
มหากาพย์ ชาวกะเหรี่ยงบางกลอย กับผืนป่าแก่งกระจาน
เจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่าใช้กฎหมาย เพื่อรักษาป่าต้นน้ำเพชร
ส่วนคนกลุ่มนี้อ้างวิถีบรรพบุรุษ เคยอยู่กับป่า แก่งกระจาน อยากกลับไปใช้วิถีเดิม ทำไร่หมุนเวียน เลี้ยงชีพ
การต่อสู้ระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับคนกลุ่มนี้เกิดขึ้นมานานหลายสิบปี เรื้อรังจนถึงวันนี้ เกิดเป็นปรากฏการณ์ #บางกลอย ชักชวนกันเดินเท้าเข้าป่าขอกลับไปใช้วิถีเดิม ซึ่งขัดต่อกฎหมาย
เจ้าหน้าที่รัฐพยายามเจรจาหลายสิบครั้ง ทั้งเดินเท้าขึ้นไปพูดคุย บิน ฮ. เข้าไปทำความเข้าใจ จนในที่สุดการเจรจาไม่เป็นผล
หน่อแอะ มีมิ ชายร่างพิการ ลูกชายปู่คออี้ ที่ดูคล้ายจะเป็นผู้นำกลุ่ม ได้ยื่นข้อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ 7 ข้อ คือ
1.พวกเราชาวบ้านบางกลอย ยืนยันว่าต้องการอยู่ในพื้นที่เดิมที่เคยอยู่มาก่อน (บางกลอยบน)
2.คนที่ไม่มีความประสงค์จะกลับขึ้นไป ก็ควรได้รับการจัดสรรที่ดินให้สามารถทำกินได้
3.ปฏิบัติการเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 มีการกระทำของเจ้าหน้าที่ ทำให้สิ่งของบางอย่างเสียหาย เช่น ไฟฉาย แผ่นโซลาเซลล์
4.ให้เจ้าหน้าที่หยุดปฏิบัติการต่างๆ ในขณะที่มีคณะทำงานที่ถูกส่งมาจากกระทรวงโดยตรง
5.ขอให้สื่อ หรือ เจ้าหน้าที่ หยุดชี้นำให้พวกเราชาวบ้าน และหยุดกล่าวหาว่าพวกเราไม่ใช่คนไทย
6.ให้มีกระบวนการพิสูจน์สิทธิ์ โดยมีทั้งหน่วยงานรัฐและนักวิชาการมีส่วนร่วมเรื่องไร่หมุนเวียน
7.เราจะรอจนกว่าคณะทำงานที่ถูกส่งมาจากกระทรวง จะหาข้อยุติร่วมกับคนกลาง
ระหว่างที่เจ้าหน้าที่รัฐรับฟังข้อเรียกร้องไม่ถึงสัปดาห์ ก็เกิด ยุทธการพิทักษ์ป่าต้นน้ำเพชร ของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช
โดยวันนี้ (5 มี.ค. 64) เจ้าหน้าที่อุทยานฯขอหมายจากศาลจังหวัดเพชรบุรี จับบุคคลบุกรุกป่า อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จำนวน 30 คน และได้ดำเนินการตั้งแต่เช้า เวลา 08.00 น. นำ ฮ. ขึ้นไปรับกลุ่มคนที่บ้านบางกลอยบน ใช้ ฮ. ทั้งหมด 3 ลำ ในการลำเลียงคนลงมา สลับกันขึ้นลง จะใช้เวลาเข้าไปพื้นที่ บางกลอยบน ประมาณ 10 นาที ไปกลับ 20 นาที
ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้นำเส้นมากั้นเเนวไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาในพื้นที่ด้วย
หลังจากที่นำกลุ่มคนลงมาเเล้วที้งหมด 85 คน มีทั้งวัยชรา วัยผู้ใหญ่ วัยรุ่น และเด็ก เเพทย์ได้ทำการตรวจร่างกายเบื้องต้นก่อน หากมีอาการผิดปกติหรือป่วยก็จะนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งภายหลังนำตัวกลุ่มคนลงมาครบเเล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีก็มีการเเถลงข่าวถึงปฏิบัติการต้นน้ำเพชรนี้
โดยเจ้าหน้าที่ เเจ้งข้อหา ชาวกะเหรี่ยงบางกลอย ที่มีหมายจับจำนวน 30 คน ดังนี้
1.ร่วมกันยึดถือหรือครอบครองที่ดินภายในอุทยานแห่งชาติฯ ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆให้เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ไปจากเดิมโดยกระทำในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1
2.ร่วมกันเก็บหา นำออกไป กระทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตราย หรือทำให้เสื่อมสภาพซึ่งไม้ ดิน หิน กรวด ทราย แร่ ปิโตรเลียม หรือทรัพยากรธรรมชาติอื่น หรือกระทำการอื่นใด อันส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ความหลากหลายทางชีวภาพ และทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภายในอุทยานแห่งชาติ
หลังจากนั้นคุมตัวนำส่งเรือนจำเขากลิ้ง
ในขณะเดียวกัน ชาวบ้านที่มาจาก อ.หนองหญ้าป้อง ก็ได้เดินทางไปที่เรือนจำเพื่อจะไปเจอหน้ากับกลุ่ม กะเหรี่ยงบางกลอย
นี่คือการเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่อุทยานฯล่าสุด ในการเเก้ปัญหาที่เกิดขึ้นหลายปี ดำเนินการภายใต้กรอบของกฎหมาย ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ก็พยายามทำความเข้าใจ และขอความร่วมมือกับ ชาวกะเหรี่ยงบางกลอย เสมอมา แต่ด้วยความเป็นอยู่ที่แตกต่างกับคนเมือง ชาวกะเกรี่ยงบางกลอย ก็ยืนยันว่าที่ใน ผืนป่าแก่งกระจาน แห่งนี้ คือบ้านของพวกเขา ปัญหานี้จะจบหรือยืดเยื้อ ก็ต้องรอติดตามกันต่อไป เพราะคนกลุ่มนี้ต้องการวิถีป่าเเละขอกลับไปใช้วิถีชีวิตเดิม
แต่การจะอยู่อาศัยร่วมกับป่า ก็ควรต้องอยู่อย่างไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติเช่นกัน