กุญแจเดียว ปลดล็อคปมในใจพี่บลู คือ กอดแม่ที่พลัดพราก 29 ปี

พี่บลู ผู้พลัดพรากแม่ 29 ปี วันนี้คำตอบอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว กอดแม่…ปลดล็อคปมในใจ

ในวันที่ความจริงเปิดเผย พี่บลูรู้ว่าจริงๆ แล้ว…ผู้ที่เลี้ยงดูเธอมาไม่ใช่พ่อแม่แท้ๆ แต่กลับคือปู่กับย่า

คำถามจึงเกิด…แล้วพ่อแม่แท้ๆ คือใครล่ะ?

เคส 69 อีเต้ยอีจัน พี่บลู ผู้พลัดพรากแม่มาตลอด 29 ปี หรือตั้งแต่เธอเกิดเลยก็ว่าได้ เธอดินทางมาหาอีเต้ยอีจันด้วยตนเอง พร้อมนั่งคุยเปิดใจเรื่องราวทั้งหมด

จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นที่ จ.น่าน หลังจากพ่อแม่แยกทางกัน พ่อก็ฝากให้ปู่ย่าเลี้ยงดูลูกสาวที่เกิดมา ก็คือเธอ

พี่บลูรู้เรื่องราวของพ่อ แต่กลับไม่รู้อะไรเกี่ยวกับแม่เลย หลังแยกทางกันคนในครอบครัวก็ไม่มีใครเอ่ยถึงเลย

วันที่เธอรู้ความจริงว่าปู่กับย่าที่เรียกแทนว่าพ่อแม่มาตลอด ไม่ใช่ผู้ให้กำเนิด เป็นวันที่เธอต้องไปศึกษาต่อ เอกสารเกี่ยวกับบิดามารดาจึงจำเป็นต้องใช้ เอกสารหนึ่งในนั้นคือ ใบเกิด ชื่อมารดาที่ระบุ “นางรัตนาภรณ์ ทิมคล้าย” มันไม่ใช่ชื่อย่านี่ แล้วชื่อใครล่ะ?

เธอกลับบ้านถามปู่กับย่า แต่ดูเหมือนว่าท่านทั้งสองพยายามเลี่ยงที่จะบอก ไม่ว่าจะถามอีกกี่ครั้งก็ไม่ได้รับคำตอบที่ตามหา คงเป็นเพราะพวกท่านรักพี่บลูมากเหมือนลูกในไส้ จึงไม่อยากเอ่ยถึงใครอีก…

เธอหวังพึ่งคนรอบข้าง เผื่อพวกเขาจะรู้อะไรบางอย่าง แต่กลับโดนที่บ้านคัดค้าน “จะรู้ไปทำไม ในเมื่อเขาไม่ได้เลี้ยงมา”

ไม่มีใครตอบเธอได้เลยว่าทำไมแม่ถึงเดินจากเธอไป ไม่ติดต่อกลับมา นานวันเข้า คำถามเหล่านี้ก็กลายเป็นปมที่ใครๆ ไม่มีวันเข้าใจเธอเลย

เมื่อเริ่มโตขึ้นมา หลายคนบอกว่า ไม่ต้องไปตามหาแม่หรอก แค่ไปส่องกระจกก็พอ เพราะว่ามีใบหน้าเธอเหมือนแม่มาก รวมไปถึงบุคลิกลักษณะ แล้วแบบนี้ใครจะอดใจไหวที่จะไม่ตามหาแม่ล่ะคะ ทำเอาอยากเจอกว่าเดิมเสียอีก!

อีเต้ยอีจันถาม หากแม่ยืนอยู่ตรงหน้า อยากพูดอะไรบ้าง..

“แม่เคยคิดถึงหนูบ้างไหม หรือว่าแม่ลืมหนูไปแล้ว..”

ความอบอุ่นจากแม่ไม่มีใครอาจทดแทนได้

ครั้งหนึ่ง เธอเคยให้เพื่อนที่ทำงานเทศบาลช่วยเช็กข้อมูลในทะเบียนราษฎร์แม่ให้ พบว่าแม่ได้ย้ายไปทำงานที่ จ.ขอนแก่น แล้ว และดูเหมือนว่าตอนนี้แกมีชีวิตที่ดี ฐานะที่ดี ครอบครัวที่ดีแล้ว

ความหวังที่มีเริ่มถดถอย พอได้รู้แบบนั้น ใจมันเลยท้อกว่าเดิม แม่อาจจะไม่อยากเจอหน้าเราแล้วหรือเปล่านะ

แต่อีกใจมันกลับอยากสู้หน้าแม่ อยากรู้ความจริงว่ามันเกิดอะไรขึ้น ไม่อยากคิดมากอีกต่อไปแล้ว จึงได้ส่งเรื่องมาขอให้อีเต้ยอีจันช่วยเธอหน่อย

เบื้องต้นเช็กเบาะแสแล้วพบว่า นางรัตนาภรณ์ ได้เปลี่ยนนามสกุล และมีชื่ออยู่ที่ หมู่ 11 ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น อีเต้ยมุ่งหน้าสู่ จ.ขอนแก่น

เช่นเดิม…เราเริ่มต้นไปขอความช่วยเหลือจาก อบต. ถามหาเส้นทางหมู่ 11

ที่นั่น เจ้าหน้าที่ยิ้มต้อนรับเราเป็นอย่างดี อีเต้ยเล่าที่ไปที่มาให้พี่เขาฟัง ทุกคนก็พร้อมช่วยเหลือ

พอได้ทราบเส้นทางไปหาผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 ว่ากันว่ายังหนุ่มๆ อยู่ อีเต้ยยิ้มชอบใจ อย่างน้อยระหว่างตามหาก็ทำให้หัวใจกระชุ่มกระชวยได้บ้าง

แต่ระหว่างทาง เหมือนจะหลงเจ้าค่ะ แต่ก็คลำทางหาจนเจอบ้านผู้ใหญ่ อีเต้ยเดินเข้าไปทักทายผู้คนที่นั่น ขอเจอผู้ใหญ่บ้าน รอไม่นาน ผู้ใหญ่ก็เดินออกมาหาเรา

หลังจากได้ฟังเรื่องราวของพี่บลู ผู้ใหญ่บ้านยกหูหาผู้ช่วย เพื่อถามหาคนชื่อ “รัตนาภรณ์”

คำตอบที่ได้ ทำเอาใจตุ้มๆ ต่อมๆ เพราะผู้ใหญ่บอก สามีของเธอเป็นตำรวจ และชื่อของแม่พี่บลู ขึ้นอยู่ที่บ้านพักตำรวจ

หากจะพบเจอแม่พี่บลูได้ ก็คงต้องไปขออนุญาตกับทางแฟนเธอก่อน

หากเรื่องลูกคนนี้เป็นความลับสำหรับแม่อ้ออยู่…การมาของเราเท่ากับนำปัญหาใหญ่มาให้เขาเลยนะ ภารกิจนี้อีเต้ยกังวลใจจังเลย

ความใจดีของผู้ใหญ่บ้าน ขออาสานำพาอีเต้ยอีจันไปที่สถานีตำรวจ และช่วยประสานงานให้ แต่เมื่อไปถึงสรุปว่าแฟนของแม่อ้อไปทำธุระต่างอำเภอ คุยไปคุยมาจึงได้ความว่าแม่อ้อตอนนี้ทำงานเป็นครู อยู่ศูนย์เด็กเล็ก ที่สำนักงานเทศบาลเขาสวนกวาง

อีเต้ยอีจัน ขอผู้ใหญ่บ้านช่วยนำทางไปอีกครั้ง

เมื่อถึงปลายทาง “เทศบาลเขาสวนกวาง” เราไม่เจอแม่อ้อ เพราะเธอไปทำงานนอกสถานที่ แต่หัวหน้างานของเธอช่วยเหลือทีมงานเต็มที่ ติดต่อให้แม่อ้อกลับมาที่เทศบาลด่วนๆ ระหว่างนั้นหัวหน้างานของแม่อ้อ จึงได้นั่งพูดคุยกับอีเต้ยอีจัน ถึงรายละเอียดการมาของเรา…

บอกตามตรงว่าอีเต้ยเป็นกังวลใจมาก กลัวว่าแม่อ้อจะไม่อยากเจอลูกสาว แต่หัวหน้างานของแม่อ้อก็เล่าให้ฟังว่า บุคลิกของแม่อ้อจะยิ้มแย้มตลอด “รอยยิ้มเปื้อนหน้า” อย่างน้อยหวังว่าแกจะเปิดใจคุยกับอีเต้ยก่อนตัดสินใจ

อีเต้ยอีจันนั่งเกาะขอบระเบียงรอแม่อ้อกลับมา อย่างใจจดใจจ่อ

ไม่นานก็ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซค์ขับเข้ามาที่เทศบาลอย่างช้าๆ อีเต้ยอีจันเดินลงไปเจอแม่อ้อ ทันทีที่อีเต้ยและแม่อ้อเผชิญหน้า ทั้งคู่ยกมือไหว้ทักทายกัน และอีเต้ยก็พาแม่อ้อไปคุยเปิดใจในมุมเงียบๆ เราค่อยๆ เรียบเรียงเรื่องราวของพี่บลูให้แม่ฟัง แววตาของแม่ดูเหมือนมีอะไร…

“แม่อ้อเคยมีลูกสาวมาก่อนมั้ย…?”

“เคยค่ะ หลายปีมากแล้ว เคยพยายามติดต่อเขาอยู่เหมือนกัน”

ได้ยินคำตอบจากแม่อ้อนั้น อีเต้ยดีใจแทนพี่บลูเลยค่ะ แสดงว่าแม่คนนี้ไม่เคยลืมลูกสาวเลย และยังจำชื่อของลูกได้ด้วย แต่ติดตรงที่ ทางครอบครัวใหม่ของแม่อ้อยังไม่รู้ว่าเธอเคยมีลูกมาก่อน อีเต้ยตัดสินใจให้เวลาแม่อ้อได้เคลียร์ตัวเองกับทางครอบครัว หากพร้อมให้ติดต่อกลับมาได้เลย

หลังจากวันนั้น นานเข้า ผ่านไปหลายวัน จนเป็นอาทิตย์ แม่อ้อเงียบหายไปเลย หรือว่าเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า เธอไม่อยากเจอหน้าลูกสาวหรือเปล่านะ…

เราตัดสินใจทักไลน์หาแม่ ถามถึงความพร้อมที่จะพบเจอหน้าลูก ไม่นานก็มีข่าวดีตอบกลับมา เรากดโทรหาแม่อ้อเพื่อความชัวร์ แกบอกว่าพร้อมแล้ว และได้เล่าเรื่องลูกสาวให้กับแฟนฟัง น่ายินดีมากเลยค่ะ แฟนแกบอกว่า

“ภรรยาทุกข์มา 30 ปีแล้ว” หากได้เจออาจช่วยทำให้เธอปลดล็อคปมในใจที่มีมานาน ความจริงใจจากแฟนของแม่อ้อนั้น ทำให้แม่ลูกทั้งคู่จะได้พบเจอกันสักครั้งแล้วนะคะ

หลังวางสายจากแม่ อีเต้ยยกหูหาพี่บลูทันที อดใจไม่ไหวที่จึงรีบบอกข่าวดีให้กับเธอฟัง ปลายสายถึงกับน้ำเสียงสั่นเครือ และคิดว่าคงน้ำตาไหลอยู่แน่นอน ความดีใจมันเอ่อล้นออกมา

“บลูนึกว่าแม่ลืมไปแล้ว”

มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเหมือนกันนะคะ รอคอยมาตลอด 29 ปี อีกไม่ช้าก็จะได้พาทั้งคู่มาพบเจอกัน

21 เมษายน 2565 อีเต้ยอีจันจูงมือพี่บลูบินไปภาคอีสาน จ.ขอนแก่น อีกครั้ง ต่อรถเดินทางไปยัง จ.ขอนแก่น พี่บลูพยายามเก็บอาการความตื่นเต้นมาตลอดทาง แต่เมื่อใกล้ถึงเธอก็นั่งแทบไม่ติดเบาะ ยิ่งเข้าใกล้ยิ่งหายใจไม่ทั่วท้อง…

รถอีเต้ยอีจันขับรถจอดเทียบบริเวณบ้าน บอกพี่บลูนั่งรอก่อน เดี๋ยวจะพาแม่มารับนะ อีเต้ยลงจากรถเข้าไปสวัสดีแม่และแฟนของเธอ แกยิ้มต้อนรับอย่างเป็นมิตร

เราพาแม่เดินไปหาลูกสาวที่นั่งรออยู่ในรถ แม่อ้อเอื้อมมือเปิดประตูรถให้ลูกสาวลงมา เธออ้าแขนกอดแม่ด้วยความดีใจ อ้อมกอดที่ใฝ่ฝันมานาน ความอบอุ่นกำลังค่อยๆ เติมเต็มให้กับพี่บลู น้ำตาที่ไหลออกมาเกิดจากความคิดถึง ถวิลหามาตลอด 29 ปี

ทั้งคู่ได้นั่งคุยเปิดใจกันและกัน พี่บลูระบายความในใจออกมาทั้งหมด แม่อ้อเอื้อมไปคว้ามือพี่บลูมาจับไว้ บอกเธอว่าเรื่องราวในอดีตปล่อยให้มันผ่านไป มาเริ่มต้นเดินหน้าไปด้วยกันใหม่ ยุคนี้ก็สามารถติดต่อกันง่ายมากขึ้นแล้วไม่เหมือนแต่ก่อน มาเป็นครอบครัวเดียวกันนะ

อีเต้ยอีจันนั่งฟังทั้งคู่คุยกันก็รู้สึกปลื้มในใจ ความรักของแม่ลูกทั้งคู่ต่อจะไม่เคยเจอหน้ากันมาตลอด 29 ปี หรือจะนานแค่ไหน ความผูกพันทางสายเลือดไม่เคยเปลี่ยน ยังฝังลึกอยู่ในใจเสมอมา

ยินดีกับพี่บลูและแม่อ้อด้วยนะคะ ภารกิจนี้ก็สำเร็จไปได้ด้วยดี ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ให้ความช่วยเหลือ และเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้แม่ลูกได้พบเจอกัน ^^

พี่บลูตามหาแม่ พลัดพราก 30 ปี EP.1
พี่บลูตามหาแม่ พลัดพราก 30 ปี EP.2
พี่บลูตามหาแม่ พลัดพราก 30 ปี EP.3
พี่บลูตามหาแม่ พลัดพราก 30 ปี EP.4
พี่บลูตามหาแม่ พลัดพราก 30 ปี EP.5