รมว.ทส. วอนชาวบางกลอย ปรับตัว หยุดทำกิน ในพื้นที่ป่าแก่งกระจาน

หลังจากเมื่อวันที่ 22-25 ก.พ.2564 ดร.ยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ได้รับมอบหมายจาก นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน คุมยุทธการ “พิทักษ์ป่าต้นน้ำเพชร” ซึ่งได้มีการประสานงานร่วมกันหลายหน่วยงาน ทั้งอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กองร้อย ตชด.144 ทหาร ฉก.ทัพพระยาเสือ ทหารรบพิเศษที่ 1 แก่งกระจาน กองกำกับการ 5 บก.ปทส. กองร้อยน้ำหวาน อช.แก่งกระจาน กองการบิน ทส. หน่วยฯ พญาเสือ สำนักป้องกันฯ กรมอุทยานฯ โดยใช้เฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบป่าแก่งกระจาน หลังพบว่า มีพื้นป่าถูกบุรุกจำนวน 13 แปลง รวมเนื้อที่กว่า 135 ไร่

นอกจากนี้ ยังพบว่า มีกลุ่มคนอาศัยอยู่ในป่า บริเวณบางกลอยบน เจ้าหน้าที่จึงได้เจรจาพูดคุย เพื่อขอให้กลุ่มคนดังกล่าว กลับไปอาศัยยังบ้านโป่งลึก บางกลอย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่รัฐจัดสรรให้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้

ในปี 2524 ทางรัฐฯ ได้ประกาศเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และเจรจาให้ ชาวบ้านที่อาศัยในป่า ทำไร่หมุนเวียน เปลี่ยนวิถี ด้วยการย้ายมายังที่ดินที่รัฐจัดสรร คือ หมู่บ้านโป่งลึก บางกลอย

จากการเจรจา ผลปรากฏว่ามี 13 ราย ยินยอมกลับลงมา ยังเหลืออีก 21 ราย ที่ยังอยู่ด้านบนพื้นที่บางกลอยบน

อย่างไรก็ตาม การเจรจาจากภาครัฐ กับชาวบ้านบางกลอยก็ยังไม่ได้ข้อยุติ

กระทั่งล่าสุด (ใส่วันที่) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ออกมาเปิดเผยถึงประเด็นดังกล่าวว่า เคยพูดมาก่อนว่าเรื่องของวัฒนธรรมหรือประเพณีอาจจะใช้ไม่ได้ในยุคนี้ การจะให้ธรรมชาติปรับมาหาเราไม่ได้ เราต้องปรับไปหาธรรมชาติ ไม่ใช่การดูดายปัญหา แต่ประชาชนไม่ได้มีแค่ที่บางกลอย วันนี้เราไม่ได้พูดเรื่องสิทธิมนุษยชน แต่พูดเรื่องประชาชนไม่มีที่ดินทำกิน อย่าโยงไปเป็นเรื่องอื่น ซึ่งกลุ่มคนบางกลุ่มไม่อยากให้จบ ถ้าเราปล่อยให้มีการทำลายป่าต้นน้ำแล้วจะเอาน้ำที่ไหนมาทำการเกษตร

การทำไร่หมุนเวียนที่นักวิชาการบอกว่ามี

ประโยชน์ก็ถูก แต่ไม่ถูกทั้งหมด เพราะเรามีที่ดินเท่านี้ ไม่เช่นนั้นแก่งกระจานจะกลายเป็นโล้นกระจาน ปัญหาที่แก่งกระจาน ชาวบ้านไม่ได้มีปัญหาทั้งหมด แค่ร้อยกว่าคน อย่ามาไปโยงเรื่องอื่น ไม่เกี่ยวกับเรื่องสิทธิมนุษยชน ไม่มีเรื่องชาติพันธุ์ ผมไม่เคยพูดคำนี้ มีแต่ชาตินี้กับชาติหน้า “มนุษย์ต้องเรียนรู้อยู่กับธรรมชาติ

ไม่ใช่ให้ธรรมชาติปรับเข้าหา เพราะคนเพิ่มขึ้น ป่า ที่ดินลดลง ดังนั้นวัฒนธรรมที่ทำกันมาช้านานจะต้องปรับตัว ถ้าต้องการอยู่ไปถึงศตวรรษหน้าไม่ว่าชาติพันธุ์หรือกลุ่มใดก็ต้องปรับตัว”

เรื่องราวดังกล่าว ส่อแววไม่จบง่ายๆ หลังคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) มีมติให้นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานออกจากราชการ ปมถูกกล่าวหาว่าเข้าไปเผาทำลายบ้านเรือนของชาวกะเหรี่ยงแก่งกระจาน รวมถึงเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเข้าแจ้งความเอาผิด กับกลุ่มชาวบ้านบางกลอยที่บุกรุกผืนป่าแก่งกระจาน พร้อมกับรุกฮือขอปกป้องผืนป่าที่พวกเขารัก

ต้องติดตามกันต่อว่า เรื่องนี้จะจบลงอย่างไร และจะจบลงแบบไหน