มีให้จับไม่หยุด!!! ชาวกัมพูชา ลอบตัดไม้ชิงชัน ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา

วันนี้ (3 พ.ค. 63) เจ้าหน้าที่ชุด Smart Patrol เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา จับกุมแรงงานชาวกัมพูชา ลักลอบตัดไม้ชิงชัน ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากวันที่ 2 พ.ค. 63 ชุด Smart Patrol ขสป.ห้วยศาลา ทำการลาดตระเวนบริเวณป่าทางทิศใต้ บ้านแซรไปร ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา ซึ่งทับซ้อนกับเขตป่าถาวร ตามมติคณะรัฐมนตรี “ป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลา” ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ห่างจากชายแดนไทย – กัมพูชา ประมาณ 4 กม. โดยพบร่องรอยการใช้เส้นทางศึกษาธรรมชาติและร่องรอยการทำไม้ เจ้าหน้าที่จึงทำการดักซุ่มในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว

จนกระทั่งวันนี้ (3 พ.ค. 63) เวลา 05.30 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ดักซุ่มอยู่นั้น ได้พบผู้กระทำผิดจำนวน 5 ราย โดยสามารถจับกุมได้ 1 ราย ทราบชื่อ คือนายยา เซ็ง อายุ 38 ปี เป็นชาวกัมพูชา ส่วนพวกอีก 4 ราย สามารถหลบหนีไปได้ จากการตรวจสอบของกลาง พบไม้ชิงชันแปรรูป จำนวน 4 ท่อน/เหลี่ยม ปริมาตร 0.22 ลูกบาศก์เมตร ,เลื่อยตัด จำนวน 1 ปื้น ,เหล็กดัดฟันเลื่อย จำนวน 1 อัน และอุปกรณ์ทำไม้อื่น ๆ

จากการสอบถาม นายยา ให้การว่า ได้ลักลอบข้ามแดนเข้ามาในฝั่งไทย เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 63 เวลา 11.00 น. กับพวก รวม 13 คน โดยจะมีคนนำทางเป็นชาวกัมพูชา 1 คน และเป็นคนไทย 2 คน ซึ่งเข้ามาเพื่อทำไม้ชิงชันตามออเดอร์ และทำเสร็จเมื่อคืนนี้ (คืนวันที่ 2 พ.ค. 63) จากนั้นได้นอนพักถึงตี 4 แล้วขนย้ายท่อนไม้แบกกันคนละ 1 เหลี่ยม ซึ่งชุดล่วงหน้ามี 5 คน ซึ่งเป็นชุดที่ เจ้าหน้าที่ ขสป.ห้วยศาลา จับไว้ได้ ส่วนชุดหลัง อีก 6 คน ยังพักอยู่ในป่า เจ้าหน้าที่จึงยังจัดชุดดักซุ่มอยู่ในละแวกนั้น ทั้งนี้ ราคาที่ซื้อขายไม้มะค่าโมง ไม้ประดู่ ขนาดความกว้าง 80-100 ซม. ยาว 2 เมตร หนา 10 ซม. ราคารับซื้อแผ่นละ 2 ล้านเรียล ( 2 หมื่นบาท) ส่วนไม้ชิงชัน รับซื้อ กก. ละ 40-100 บาท โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ดังนี้ 1. พ.ร.บ.ป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 11,48 2. พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 53,55(5) 3. พ.ร.บ.คนเข้าเมือง 4. พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 2548 ออกนอกเคหสถานระหว่าง 22.00 น – 04.00 น. และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป