน : ไม่มีเลย พอลงไปมันเป็นความรู้สึกอีกแบบนึงเลย เห้ย..เป็นร้อยๆ คอมเมนต์ที่เข้ามายินดีกับเรา คนรักเราสองคนเยอะขนาดนี้เลยเหรอ