เจ้าของยืนยัน เตือนทุกคนเสมอ อย่าเข้าใกล้ ก็อตซิลล่า

เจ้าของยืนยัน เตือนเสมอ อย่าเข้าใกล้ ก็อตซิลล่า ฉีดวัคซีน ทุกปี พร้อมให้ความร่วมมือ จนท.ตลอด ไม่เข้าใจทำไมต้องห้ามเยี่ยมน้องก็อต ?

จากประเด็นที่น้องก็อตกัดนักข่าวสำนักหนึ่งจนอาการสาหัส และผลตรวจเลือดจากห้องปฏิบัติการจากจุฬาฯ ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นไวรัสชนิดใดแต่ที่ทราบแน่ๆ คือเจอเชื้อแบคทีเรีย 2 ชนิด ในขณะเดียวกัน ทางกรมอุทยานจึงขอทั้งผู้สื่อข่าวและญาติ งดเยี่ยมน้องก็อต เพราะอยู่ในช่วงกักโรคและรอผลตรวจน้ำลายและอุจจาระจากลิง

ซึ่งเมื่อวานนี้ (4 เม.ย.64) อีจันได้ติดต่อ เพื่อสอบถามอาการของนักข่าวคนดังกล่าว ซึ่งค่าเม็ดเลือดขาวเริ่มเพิ่มขึ้นบ้างแล้ว แต่คุณหมอยังให้ยาต้านไวรัสอยู่ และของดเยี่ยม

จากเหตุนี้ จึงเกิดข้อถกเถียงกันในสังคมว่า ในวันนั้น เจ้าของ ก็อตซิลล่า หละหลวมเอง หรือ นักข่าวประมาทเองกันเเน่ ?

ซึ่งก่อนหน้านี้ นักข่าวได้มีการโพสต์ว่า เจ้าของยืนยันก็อตซิลล่า สามารถเเตะต้องได้

อีจันจึงได้ติดต่อไปยังพี่ตู้เซฟ เจ้าของน้องก็อตซิลล่า เพื่อสอบถามถึงประเด็นดังกล่าว

พี่ตู้เซฟ เผยว่า วันนั้น (23 มี.ค.64) น้องนักข่าวโทรมาขอสัมภาษณ์ที่บ้าน คุณแม่จึงอนุญาตให้มา พร้อมกับบอกว่า น้องก็อตตื่น 09.00 น. คุณพ่อกับแม่ก็ใส่เสื้อผ้าให้น้องปกติ พาเดินลงมา พ่อแม่ก็จับน้องเดินเหมือนที่เห็นในคลิป แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น

พี่เซฟ เผยว่า คุณพ่อเล่าว่า น้องนักข่าวมีการยื่นมือเข้าไปหาก็อตซิลล่า แล้วน้องก็อตก็หวง เลยกัด

อาการแย่ลง ! นักข่าว โดน ลิงแสม ก็อตซิลล่า กัด แพทย์ เตรียมเจาะไขสันหลังตรวจเพิ่ม

ซึ่งทางครอบครัว ยืนยันว่า มีการเตือนแล้วว่า อย่าเข้าใกล้ น้องไม่ชินเดี๋ยวจะกัด จะกระชากผม ไม่ว่าจะคนในตลาด ใครที่รู้จักหรือไม่รู้จัก คุณพ่อจะเตือนตลอดว่าอย่าจับ และในคลิปเชือกที่ดึงน้องก็อตไว้ก็ตึงเหมือนกัน เชือกไม่ได้หย่อน ตอนนี้สิ่งที่อยากได้ คือ คลิปเต็มจากฝั่งของนักข่าวและทางต้นสังกัด เพราะ ตนอยากเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด

ส่วนเรื่องการเยียวยา และการรับผิดชอบในเรื่องของค่ารักษาพยาบาล พี่เซฟ เผยว่า ทางคุณแม่ได้มีการให้เงิน 5,000 บาท แก่นักข่าวคนดังกล่าว ในวันที่ 27 มี.ค.64 เพื่อให้เป็นค่าเดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล

ส่วนเรื่องการฉีดวัคซีน พี่เซฟ เผยว่า อยู่กับน้องก็อตมาจะ 4 ปี น้องไม่เคยป่วย มีแค่ตอนไปเล่นน้ำตกเท่านั้นที่กลับมาแล้วเป็นไข้ เพราะน้องเล่นน้ำมากเกินไป น้องก็อตไม่เคยมีโรคอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว จะเข้าโรงพยาบาลก็ต่อเมื่อฉีดวัคซีน และยืนยันว่า น้องก็อตมีการฉีดวัคซีนทุกปี ที่ โรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่งแถว มีนบุรี ซึ่งเมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา คุณแม่ก็เพิ่งจะพาน้องก็อตไปฉีดวัคซีน พิษสุนัขบ้า

เวลาไปหาหมอ คุณแม่เล่าให้พี่เซฟฟังว่า น้องก็อตจะนอนนิ่งให้หมอฉีดยา หมอก็ยังบอกอยู่เลยว่า น้องอ้วนเกินแล้วนะ ไขมันเยอะแล้วนะ และมีการสอบถามคุณหมอ ว่าถ้าน้องไปกัดใครจะเป็นอะไรหรือไม่ ซึ่งคุณหมอได้ยืนยันว่า ไม่เป็นอะไร ถ้าน้องไม่โดนสัตว์เช่น สุนัข แมวกัด

ส่วนกรณีที่มีคลิปออกมาว่าน้องก็อต ทำร้ายคุณพ่อ พี่เซฟ เผยว่า วันนั้นเป็นวันที่ไปเยี่ยมน้องครั้งที่ 3 แล้วจะพาน้องไปอาบน้ำ แต่น้องอยากให้อุ้ม พอพ่อลากน้อง แล้วน้องจะมางับขา ซึ่งไม่ใช่อย่างนั้น น้องก็อตแค่เล่น แค่งับเล่นๆ เท่านั้น

ส่วนเรื่องที่ญาติและเจ้าของไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ พี่เซฟเผยว่าทางครอบครัวให้ความร่วมมือตลอด อาหารที่เตรียมไป นั่นคือสิ่งที่น้องก็อตกิน อย่างเช่น เบอร์รี่แคระ ผักทุกอย่าง แตง แห้ว ถั่ว เตรียมไปเยอะเพื่อให้เจ้าหน้าที่ไว้ให้น้องก็อต แต่ ณ วันนั้นพี่เซฟ ซื้อหมูปิ้งไปด้วย เพื่อกินเอง แต่พอกินเสร็จดันวางไว้หน้าพัดลม แล้วน้องก็อตนั่งอยู่ด้านหลัง

ส่วนเรื่องที่กรมอุทยานแห่งชาติของดเยี่ยมน้องก็อตซิลล่า พี่เซฟ เผยว่า เมื่อวาน (4 เม.ย.64) คุณแม่โทรไปบอกทางศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) จ.ฉะเชิงเทรา ว่าในวันนี้ (5 เม.ย.64) จะเข้าไปเยี่ยมน้องก็อตซิลล่า แต่ปรากฏว่า ไม่สามารถเข้าเยี่ยมได้ ต้องรอผลเลือด ซึ่งยังไม่ทราบว่าผลเลือดจะออกวันไหน

ตอนนี้ตนเป็นห่วงน้องก็อต เพราะจากการไปเยี่ยมทั้ง 3 ครั้ง สีหน้าของน้องก็อตซึมมาก เกรงว่าไม่เกิน 2-3 เดือน น้องก็อตอาจตรอมใจตาย

ซึ่งในวันนี้ ทางคุณพ่อคุณแม่และพี่สาว ได้เดินทางไปที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) พร้อมกับ นายพีระบุญ เจริญวัย ประธานองค์กรสวัสดิภาพสัตว์ The Hope Thailand เพื่อหาคำตอบและถามถึงเหตุผล ว่าเพราะอะไร ถึงไม่อนุญาตให้เจ้าของเข้าเยี่ยม ก็อตซิลล่า

บทสรุปของเรื่องราวระหว่างคนกับลิง จะจบลงอย่างไร ต้องติดตามกันต่อไป