เสือ – กวาง ร่ายยาวถึงครอบครัว ยินดีพาแม่พบหมอ

เสือ เสฎกานต์ – กวาง น้องสาว ร่ายยาวถึงครอบครัว ยินดีพาแม่พบหมอ แจงไม่มีรถไปรับเพราะแม่ยึดไปแล้ว

จากกรณีดราม่าของครอบครัว เสก โลโซ ที่ภรรยาอย่าง กานต์ วิภากร ได้มีการโพสต์แฉ ดรีม แฟนสาวของ เสือ เสฎกานต์ ลูกชายคนโต จนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต กระทั่งต่อมา เสือ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ ว่าไม่ได้เข้าข้างใคร ยังคงสำนึกบุญคุณพ่อ แม่ เสมอ แต่การที่ตนออกมาพูดนั่น เพราะเห็นถึงความไม่ถูกต้อง ยอมรับอยากให้คุณแม่ไปปรึกษาจิตแพทย์

ต่อมา กานต์ ได้มีการโพสต์ข้อความลงไอจี เพื่อสื่อข้อความถึงลูกชาย ว่าอยากให้เสือเป็นคนพาไปพบจิตแพทย์ แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้ไปพบคุณหมอ ล่าสุด เสือ เสฎกานต์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความร่ายยาวว่า

ผมอยากตอบในเรื่องไปตรวจสุขภาพจิตก่อนนะครับ ตอนนี้มีประเด็นมาว่า เสือบอกให้แม่ไปตรวจ​ แต่ก็ไม่ยอมพาไปซักที​ แม่โพสต์ให้ไปรับไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชน​ แห่งหนึ่งตอนวันพฤหัสที่ 6 ที่ผ่านมา ก่อนอื่นเลย ผมไม่เห็นด้วยกับการที่ต้องโพสต์นัดกันแบบนี้เลย ถ้าอยากไปทำไมต้องไปให้คนรู้ ให้คนทำข่าว ผมเห็นว่านี่ไม่ใช่อะไรที่ต้องเป็นข้อมูลที่ต้อง public แบบนี้เลย อีกอย่างหนึ่งที่ผมอยากจะบอกคือผมอยากให้ไปตรวจกันที่โรงพยาบาสมเด็จเจ้าพระยา รพ.นี้เป็นที่ที่เข้มงวดในการตรวจและรักษา ตรวจทุกอย่างได้อย่างดีและละเอียด”

“หมอชำนาญเรื่องจิตเวชมากที่สุดในประเทศ และเป็นที่แรกที่แม่เสนอมาด้วย น้องก็เห็นด้วยกับที่นี้ ที่สำคัญสุดคุณพ่อก็เคยมารักษาที่นี่แล้วผมเห็นว่ามีการบำบัดรักษาจริงจัง ผมไม่ได้ว่าอีกที่นึงไม่ดีนะครับ แต่ถ้าจะตรวจที่เดียวให้ชัวร์ผมเชื่อใจที่นี่มากที่สุด แม่ส่งมาว่าพ่อไม่ให้ไปที่สมเด็จฯ แต่ผมโทรไปปรึกษาพ่อแล้ว เขาบอกว่าไม่ได้ห้ามหรือมีอะไรกับที่นี่เลย​ ตอนที่พ่อไปบำบัดเขาก็ไม่ได้มีทางเลือกรพ.ด้วยเลย แม่โพสต์ว่ายอมลูกตั้งแต่เกิดงั้นยอมไปตรวจที่ที่ผมว่าดีและเหมาะสมที่สุดจะดีกว่า”

“เหตุผลที่ผมเชื่อว่าเขาป่วย ผมอยากบอกก่อนว่าผมไม่ได้ว่าแม่ว่าป่วยหรือเป็นบ้าอะไรตามที่แม่อาจจะเคยเห็นออนไลน์ แต่ผมสังเกตมาหลายๆปีมาก ทั้งเรื่องการงาน การคุย การใช้ชีวิต การตัดสินใจและอารมณ์ต่างๆที่ผมเห็นมาเรื่อยๆ ผมไม่ใช่คนเดียวแน่นอนที่สังเกตอะไรพวกนี้ได้ ครอบครัวและคน ใกล้ชิดมากมายก็รู้และเห็นด้วยกันหมดแต่ไม่มีใครกล้าออกมาบอกหรือพูดได้ ในวันที่เกิดเหตุการณ์ล่าสุดที่ทำให้ผมต้องออกมาข้างนอกเป็นวันที่ผมเห็นสีหน้าและอารมณ์ที่ผมไม่อยากที่จะต้องเห็นเลย รู้เลยว่าไม่ปกติจริงๆ ที่ที่เป็นบ้านไม่ปลอดภัยจริงๆ ผมไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้มาถึงจุดนี้ได้แต่ผมไม่อยากให้มันต้องหนักไปมากกว่านี้แล้ว”

“แม่ก็บอกต่อมาให้เอาน้องกวางไปตรวจด้วย ถ้าจะให้สบายใจผมก็โอเค แต่ผมไม่เห็นว่าการตรวจสุขภาพจิตเป็นอะไรที่ต้องท้ากันเลย ถ้าจริงใจตรวจทำไมต้องคิดว่าคนอื่นป่วยด้วยที่คิดว่าตัวเองป่วยการตรวจและบำบัดเป็นการดูแลตัวเองที่ดีมากไม่ใช่การเอาชนะคนอื่นเลย พูดถึงกวางนะครับ”

“ถ้าจะให้เขาตรวจผมบอกตรงๆเลยว่าน้องกวางเป็นโรคทางสุขภาพจิตมาเป็นหลายปีแล้ว รวมไปถึง​ Depression, Anxiety Disorder, และ ADHD แต่น้องเขาก็ยอมรักษาและขยันในการทำให้ตัวเองดีขึ้นจนถึงวันนี้ เขาเป็นคนที่เก่งมากและแข็งแรงมากจริงๆ น้องเป็นโรคพวกนี้เพราะอะไรก็ขอให้น้องพูดเองเรื่องนี้ดีกว่า​ ผมสนับสนุนให้คนเราคุยกันเรื่องสุขภาพจิต​ mental health ให้มากขึ้น มันไม่ใช่อะไรที่ต้องอายเลย การที่เราคิดว่าเราป่วยหรือรู้ว่าป่วยทางจิตไม่ใช่อะไรที่ไม่ดีเลย เราควรกล้าคุยกันเรื่องนี้และช่วยกันสู้ต่อไปให้สุขภาพเราดีขึ้น”

“สุดท้ายเลย การทีผมจะต้องออกมา โพสต์แบบนี้เป็นอะไรที่ผมไม่ชอบเลย ผมเห็นว่าเรื่องครอบครัวไม่ควรต้องออกมาในที่สาธารณะขนาดนี้ (ผมรู้ว่าผมออกรายการ​ และแถลงข่าวตอนวันที่ 4 ม.ค. ผมทำไปเพื่อชี้แจงประเด็นกล่าวหาที่ไม่ถูกต้องที่ได้รับมา) แต่ในกรณีที่แม่โพสต์เยอะมาก และผมไม่พูดอะไรออกมาเลย ผมก็เลยต้องมาพูดให้แม่และทุกคนรับฟังด้วย เพราะหลายคนก็ได้เห็นและตัดสินใจในคำของฝ่ายเดียว สิ่งที่คนพิมพ์มาหาผมเยอะๆ​ คุณไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นเลยจริงๆ คุณไม่รู้ว่าผมโดนอะไรมาและเจออะไรมา ตามที่ผมบอก แต่ละครอบครัวมันไม่เหมือนกันเลย คุณอาจจะเห็นเหตุการณ์ของครอบครัวผมตามสื่อ แต่ชีวิตจริงมันลึกกว่านั้นเยอะ ชีวิตจริงของผมมันไม่ได้อยู่แต่ในข่าวนะครับ”

“เสือพร้อมที่จะพาแม่ไปตรวจที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา วันที่แม่กลับมาจากต่างจังหวัดก็ดี ผมไม่มีรถเพราะแม่ยึดไปแล้ว จะให้เอาแท็กซี่ไปรับก็เสี่ยงโควิดอันตรายมากช่วงนี้ ปลอดภัยที่สุดคือไปเจอกันที่รพ.เลย เฉพาะพ่อแม่และลูกๆมาเจอกัน ไม่ต้องมีบุคคลที่ 3 ถ้าไม่ได้จริงๆเดี๋ยวหาทางกัน ไม่ใช่ปัญหาใหญ่เรื่องทุกอย่างผมปรึกษากันกับน้องกวางโดยตรงและเห็นตรงกัน ไม่มีใครมาเกี่ยวข้องหรือมาปั่นความคิด เรื่องและประเด็นอื่นที่เกิดขึ้น ถ้ามีโอกาสผมจะบอกทุกอย่างทีเดียวเลยนะครับ ขอบคุณทุกคนที่เข้าใจและให้กำลังใจมาตลอดมากๆเลยนะครับ จากใจผม”

พร้อมแคปชั่นตบท้ายด้วยว่า “คำตอบของผมรักและคิดถึง”

ด้านของ น้องกวาง น้องสาวของ เสือ ก็ได้โพสต์ข้อความลงอินสตาแกรมด้วยเช่นกันว่า

“การที่คนคนหนึ่งป่วย ไม่ใช่เรื่องที่น่าอายอะไรเลย​ คนเราเป็นมนุษย์ก็ต้องมีเรื่องที่ทำให้เราเจ็บ​ เปลี่ยนไปอยู่แล้ว​ การที่มีคนใช้คำว่า “ป่วย” มาเป็นคำเหยียดนี่มันไม่ถูกต้องเลยค่ะ ทำแบบนี้มันทำให้คนที่ป่วยไม่ยอมรับ อาย ซึ่งจะทำให้ทั้งผู้ป่วยและคนรอบตัวต้องเจ็บปวดไปด้วยถ้าหากเรายอมรับเรื่องนี้ได้ ยอมรักษา ใจดีกับตัวเอง จิตใจเราก็จะแข็งแรงขึ้นและก็รักคนที่เรารักอย่าง healthy ได้ค่ะ”

“ของตัวกวางเองเลย ที่เคยไปตรวจมาจะมี​ depression (ซึมเศร้า), anxiety disorder (โรควิตกกังวล), ADHD (โรคสมาธิสั้น – ซึ่งชื่อเรียกภาษาไทยอาจทำให้หลายคนคิดว่ามันก็แค่สมาธิสั้น แต่ไม่ใช่ค่ะ มีคุณหมอคนหนึ่งเคยบอกกวางว่าจะมีอาการคล้าย bipolar หมอหลายๆ คนจึงวินิจฉัยว่าคนที่เป็น ADHD เป็น bipolar ค่ะ อันนี้ก็ ถ้าไปหาอ่านดูก็คงเข้าใจได้เยอะขึ้นนะคะ ถ้าต้องไปตรวจอีก ก็คงได้ผลมาเหมือนเดิม​ หรือไม่ก็น้อยลง เพราะว่ากวางพยายามทำให้ตัวเองดีขึ้นให้ได้ และมี support system (เช่นพี่เสือ)ที่ดี จึงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงค่ะ​ อยากให้ทุกๆ คนมองโลก ให้กว้างขึ้น มองในมุม​มองของคนอื่นให้ได้ หน้าตาของคนเราก็ต่างกันอยู่แล้ว จะให้นิสัย ชีวิต ประสบการณ์ ของทุกคนเหมือนกันหมดก็คงไม่ได้”

“ในความคิดของกวางเองคือ มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่คนเราจะเข้าใจกัน รักกัน 100% ได้ แต่ถ้าเรายอมรับในสิ่งที่เราไม่เข้าใจได้คงคนอีกคนหนึ่ง เราก็จะอยู่ด้วยกันได้อีกอย่างที่อยากให้เข้าใจคือ กวางไม่ใช่คนของสังคม แต่เป็นแค่คนที่บังเอิญเกิดมาเป็นลูกของนักดนตรีที่มีความสามารถมากคนหนึ่ง และก็เป็นคุณพ่อที่ดีที่สุดค่ะ​ กวางไม่ชอบอยู่ในสายตาของสังคม จึงไม่เล่นโชเชี่ยลมีเดียจนมาถึงวันนี้ ที่ต้องพยายามทำให้คนรู้ถึงมุมมองของกวางค่ะ​ เพราะเหตุนี้ กวางจะไม่อ่านหรือตอบไดเร็กต์ และจะปิดคอมเมนต์นะคะ​ ขอบคุณค่ะ”

อย่างไรก็ดี แอดว่าเรื่องของครอบครัว น่าจะต้องเคลียร์กันหลังบ้าน การโพสต์โต้กันไปมา อาจจะทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งดูไม่ดีก็ได้ ถ้าเรื่องครอบครัวจบกันด้วยดี แอดว่าเป็นเรื่องที่ดีนั่นเองค่ะ

คลิปอีจันบันเทิง
หนุ่ม กรรชัย ยันไม่ได้เข้าข้างใคร