โทนี่ รากแก่น เจอดราม่าถล่มหลัง ประกาศขอเป็นกลาง

เจอดราม่าถล่มยับ! โทนี่ รากแก่น หลังประกาศขอเป็นกลาง ลั่น อยากเห็นนายกคนใหม่ พร้อมซัด ทั้ง2ฝ่ายต้องเปิดใจยอมรับ

เนื่องด้วยสถานการณ์บ้านเมืองของเราตอนนี้ที่ดูเหมือนจะพังไม่เป็นท่า ประชาชนส่วนใหญ่ออกมาแบ่งพรรคแบ่งพวก และวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลชุดนี้อย่างสาหัส รวมไปถึงเหล่าคนบันเทิงอีกจำนวนมากที่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน เช่นเดียวกับนักแสดงหนุ่ม โทนี่ รากแก่น ที่ล่าสุดก็ได้ออกมาประกาศขอเป็นกลางพร้อมร่ายยาวความในใจผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว

โดยล่าสุดหนุ่ม โทนี่ รากแก่น ก็ได้ออกมาโพสต์รูปภาพของ ทิม พิธา พร้อมลั่นว่า “ผมอยากเห็นนายกคนใหม่” และพูดถึงเรื่องราวทั้งหมดที่อยู่ในใจผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัวว่า

“ผมอยากเห็นนายกคนใหม่

ผมบอกเลยว่าผมไม่ได้เป็นฝ่ายไหนทั้งนั้น และผมเชื่อว่าความหลากหลายในสังคมมันมี ผมสังเกตเห็นมานานละ หลังๆสังคมประเทศไทยชอบตัดสินคนให้เป็นแค่ 2 อย่าง ไม่สามกีบก็สลิ่ม แต่ผมอยู่ฝ่ายธรรมชาติอะมีกลุ่มมั้ย? ทำไมต้องมาจำกัดให้เราต้องเลือกฝ่าย? ไหนหล่ะประชาธิปไตย? ลองมองเข้าไปในป่าแล้วคุณจะรู้ว่าความหลากหลายมันคือทางรอดของ nature พวกเราก็เป็นส่วนหนึ่งที่ต้องใช้ oxygen หายใจ ต้องกินน้ำสะอาด ต้องพึ่งพาธรรมชาติ เราก็เป็นส่วนนึงของธรรมชาตินี้ แล้วถ้าพวกเราจะมีความหลากหลายก็น่าจะเป็นสิ่งที่ปกติผมเป็นคนนึงที่มีคำถามเกี่ยวกับระบบทุนนิยม ว่ามันเวิร์คจริงๆเหรอ? มันใช่สิ่งที่ส่งผลดีให้กับสังคม ให้กับประเทศ ให้กับโลกจริงๆเหรอ? ว่ากันง่ายๆเลยระบบทุนนิยมสนับสนุนการได้กำไรสูงสุด แล้วงี้คนที่ได้ผลประโยชน์จากระบบนี้คือใคร? ผมมองว่าไม่มีนะ มีแต่ทรัพยากรธรรมชาติที่ร่อยหลอลงไปเรื่อยๆเพราะมีแต่คนอยากได้อยากมี อยากจะเอาอย่างเดียวโดยไม่สนถึงรายละเอียดของผลเสียที่ตามมา แล้วสุดท้ายผลกระทบก็มาตกที่เราทุกคน อาจจะกระทบคนที่ด้อยโอกาสมากกว่า แต่สุดท้ายแล้วมันก็กระทบหมดทั้งระบบ

แล้วการปกครองคนด้วยระบบนี้ คือแบบเราจะเชื่อใจใครได้ไงว่า เค้าเข้าไปแล้วเค้าจะไม่คิดกอบโกยผลประโยชน์? เค้าจะไม่ถูกครอบงำด้วยผู้ที่มีอำนาจ? คนรอบข้างเค้าจะยังรักษาอุดมการณ์? ลองคิดว่า ถ้าเราเข้าไปอยู่ตรงจุดนั้น เราจะต้องทำไงบ้างเพื่อให้ระบบนี้มันดำเนินไปได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน? มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่เราจะเชื่อใจใครได้ ตอนนี้ผมมองเห็นระบบนี้มันกำลังไปสู่ทางตัน เหมือนต้นไม้ใหญ่ 500 ปี ที่ดูเหมือนจะมีร่มเงาให้คนจำนวนมากได้พักพิง แต่รากมันโคตรเน่า และในไม่ช้ามันก็จะไม่สามารถผลิตใบ ได้แค่รอวันที่รากมันยึดลำต้นไม่ไหว เผยความจริงว่าไอ้ที่เรานึกว่านี่แหละคือที่พักพิง ดูแข็งแรงและมีประสิทธิภาพ มันกำลังจะตาย แต่ถ้ามันไม่ตาย คนที่ต้องพึ่งพามันอาจตายแทน

ในระหว่างที่เรายังพึ่งตัวเองไม่ได้และยังต้อง rely on ต้นไม้รากเน่าต้นนี้ เราคงต้องหวังพึ่งพลังของคนที่มีระบบความคิด ที่ไม่มุ่งหวังจะเอาแต่ผลกำไร คนที่เริ่มเห็นคุณค่าของการช่วยเหลือกัน แบ่งทรัพยากรกัน ไม่จำเป็นต้องกอบโกยไว้แต่เพียงตัวเองหรือพวกพ้อง คนที่มองเห็นถึงความสำคัญของการอยู่รอดร่วมกันอย่างยั่งยืน และสำคัญ คนที่มุ่งมั่นตั้งใจและอยู่ในภาวะที่มีอำนาจเปลี่ยนแปลงให้มันเกิดขึ้นได้จริง

ผมติดตามคุณทิมมาสักพักแล้ว ผมอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงครับ ผมยังอยากหวังในระบบนี้ เพราะปัญหาที่เกิดขึ้น ผมเชื่อว่า มันไม่ใช่เพราะระบบอย่างเดียว แต่เพราะ user ด้วย”

ในเวลาต่อมา โทนี่ ก็ได้มาแสดงความคิดเห็นต่ออีกว่า…

“พวกสามกีบก็ต้องเปิดใจยอมรับในความหลากหลายได้แล้ว ไม่งั้นก็จะเติบโตไปกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ฝักไฝ่ฝ่ายตนเองโดยไม่คำนึงถึงความต้องการของผู้อื่นย้อนแย้งกับสิ่งที่ตัวเองเรียกร้องคือประชาธิปไตย ใจเย็นๆ ดูข้อมูลทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายตัวเองและฝ่ายตรงข้าม เอาข้อมูลมาสู้กัน อย่าเสพแค่ฝ่ายเดียว ลองเข้าไปดูฝ่ายตรงข้ามบ้างเค้าคิดอะไร มันเหมือนโลกคู่ขนานเลยจะบอกให้ แล้วถ้ามันจริงไม่จริงยังไง เอาข้อมูลให้เค้าจนกว่าเค้าจะฟัง เค้าผู้ใหญ่แล้ว ไม้แก่ดัดยาก เค้าไม่ยอมรับสักที เพราะมันมีคนจำนวนมากที่เอาแต่ด่าๆๆๆๆๆๆ เราอยู่ในยุคข้อมูลข่าวสาร ใช้ความสามารถของการเติบโตมากับเทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ให้มากที่สุด ละเอียดอ่อนกับข้อมูล จะได้เถียงทันเค้าด้วยข้อมูลเน้นๆ

ส่วนพวกสลิ่มก็ยอมรับได้แล้วว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้แก้ไขความขัดแย้ง ไม่ได้ทำให้เกิดความสงบ เห็นๆอยู่ว่าสังคมถูกแบ่งฝ่ายชัดยิ่งขึ้น และจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นไปอีก การเมืองมันละเอียดอ่อนมาก เพราะเราคิดกันว่าจะสามารถใช้ระบบเดียวในการปกครองคนที่มีความแตกต่างและหลากหลาย มันไม่มีทางถูกใจได้ทุกอย่างหรอกไว้การเมืองที่ทุกคนหวังพึ่งพา มันดีขึ้น ดีจนคนส่วนมากพึ่งตัวเองได้ หวังว่าวันนั้นมันจะยังมีป่าให้เราปลูกนะคับ

หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปก็มีชาวเน็ตจำนวนมากได้เข้ามาแสดงความคิดเห็น ก็ทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ โทนี่ แสดงความคิดเห็นออกไป จนกลายเป็นประเด็นดราม่า แฮซแท็ก #โทนี่รากแก่น พุ่งติดเทรนทวิตเตอร์อันดับ 1