วันนี้ในรายการ คุยแซ่บ show พาอดีตนักแสดงหนุ่ม เติ้ล ตะวัน ควงคู่ภรรยาคนเก่งอย่าง กระแต เสาวคนธ์ พร้อมโชว์ตัวลูกสาวสุดน่ารักน้อง มียา ในวัย 4 ขวบ แต่ความแสบ และความฉลาด มีเหลือล้นจนกลายเป็นขวัญใจชาวโซเชียล พร้อมยอมรับหลังมีลูกทำให้นิสัยพ่อกับแม่เปลี่ยนเป็นคนละคน
มียา อายุเท่าไร?
น้อง มียา : 4 ขวบ
วัยนี้ของน้อง มียา เป็นอย่างไรบ้าง?
เติ้ล : ต้องนั่งคุยกันแบบดีๆ คุยแบบผู้ใหญ่คุยกัน สิ่งที่นั่นที่สุดคือภาษาอังกฤษ เขาไม่ได้เข้าโรงเรียน เขาพูดได้เอง เขามีทักษะตรงนี้ดีมาก
เริ่มต้นจากอะไร ทำไมน้อง มียา ถึงสนใจเรื่องภาษา?
เติ้ล : เขาป่วย ตอนช่วงประมาณ 1-2 ขวบ ป่วยบ่อยมาก เราก็เลยเปิดยูทูบให้ดู แม่เขาบอกให้ดูแต่ภาษาอังกฤษ ไม่ให้ดูภาษาไทยเลย
กระแต : อย่างประโยค ไปไหนมา อยากทำอะไร อยากกินอะไร คือฟังได้ ศัพท์บางคำ พวกสัตว์บางตัวที่เรายังไม่รู้ บางทีเขาก็รู้
ไม่ว่าน้อง มียา จะเจอสถานการณ์อะไร พอเจอคุณย่าก็จะเป็นอีกคนหนึ่งเลย?
เติ้ล : คุณย่าก็จะตามใจ เหมือนหลานไปอยู่บ้านเขาที เขาก็อยากให้หลานมีความสุข คนนี้เขาก็หัวหมอ พอรู้ว่าย่าอยากให้มีความสุข กลายเป็นเอาแต่ใจตัวเอง แล้วก็จะแบบมีพลังกับแม่
เห็นว่ามีท้าทายอำนาจมือแม่ด้วย?
เติ้ล : ใช่
กระแต : เวลาป้อนข้าว ถ้าอยู่บ้านย่า ถ้าเขาอิ่มคุณย่าก็จะแบบพอๆ เก็บๆ นางก็จะรู้แล้วว่ามาบ้านย่าไม่กินก็ได้ หรือบางทีเราตื้อจะป้อน นางก็จะร้อง ร้องเสร็จย่าไม่มาสักที นางก็จะตะโกนแล้วเงยขึ้นไปบนห้องย่า จนย่าเปิดประตูออกมา
คุณย่าหลงมาก?
เติ้ล : ตัวเขาเองก็รักย่ามาก แต่ก็มีไหวพริบที่ดี ตอนเด็กๆ ตัวเล็กเลยนะ ย่าให้แหวน มองมือ มียา ชอบแหวนไหม ชอบๆ ตอนนั้นยังพูดไม่ชัดเลย ย่าบอกว่าของย่าให้ มียา หมดเลยนะ นี่ก็บอกว่า แม่ก็ชอบ ย่าเลยให้แหวนแม่วงหนึ่ง
เห็นว่าอยู่บ้านย่ากับอยู่บ้านเรา เป็นคนละแบบเลย?
เติ้ล : ใช่
คุณย่าก็เป็นนักแสดง คุณพ่อก็เป็นนักแสดง ผู้กำกับ ด้วย มียา ในอนาคตอยากเข้าวงการไหม?
เติ้ล : เขาไม่ได้เป็นคนอยากจะเล่นละครนะ รู้สึกเหมือนเขาชอบร้องเพลงมากกว่า พอแม่เขาถามว่า มียา เล่นละครไหม เขาบอกไม่ เขาอยากเป็นผู้กำกับ
ระหว่างผู้กำกับกับนักร้อง มียา อยากเป็นอะไรมากกว่ากัน?
น้อง มียา : นักร้อง
ล่าสุดน้อง มียา ไปเล่นละครคุณพ่อมาด้วย?
กระแต : เอาไปเล่นแบบขำๆ เหมือนเป็นลูกค้าไปร้านอาหารของพระเอก นางเอก ตอนจบ มีบทพูด 2 คำ
ตอนนี้คุณพ่อ คุณแม่ กำลังเครียดมาก เพราะไม่รู้ว่าน้องร้องไห้จริงหรือว่าร้องไห้ปลอม?
กระแต : เขาจะเป็นคนอาเจียนบ่อย ถ้าอาเจียนออกมา หรือท้องเสีย อันนี้คือเรื่องจริงแล้ว แต่บางครั้งพอเขาเริ่มโตเขาเหมือนมีปวดท้อง ซึ่งเราไม่รู้แล้วว่าปวดท้องอ้างหรือจริง บางทีเขาก็บอกว่าแม่ปวดท้อง หนูอยากไปหาหมอ แม่พาหนูไปเลย ก็คิดหรืออยากนั่งรถเล่นหรือเปล่า บางทีเขากินชีส กินพิซซ่า ตีลังกาตลบไปมา ตื่นมาตี 2-3 คืออาเจียนชีส
มียา อยากมีน้องใช่ไหม?
น้อง มียา : อยากมีน้องผู้หญิง
ล่าสุดอธิฐาน แล้วคำอธิฐานคิดเองด้วย?
กระแต : ใช่ๆ เขาก็นั่งไหว้แล้วบอกว่าขอให้เราไม่ตาย ขอให้แม่ไม่ตี มียา
คุณพ่อกับคุณแม่ใครดุกว่ากัน?
น้อง มียา : แม่ แต่พ่อใจดี
เติ้ล : เวลาออกจากบ้าน แล้วพี่รีบ เขาก็จะวิ่งมา พ่อลืม เขาก็จะหอมแก้ม กอดกันทุกวัน และบอกรักทุกวัน
การมีน้อง มียา ทำให้นิสัยของคุณพ่อ คุณแม่เปลี่ยนเหมือนกัน จากที่เมื่อก่อนเป็นคนไม่ค่อยยอมใครทั้งคู่ หลังๆ เริ่มเปลี่ยน?
เติ้ล : มันเปลี่ยนจากเวลาเรามีลูก บางทีเราติสท์ไม่ทำก็ได้ไม่เห็นต้องทำ มันกลายเป็นว่าเรามองลูกสำคัญ เรื่องเงินคือไม่ใช้เงินเลย อย่างเสื้อผ้า ใส่แต่ชุดเดิมๆ คือเป็นชีวิตอีกแบบหนึ่งเลย เราถึงบอกว่าเราไม่เคยคิดว่าจะรักใครคนใดคนหนึ่งได้ ที่เรียกว่าสามารถแลกชีวิตของเราได้ หรือจากเราที่ไม่เคยกลัวตาย กลายเป็นกลัวตาย ถ้าเราตายไปลูกเราจะเป็นอย่างไร
นิสัยของทั้งสองคนจากที่สู้กันตลอดเวลา หายไปหมดเลย?
เติ้ล : พี่ว่านิสัยพี่เหมือนเดิม เมียเหมือนเขาจะเบาลง
กระแต : เหมือนมันต้องอยู่ด้วยกันอยู่ดี จะมาเหมือนสมัยก่อนที่มันไม่มีลูก ต่างคนต่างไป วันนี้ฉันโกรธเธอ ฉันไปแล้ว มันก็ไม่ได้ เราก็ต้องอยู่บ้านดูลูกอยู่ดี ถ้าเราโกรธเขานาน เขาอยู่บ้านเขาก็อึดอัดเหมือนกัน ก็ปล่อยๆ ไป
คุณพ่อพอมีลูกสาวกลายเป็นผู้ชายมิดชิด ล่าสุดพาลูกไปถ่ายละคร แล้วเจอผู้ชายเยอะ คุณพ่อบอกว่าอยู่กับผู้ชายไม่ได้นะ กลัว?
เติ้ล : เขาฟังพ่อพอสมควร เวลาพ่อพูด เขาจะแบบกลายเป็นไม่ชอบผู้ชายไปเลย เรื่องการแต่งตัวมิดชิดอยู่บ้านพอมีลูกสาว สมัยก่อนแก้ผ้านอน แต่พอมีลูก ใส่เสื้อ
กระแต : แต่ไม่ใส่กางเกง
เติ้ล : ไม่ใช่ ก็ใส่กางเกง ใส่เสื้อนอน ก็ใส่บ็อกเซอร์
หวงมากขนาดไหน?
เติ้ล : ยังตอบไม่ได้เหมือนกัน แต่ก็เคยคิดว่าถ้าเกิดลูกเรามีแฟน ไม่ใช่ว่าห้ามเขาไม่ให้คบ แต่อยากให้เขาเห็นว่าเขาปรึกษาเราได้ทุกเรื่องมากกว่า
ปกติน้อง มียา มีเซอร์ไพรส์คุณพ่อ คุณแม่ไหม?
กระแต : ก็มี พอเขา 4 ขวบ เขาจะเริ่มวาดรูปได้ อย่างวันเกิดคุณปู่ วันเกิดคุณย่า ก็ให้เขาเขียนให้ เขาก็จะวาดรูปคุณปู่ คุณย่า แล้วมีกลมๆ ตรงท้องคุณย่า เขาบอกเป็นเบนโตะ เหมือนเป็นลูกคุณย่า
มียา เป็นเด็กที่แบบถ้า มียา รู้ โลกรู้?
กระแต : ใช่
เติ้ล : คือแบบเรามีเซอร์ไพรส์ปู่ว่าจะมีลูกโป่ง เขาจะบอกปู่ว่า มียา ยังไม่ได้พูดเลยว่ามีลูกโป่ง ย่าก็ขำ
มีอะไรอีกไหมที่เราต้องฝึกน้อง มียา อยู่?
กระแต : มีตอนอึ ตอนเข้าห้องน้ำ แม่ก็ทุบชักโครก มีอันเล็กของเด็ก อันใหญ่ของผู้ใหญ่ นั่งข้างกัน คือไม่นั่งเลย เขาไม่ยอมนั่งแล้วบอกว่าหนูรักเพิสมาก มีช่วงหนึ่งหลอกเขาว่าคนที่ทำแพมเพิสติด โควิด เพราะฉะนั้นเพิสที่เราซื้อมาใหม่มันก็จะติด โควิด แล้ว แล้วเขาจะเช็กทุกวัน เวลาเขาปวดอึ เขาก็จะไปเปิดตู้ดูว่ามันจะหมดหรือยัง จนกระทั่งไปถึงอันสุดท้าย แล้วเหมือนเขาทำใจว่าจะอึดีไหม ยังไงดีแม่ มันอันสุดท้ายของหนูแล้ว แม่ก็สงสาร ก็เลยบอกว่า แม่ซื้อมาให้แล้ว แล้วนางก็บอกว่า แม่แล้วมันมี โควิด ไหม
แสดงว่า มียา ก็รู้เรื่องของ โควิด เหมือนกัน?
กระแต : รู้มากๆ
เติ้ล : รู้จัก โควิด รู้จักลุงตู่
กระแต : เคอร์ฟิวอะไรแบบนี้รู้หมดเลย
มีแต่คำว่าน่ารักเต็มไปหมดสำหรับน้อง มียา แอดไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงเป็นขวัญใจชาวโซเชียล ทั้งแสบ และฉลาดขนาดนี้ จะไม่ให้เอ็นดูได้อย่างไรไหว