พญาเสือ สืบต่อ! มุกดาสวนเสือและฟาร์ม ลักลอบ สวมเสือ

DNA ลูกเสือโคร่ง พิสูจน์ความจริง! มุกดาสวนเสือและฟาร์ม ลักลอบ สวมเสือ ครอบครองผิดกฎหมาย

ภาคต่อ สวนสัตว์สวมเสือ หวังทำให้ “ เสือโคร่ง “ ที่ได้มาครอบครอง ถูกกฎหมาย แต่ผลตรวจ DNA จับโป๊ะ จนความจริงปรากฎ

พญาเสือ บุกยึดเสือโคร่ง ‘มุกดาสวนเสือ’ หลังพบ DNA ไม่ตรงพ่อเเม่

ย้อนเหตุการณ์ ก่อนหน้านี้ ปลายปี 2563 สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) สนธิกำลัง พญาเสือ , เหยี่ยวดง และอีกหลายภาคส่วน ร่วมกันขยายผล จากการบุกยึดลูกเสือโคร่ง 3 ตัว มีชื่อ ข้าวยำ ข้าวกล่ำ ข้าวจ้าว และ ซากลูกเสือโคร่ง 1 ตัว ชื่อ ข้าวเหนียว ที่มุกดาสวนเสือและฟาร์ม จ.มุกดาหาร

หลังตรวจพบว่า ลูกเสือโคร่งทั้งหมด DNA ไม่ตรงกับพ่อแม่เสือโคร่ง

นอกจากนี้ ยังอายัดลูกเสือโคร่งอีก 2 ตัว ชื่อ ข้าวเม่า กับ ข้าวเปลือก ไปตรวจ DNA ซึ่งทางสวนสัตว์ อ้างว่า เกิดจากพ่อแม่เสือโคร่งที่ชื่อว่า โดโด้ กับ มะเฟือง แต่เจ้าหน้าที่เกิดความสงสัย

สุดท้ายความจริงปรากฎ ระยะเวลา กว่า 3 เดือน ในการพิสูจน์ ล่าสุดผลการตรวจ DNA จากศูนย์นิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ และ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ออกมาตรงกันว่า ลูกเสือโคร่ง ข้าวเม่า กับ ข้าวเปลือก DNA ก็ไม่ตรงกับพ่อแม่เสือโคร่ง ตามที่สวนสัตว์แจ้งไว้

ปฎิบัติการในวันนี้ (9 มี.ค. 64) เจ้าหน้าที่ เข้าตรวจสอบ มุกดาสวนเสือและฟาร์ม จ.มุกดาหาร และแจ้งข้อกล่าวหา เจ้าของสวนสัตว์

1. ครอบครองสัตวป่าหรือซากสัตว์ป่า ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

2. แจ้งเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่

นอกจากนี้ ยังพบความผิดอื่นเพิ่มอีก เพราะ ก่อนหน้านี้ สวนสัตว์ มีความประสงค์ เก็บซากเสือที่ตาย

แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบว่า หนังเสือ ที่ครอบครอง ลายไม่ตรงกับ เสือที่สวนสัตว์แจ้งตาย จึงแจ้งข้อกล่าวหา ครอบครองสัตวป่าหรือซากสัตว์ป่า ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 เผยว่า เจ้าหน้าที่ได้นำ ลูกเสือโคร่งทั้ง 5 ตัว ไปดูแลต่อที่ ศูนย์เพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจุฬาภรณ์ จ.ศรีสะเกษ

หลังจากสวนสัตว์ถูกแจ้งข้อกล่าวหา หากยันยืนว่าทำถูกต้อง ก็ต้องนำหลักฐานมาต่อสู้กันต่อ

อีจันยังคงตามต่อ เสือโคร่ง ไม่ตกเป็นเหยื่อของใครทั้งนั้น