พญาเสือ บุกยึดเสือโคร่ง ‘มุกดาสวนเสือ’ หลังพบ DNA ไม่ตรงพ่อเเม่

เจ้าหน้าที่หน่วยพญาเสือ บุกยึด 5 เสือโคร่ง ในมุกดาสวนเสือและฟาร์ม ยึด 3 เสือโคร่ง หลังพบ DNA ไม่ตรงพ่อแม่ตามที่แจ้งเกิด

วันนี้ (30 พ.ย.63) ที่กรมอทุยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายประกิต วงศ์ศรีวัฒนกุล รองอธิบดีกรมอุทยานฯ พร้อมด้วยนายสมปอง ทองสีเข้ม ผอ.สำนักงานต่อต้านการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าที่ผิดกฎหมายของประเทศไทย แถลงผลการตรวจสอบ มุกดาสวนเสือและฟาร์ม จ.มุกดาหาร ในกรณีที่มีการตรวจ DNA ของลูกเสือโคร่ง 4 ตัว เเล้วไม่ตรงกับพ่อแม่เสือตามที่ นายสมดิษฐ์ ธรรมเวช เจ้าของสวนสัตว์ได้กล่าวอ้าง จนเกิดคำถามว่า นายสมดิษฐ์ นำเสือจากที่อื่นมาครองครองโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ ?


ภาพจากอีจัน
นายสมดิษฐ์ ธรรมเวช เจ้าของสวนเสือ ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งและประกอบกิจการสวนสัตว์ครั้งแรก เมื่อวันที่ 4 ม.ค.51 ชื่อ "ดิษฐ์วิไลสวนเสือ" อยู่ที่ในพื้นที่ ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี โดนยางสมดิษฐ์ อ้างว่า ประสบปัญหาความไม่สงบในเขตพื้นที่ 3 จังหวัดชายเเดนใต้ จึงเลิกกิจการและย้ายสัตว์ออกจากพื้นที่ ครั้งที่ 2 : เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 55 ชื่อ "มุกดาสวนเสือและฟาร์ม" อยู่ในพื้นที่ ต.บางทรายใหญ่ อ.เมือง จ.มุกดาหาร และขอเปิดให้บริการวันที่ 8 ก.ย. 59 นอกจากนี้ ยังมีการต่ออายุใบอนุญาต 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 19 เม.ย.61 คือ ใบอนุญาตฉบับปัจจุบัน โดยสวนสัตว์ ดิษฐ์วิไลสวนเสือ ได้โอนเสือให้ มุกดาสวนเสือและฟาร์ม ทั้งหมด 4 ครั้ง เป็นเสือโคร่ง 28 ตัว และเสือดำ/เสือดาว 8 ตัว รวมทั้งหมด 36 ตัว -ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 22 เม.ย.56 เสือโคร่ง 11 ตัว เสือดำ/ดาว 1 ตัว -ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 4 พ.ค.56 เสือโคร่ง 11 ตัว (เสือโคร่งให้ลาภ (เพศผู้) ให้ทอง (เพศเมีย) ได้ถูกโอนย้ายมา) สบอ.9 ตรวจสอบการโอนย้ายครั้งที่ 1 และ 2 เมื่อวันที่ 6 พ.ค.56 -ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.56 เสือโคร่ง 6 ตัว เสือดาว/ดำ 3 ตัว สบอ.9 ตรวจสอบการโอนย้ายครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.56 -ครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.56 เสือดาว/ดำ 4 ตัว สบอ.9 ตรวจสอบการโอนย้ายครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.56
ภาพจากอีจัน
นายสมดิษฐ์ อ้างว่า เสือโคร่ง "ให้ลาภ" (พ่อ) และ "ให้ทอง" (แม่) ให้กำเนิดลูกเสือโคร่ง เมื่อวันที่ 11 ส.ค.58 จำนวน 4 ตัว ชื่อ ข้าวยำ ข้าวกล่ำ ข้าวจ้าว และข้าวเหนียว และรายงานการเกิดเสือโคร่ง เมื่อวันที่ 7 ก.ย.58 สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) ได้รับหนังสือวันที่ 11 ก.ย.58 และเข้าตรวจสอบเสือโคร่งที่เกิดใหม่ตามการรับแจ้ง วันที่ 16 ก.ย.58 รวมระยะเวลาการเกิด – เข้าตรวจสอบ 36 วัน และได้มีการเข้าตรวจสอบตามมาตรการของ กรมอุทยานฯ อย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ได้มีข้อผิดสังเกตในตัวเสือโคร่งแต่ประการใด
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ในช่วงปี 2559-2562 นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาหน่วยพญาฯ ประกอบกับได้รับตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 ซึ่งได้รับข้อมูลจากหน่วยข่าวชุดพญาเสือฯ เกี่ยวกับเรื่อง การค้าเสือโคร่ง ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ไปประเทศที่ 3 โดยผ่านการย้ายเสือโคร่งจากสวนสัตว์แห่งหนึ่งไปอีกแห่งหนึ่ง เพื่อการฟอกสัตว์ (เสือโคร่ง) โดยการเปลี่ยนเสือ (สวม) ในขณะแจ้งย้าย ขนย้าย และแจ้งเกิด หน่วยพญาเสือฯ ได้พยายามติดตามข้อมูลการค้าเสือต่อ จนกระทั่งได้รับข้อมูลว่า สวนเสือแห่งหนึ่งใน จ.ปัตตานี โอนย้ายไปยังสวนเสืออีกแห่งหนึ่งในท้องที่ จ.มุกดาหาร
ภาพจากอีจัน
อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายธัญญา เนติธรรมกุล ได้รับทราบข้อมูลดังกล่าว จึงสั่งการให้ นายชัยวัฒน์ ตรวจสอบความสัมพันธ์ พ่อ แม่ ลูก ของเสือภายในสวนสัตว์ที่ได้รับใบอนุญาต มีการแจ้งครอบครอง และแจ้งการเกิด ในท้องที่จังหวัดมุกดาหาร 22 พ.ย.61 นายชัยวัฒน์ จึงสั่งการให้ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า ขอข้อมูลพันธุกรรมเสือโคร่ง ของสวนสัตว์ มุกดาสวนเสือและฟาร์ม เพื่อหาความสัมพันธ์การเป็นพ่อแม่ลูกของเสือโคร่ง ผลตรวจปรากฎว่า “ข้าวยำ ข้าวกล่ำ ข้าวจ้าว ข้าวเหนียว ข้าวเม่า และข้าวเปลือก” ไม่มีความสัมพันธ์กับพ่อและแม่เสือโคร่ง ตามการแจ้งเกิด เลย แต่เพื่อให้เกิดความชัดเจนและมั่นใจในข้อมูลผลการตรวจพิสูจน์ จึงขอให้สถาบันนิติวิทยาศาตร์ กระทรวงยุติธรรม ตรวจพิสูจน์ความสัมพันธ์ด้วย ผลปรากฎว่า ข้าวกล่ำ(ลูก) ข้าวยำ(ลูก) และข้าวจ้าว(ลูก) ไม่มีความสัมพันธ์เป็นพ่อแม่ลูก กันกับ ให้ลาภ(พ่อ) ให้ทอง(แม่) ซึ่งในวันนี้ (30 พ.ย.63) หน่วยพญาเสือได้ลงพื้นที่ มาตรวจสอบที่มุกดาสวนเสืออีกครั้ง เเละได้ทำการยึดเสือ 5 ตัว ได้เเก่ ข้าวเม่า เเละข้าวเปลือก (ลูกของโดโด้กับมะเฟือง) ข้าวยำ ข้าวกล่ำ ข้าวเจ้า (ลูกของให้ลาภกับให้ทอง) พร้อมยึดซากเสืออีก 1 ตัว คือ ข้าวเหนียว และดำเนินการเจาะเลือด เก็บตัวอย่างพันธุกรรม (DNA) เสือโคร่งและซากเสือโคร่งดังกล่าวอีกครั้ง เพื่อตรวจ ประเมินสุขภาพสัตว์ตระกูลเสือในกรงเลี้ยง และตรวจสอบรหัสพันธุกรรม (DNA) เพื่อยืนยันความสัมพันธ์ของ เสือโคร่ง ภายในสวนสัตว์ “มุกดาสวนเสือและฟาร์ม” ตามแนวทางของกรมอุทยานแห่งชาติฯ โดยเจ้าหน้าที่จะนำเสือโคร่งที่ดำเนินการอายัด ไปเก็บรักษาไว้ ณ ศูนย์เพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจุฬาภรณ์ จ.ศรีสะเกษ ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้นายเอกชัย เพ็ชรัตน์ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ ปฏิบัติงานหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (หน่วยฯพญาเสือ) กรมอุทยานแห่งชาติฯ เป็นผู้ดำเนินการแจ้งการอายัดเสือโคร่งและซากของเสือโคร่งดังกล่าว ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร ต่อไป
ภาพจากอีจัน
พร้อมเเจ้งข้อกล่าวหา 1. จากผลการตรวจ DNA ของลูกเสือโคร่งทั้ง 3 ตัว จนพบว่าไม่มีหลักฐานการได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย อันป็นความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ฐานมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 17 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.การที่นายสมดิษฐ์ ธรรมเวช มีหนังสือลงวันที่ 7 ก.ย.58 แจ้งเกิดลูกเสือโคร่ง 4 ตัว (เกิดวันที่ 11 ส.ค.58) และระบุตัวพ่อ – แม่ของเสือโคร่งดังกล่าวอย่างชัดเจน เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติงานตามหน้าที่จดและบันทึกข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นหลักฐาน อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานแจ้งความเท็จตามมาตรา 137 และฐานแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จตามมาตรา 267 3. มีพฤติกรรมในการอำพราง ซ่อนเร้นสัตว์ป่าในสวนสัตว์ที่ได้รับอนุญาต และนำไปสู่การค้า หรือธุรกิจในสวนสัตว์
ภาพจากอีจัน