เสือ เสฎกานต์ พร้อมแฟนสาว เปิดใจ รับอยู่อย่าง ระแวงเรื่องความปลอดภัย

ยังคงเป็นเรื่องราวดราม่าภายในครอบครัวระหว่าง กานต์ วิภากร ภรรยา เสก โลโซ ที่ออกมาโพสต์แฉแฟนลูกชาย เสือ เสฎกานต์ ล่าสุด เสือ พร้อมแฟนสาว รวมถึงคุณอาของฝ่ายหญิงได้มาออกรายการ โหนกระแส เปิดใจเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยหลังจากที่เจ้าตัวได้สัมภาษณ์เสร็จ จึงได้ลงมาเพื่อให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์อีกครั้ง

อา : 5 ข้อที่เรียกร้องไป ศาลรับแล้ว แต่ยังอยู่ในขั้นตอนการส่งเอกสาร เสร็จแล้วจะไปส่งที่ศาล ก็ต้องรออีกที ข้อเรียกร้องยังเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง

เสือ : วันนี้ที่มาออกรายการ เพราะว่าอยากออกมาชี้แจงประเด็นที่ผมโดนกล่าวหาเรื่องเงิน ซึ่งก็ไม่จริง หลังจากที่ออกมาก็ไม่ได้คุยกับแม่เลย เรื่องเงิน 10 ล้านผมไม่ได้แตะต้องเลย ผมยอมเซ็นอะไรหมดแล้ว แต่วันนั้นผมไม่มีบุ๊คแบงค์ ไม่ได้อยู่กับผม ไม่ได้อยู่กับดรีม ผมก็ไม่รู้ว่าผมเซ็นอะไรยังไง อาจจะเซ็นพลาดไป มันหนักใจมาก ไม่บอกว่ามันเกิดอะไรขึ้น เรื่องบิทคอยน์ ผมพร้อมที่จะโยกไปให้เขาได้เลย ส่วนที่เป็นของเขาผมไม่แตะต้องอะไรเลย ผมอยากจะบอกว่า ที่มารายการ ไม่ได้อยากจะมาโจมตีครอบครัว หรือคิดร้ายครอบครัวเลย ผมแค่อยากจะให้ครอบครัวอยูาด้วยกัน เข้าใจกันจริงๆ ถ้าอยู่ต่อไป ไม่ทำอะไรเลย ให้ปัญหาอยู่ที่แม่กับดรีม ผมว่ามันคงอยู่ยาก ผมจะหนักใจไปเรื่อยๆ ผมไม่ได้เข้าข้างใคร ผมเห้นสิ่งที่ดรีมโดนมันไม่ถูกต้อง เลยต้องออกมาชี้แจง

มีคิดไว้ไหมว่าจะทำให้ครอบครัวกลับมามีความสุข?

เสือ : มีคิดไว้ครับ จะเป็นไปยังไงต้องดูเวลาครับ ที่แม่มองว่าผมเลือกข้างไปแล้ว ก็รู้สึกไม่ดี ผมเปลี่ยนความคิดใครไม่ได้ ผมทำแบบนี้ไม่ได้เห็นว่าแฟนดีกว่าแม่ แค่เห็นว่ามันไม่ถูกต้อง หลายคนหาว่าผมไปฟ้องแม่ ฟ้องครอบครัว ไม่จริงครับ ผมไปศาลเพราะเรื่องมันแรงจริงๆ ก็เลยไปศาลเพื่อยื่นขอความเป็นธรรม ไม่ได้ฟ้อง

ทำไมถึงไม่เคลียร์กันที่บ้าน?

เสือ : มันพูดยากครับ มันละเอียดอ่อนมากๆ ครบครัวคิดไม่ตรงกันเป็นเรื่องปกติ แต่ครอบครัวผมอยู่ในสายตาประชาชน เรื่องมันก็ออกมาแล้ว ผมไม่ได้เป็นคนโพสต์มันอกมา มันไม่ควรที่จะใหญ่ขนาดนี้ เรื่องที่จะพาแม่ไปพบจิตแพทย์มันไม่ใช่เป็นเรื่องที่โหดร้าย สิ่งมี่เขาทำ มันอาจจะรุนแรงไป แต่การมีจิตแพทย์คุยด้วยมันเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่แค่คุณแม่ มันเป็นใครก็ได้ ถ้าแม่บอกอยากให้เสือพาไป ผมโอเค แต่ที่เคยคุยกัน เขาคิดว่าคนจะมองว่าเขาเป็นคนป่วย ผมว่ามันไม่ใช่ มันทำให้จิตเราดีขึ้น ผมสังเกตว่าความคิดของคุณแม่เปลี่ยนไปสักพักแล้ว ผมเป็นห่วงมานานแล้ว ผมรู้ว่าเขารักเราและครอบครัวมากจริงๆ แต่การที่เขาทำอะไรที่รุนแรงเกินไป ผมไม่เห็นด้วยจริงๆ จริงๆเราควรที่จะคุยกันได้ ผมอยากมีคนกลางมาไกล่เกลี่ย เพราะว่าถ้าผมเข้าไปวันนี้มันไม่จบ มันยาก พ่อเขาก็หนักใจ ผมก็คุยกับเขาบ่อย ผมไม่อยากใหเขาคิดมาก

มันมีคำๆนึง คนมองว่าเราอกตัญญู?

เสือ : ผมรู้ครับว่าต้องมีคนคิดแบบนี้ แต่ผมขอยืนยันว่า ผมไม่เคยคิดร้ายกับครอบครัว ผมเห็นบุญคุณที่พ่อกับแม่ ทำเพื่อผมกับน้องๆมาตลอด ส่งพวกเราเรียน ส่วนเรื่องที่เราเห็นไม่ตรงกัน มันเป็นอะไรที่ผมอยากออกมาพูดจริงๆ ผมไม่คิดอกตัญญูกับครอบครัว เรื่องงานมันหนักอยู่ขอไม่พูดรายละเอียด งานที่รับไว้ก็ไม่รู้ว่าผมจะไปได้ไหม ช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่ระแวงมากๆเลย รวมถึงครอบครัวของดรีมด้วย เรื่องของความปลอดภัย ตอนนี้ก็ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ก็ถึงขั้นย้ายที่อยู่ เพราะว่าอยู่ที่เดียวมันก็ไม่ปลอดภัยสำหรับน้องดรีม

ดรีม :เราได้ไปแจ้งความเรียบร้อยแล้วสำหรับคดีหมิ่นประมาท สอบปากคำแล้ว ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้มีคนกลางที่มีเหตุผลมากเพียงพอ ตอนนี้ที่คุยกันก็เหมือนเดิม เรื่องเป่าหูมันไม่เป็นความจริง คนเรามันมีความคิดเป็นของตัวเอง เป็นไปไม่ได้ หนูเป็นคนนอก จะไปเป่าหูใคร พี่เสือไม่ได้เลือกข้าง ก็ให้กำลังใจกัน เราก็ค่อนข้างระวังตัว ที่เขาไลฟ์ว่าใครเจอตัวเราจะให้รางวัล 5 แสนบาท เรารู้สึกว่ามันลำบากเวลาออกไปข้างนอก อยากให้ลบดีกว่า

อา : เรื่องที่มีคนส่งดอกไม้ เราเช็คประวัติแล้วก็ค่อนข้างน่ากลัว รู้หมดแล้วว่าเป็นใคร ถ้าต้องนักเจอกับคุณกานต์ ก็ต้องถามเด็กๆว่าเขาพร้อมไหม อยากให้รอทางศาลก่อน อยากให้มีคนกลาง ให้พูดคุยกันได้

ถ้าต้องเจอแม่ พร้อมคุยไหม?

เสือ : ผมก็คุยได้ แต่ไม่รู้ว่ามันจะไปถึงไหนจริงๆ หมายถึงวันนี้เลยมันก็ยากครับ ผมเป็นห่วงทุกคนในครอบครัวเลย ผมไม่อยากครอบครัวแตกแยก อะไรที่เห็นว่าอะไรผิด แล้วไม่ทำอะไรเลย ผมแค่อยากปกป้องคนที่เรารัก คนที่เราแคร์จริงๆ อยากจะสู้ในทางที่เราเชื่อจริงๆ เสือเชื่อว่าดรีมไม่ได้ทำอะไรผิด สิ่งที่ผมอยากบอกคือคนที่มากล่าวหาในโซเชียลมันไม่จริงเลย

เรื่องของครอบครัวเป็นเรื่องละเอียดอ่อน อย่างไรก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าเรื่องนี้จะจบลงอย่างไรหากมีอะไรคืบหน้าแอดจะรายงานให้ทราบต่อไปค่ะ