เดี่ยว สุริยนต์ เปิดใจเรื่องความรัก ทำไมคบแฟน 4 ปี แต่ไม่เคยเปิดตัว

เดี่ยว สุริยนต์ เปิดใจเรื่องความรัก ทำไมคบแฟน 4 ปี แต่ไม่เคยเปิดตัว รับคุยเรื่องอนาคตแต่ยังไม่ใช่แพลนแต่งงาน

คร่ำหวอดในวงการบันเทิงมา 17 ปี สำหรับหนุ่ม เดี่ยว สุริยนต์ อรุณวัฒนกูล  นักแสดงหนุ่มกล้ามโตจะเปิดใจชีวิตในวงการบันเทิง  พร้อมเผยเส้นทางความรักกับ หยง แฟนสาวนอกวงการ  ที่คบหาดูใจกันมานานเกือบ 4 ปีเต็ม แต่ไม่เคยโพสต์รูปคู่ และในวันนี้นักแสดง พิธีกรหนุ่ม ได้มาเปิดใจในรายการ คุยแซ่บSHOW ทางช่องOne31 ที่มี ธัญญาเรศ เองตระกูล และ เป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกร

ทราบว่าแต่ก่อนอยู่แกรมมี่?

เดี่ยว : ใช่ครับ ผมเริ่มจากเป็นพิธีกร โอไอซี (OIC) ถ้าใครอยู่ช่วงนั้นก็น่าจะเคยเห็นหน้าค่าตากัน หลังจากนั้นก็ออกไปทำรายการอื่น ๆ ถามว่าไม่ได้กลับมาแกรมมี่กี่ปีแล้ว ก็น่าจะ 6-7 ปีได้ วันนี้ได้กลับมาก็งง ๆ เพราะมีตึกเพิ่มก็ไม่รู้ว่าต้องเข้าตรงไหนดี (หัวเราะ) วันนี้ได้กลับมาเจอพี่ก็คิดถึง พอผมทำพิธีกรได้ 3 ปี ก็เริ่มรับงานละคร เพราะแต่ก่อนจะมีแผนกดูแลพิธีกร ซึ่งเขาก็จะขายงานอย่างอื่นด้วยนอกจากเพลง ก็มีโอกาสได้ร่วมเป็นละคร

เล่นละครถอดเสื้อทุกเรื่อง?

เดี่ยว : ครับ ก็เป็นแค่ช่วงแรก ๆ อาจจะเป็นเพราะจังหวะด้วยอะไรด้วย แต่ช่วงนี้ก็เพลา ๆ ลงแล้ว เดี๋ยวทุกคนเบื่อกัน เรื่องกล้ามที่เราไม่ได้โชว์บ่อย ๆ เพราะเราอยากให้มันสมบูรณ์จริง ๆ  คือถ้าต้องมีถ่ายฉากถอดเสื้อต้องมีเวลาเตรียมตัวสักเดือนหนึ่ง คือเราอยากให้แฟน ๆ ที่ชอบออกกำลังกายรู้สึกว่าหุ่นเราสมบูรณ์และสวยงาม ไม่อยากให้มีอะไรที่เป็นจุดบกพร่องออกไป

เล่นมาหลายเรื่องไม่เคยเล่นบทพระเอกเลย?

เดี่ยว : ครับ แต่ไม่น้อยใจเลย คือเรามีความสุขในการทำงาน ไม่ว่าบทอะไรมาเราก็จะแฮปปี้ไปหมด ถามว่าเล่นมากี่เรื่องแล้วผมจำไม่ได้ คิดว่าน่าจะเกิน 30 เรื่อง เท่าที่เคยนับ ๆ แต่บทที่รับมาผมก็ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ ขอบคุณพี่ ๆ ผู้จัดด้วย เพราะเราจะได้บทที่ดีเสมอ คือที่พี่เสนอมาเรารับหมดเลย เราไม่เคยเลือกเพราะว่าพี่ ๆ เขาเล็งเห็นแล้วว่าเราได้ ก็เลยรับทุกเรื่อง ถ้ามีเวลาลงตัวได้ และไม่เป็นการรบกวนของแต่ละกองด้วย เราก็รับหมด

เห็นว่ามีสาวคนรู้ใจ คนนี้คบมากี่ปีแล้ว?

เดี่ยว : ตอนนี้เกือบ 4 ปี แล้ว ชื่อหยง คือเราเริ่มจากการเป็นเพื่อนกันก่อน ทำงานร่วมกัน เจอกัน พอคุยกันแล้วเรารู้สึกว่าเขาธรรมชาติดีเนอะ คือเราไม่ต้องมีกำแพง ไม่ต้องปกปิด อยากคุยอะไรก็คุยได้ คุยแล้วมีความสุข

เจอกันครั้งแรกที่ไหน?

เดี่ยว : ครั้งแรกคือเราทำงานอีเว้นท์เป็นพิธีกร ส่วนเขาเป็นออแกนไนซ์ ก็เลยมีการพูดคุยกัน เป็นเพื่อนร่วมงานกันปกติ จนเราไม่ได้ยินข่าวเขาเป็นปี ตอนหลังมารู้ว่าเขาเปลี่ยนงานแล้ว ไปทำของตัวเอง เราก็ฝากความคิดถึงผ่านเพื่อน ๆ ไป อยู่ดี ๆ มีวันหนึ่ง เหมือนเราเปลี่ยนเครื่อง ไลน์ ที่เคยใช้ติดต่องานกันมันก็เด้งขึ้นมาใหม่ เราก็เลยทักเข้าไป เขาก็ตอบกลับมา ไป ๆ มา ๆ ก็เลยคุยกันเยอะขึ้น ก็คุยกันเป็นเดือน คือเราก็ถามสารทุกข์สุกดิบไป ทำนองว่า ทำไมออกแล้วไม่บอกกันเลย ก็เลยมีการโต้ตอบกันมา โต้ตอบกันได้เดือนกว่า ก็เริ่มจีบเขา คือผมไม่กล้าพูด คือเรากลัวโดนเขาปฏิเสธแล้วจะเป็นเพื่อนกันไม่ได้ ผมไม่ชอบบรรยากาศแบบนั้นก็เลยค่อย ๆ เช็ก เริ่มมี Good night ทุกวัน Good morning ทุกวัน แล้วดูว่าเขาตอบกลับมาไหม คือถ้าเขานิ่งไป เราก็จะรู้แล้วว่า เขาอาจจะไม่อยากติดต่อเรา แต่ถ้าเขาตอบกลับมา ไลน์ปุ๊บตอบปั๊บ ก็หมายความว่าเขาไม่รังเกียจเรา หลังจากนั้นก็เริ่มใส่คำว่าคิดถึง จากไลน์ก็มีโทรบ้าง อันนี้เป็นช่วงเริ่มต้น

คุยนานไหมกว่าจะเป็นแฟน

เดี่ยว : เกือบครึ่งปีได้ ก็มีนัดเจอกัน ตอนแรกเป็นกินข้าวดูหนังก่อน เพราะเป็นสถานที่เปิดกว้าง ทำบุญบ้าง ก็ยังไม่มีถูกเนื้อต้องตัวกัน แรก ๆ ไม่กล้ากลัวว่าเขาจะหาว่าเราฉวยโอกาส  มาเริ่มกล้าตอนกินข้าวได้สักเดือน

คบมา 4 ปีแล้ว มองเรื่องอนาคตหรือยัง

เดี่ยว : เรื่องแต่งงานยังเลย ตอนนี้เราก็พยายามทำทุกวันให้มันดี ความเชื่อว่าถ้าวันนี้ดี ก็เหมือนเป็นการเตรียมตัวสำหรับอนาคตที่ดีด้วย อย่างน้อยถ้ามีอะไรผิดพลาดก็น่าจะแก้ไขได้ แต่ยังไม่ถึงแต่งงานขนาดนั้น ส่วนครอบครัวผมก็โอเค เขาก็แล้วแต่เรา แต่ทำอะไรก็ขอให้อยู่ในกรอบ ถูกต้อง มีอะไรก็พูดกันดี ๆ อย่าปิดบังอะไร ก็แชร์กัน คุยกัน คือครอบครัวผมก็เป็นแบบนี้ ก็คุยกันได้ทุกเรื่อง

หลายคนสงสัยว่าคบกันมานาน ทำไมไม่มีรูปลงโซเชียล

เดี่ยว : มันเขิน คือเราลงแล้วเราก็ไม่รู้ว่าจะแคปชั่นอะไร จะลงโมเมนต์นั้นอย่างไร เราก็จะมีถ่ายรูป อย่างไรเที่ยวไหนเราก็มีถ่ายรูป สมมติถ่ายกล้องผม ผมก็จะส่งให้เขา อย่างวันไหนเราถ่ายรูปตัวเอง เราก็จะส่งให้เขา ส่วนเขาก็ไม่ลงเหมือนกัน โชเชียลของแต่ละคนก็ดูแลกันไป แต่จะไม่มีรูปคู่  ถามว่าไม่น้อยใจเหรอ ไม่เลยเพราะเราคุยกันแล้วความเห็นเดียวกัน ตั้งแต่แรก  ถ้าเป็นรูปคู่เท่าที่เคยลง น่าจะเป็นรูปทำบุญ ไปด้วยกัน ทำกิจกรรมกับน้องๆ  เรายังไม่เคยคุยเรื่องแต่งงาน ก็อย่างที่บอกไปว่าเราก็ทำวันนี้ให้ดี ให้เข้มแข็ง แต่ก็มีอนาคตบ้างว่ามองอนาคตอย่างไร อยากไปถึงตรงไหน