อีเต้ยอีจัน ปลดล็อกปมในใจ พี่พล-พี่ลอง หลังพลัดพราก 20 กว่าปี

อีเต้ยอีจัน ปิดฉากความพลัดพราก 20 กว่าปีให้พี่พล จากนี้รอวันที่จะได้ปลดล็อกอนาคตให้กับเขา

ภารกิจตามหาพี่ชายให้พี่พล หลังพลัดพราก 20 กว่าปี ถือว่าเป็นเคสที่ต้องแข่งกับเวลามากเลยครับลูกเพจ

เรียกได้ว่า ทุกวินาที มีค่ากับเขามากๆ

เพราะอะไรกัน?

พี่พล ส่งเรื่องราวเข้ามาหาเราครับ บอกว่า อยู่ดีๆ ชีวิตของเขาก็ต้องเจอกับโรคร้าย “มะเร็งปาก ระยะที่ 2 ” แต่เขากลับไม่สามารถไปรักษาได้ เพราะ “ไม่มีบัตรประชาชน” เขาเองก็ได้ลองไปสอบถามที่อำเภอมาแล้ว เจ้าหน้าที่ก็แนะนำให้ตามหาพี่ชาย “ลอง มีลาน” มาตรวจดีเอ็นเอ หากผลตรงกันจึงเป็นอีกหนึ่งหลักฐานในการทำบัตรประชาชนได้

ทำไมต้องเป็นพี่ชายคนนี้เท่านั้นล่ะ?

พี่พล เล่าว่า ตนมีพี่น้อง 7 คน ตายายพาพี่คนโต 2 คนแรกไปทำบัตรประชาชน ส่วนน้อง 5 คนที่เหลือไม่มีใครได้ทำเลยครับ เขาเองก็เป็น 1 ในนั้น หลังจากพ่อแม่เสียพี่น้องก็ต่างแยกย้าย จนปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่แค่ 3 คน คือ พี่ลอง มีลาน , พี่พล และพี่รัตนา (น้องสาวคนสุดท้อง) ซึ่งพี่ลอง เป็นคนเดียวมีบัตรประชาชนครับ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมต้องไปตามหาพี่ชายคนนี้เท่านั้น กุญแจสำคัญในการปลดล็อกอนาคตให้กับน้องๆ และช่วยต่อเวลาชีวิตให้กับน้องชาย

พี่พล ยื่นเบาะแสให้อีเต้ยอีจัน เป็นเอกสารทะเบียนบ้านเก่าของพ่อพี่พล บ้านเลขที่ 152 หมู่ที่ 6 ต.ตากออก อ.บ้านตาก จ.ตาก มีชื่อ “ลอง มีลาน” ระบุอยู่ในทะเบียนบ้านหลังนี้ ซึ่งปัจจุบันเราก็ไม่รู้เลยว่า เขาจะยังอยู่ที่นั่นไหม?

อีเต้ยอีจัน ตัดสินใจลงพื้นที่ อ.บ้านตาก แกะรอยเบาะแส จากโจทย์แรกที่ได้มา เรามุ่งหน้าไปสอบถามกำนัน ต.ตากออก แต่เขาดันไม่อยู่ครับ ชาวบ้านคนหนึ่งเลยชี้เป้าให้เราไปหาสารวัตรกำนัน เมื่อไปถึงบ้านท่าน เราได้เจอกับพี่ผู้หญิงคนหนึ่งครับ อีเต้ยเลยเล่าเหตุผลการมาเยือนที่นี่ให้แกฟัง เอ่ยถึง “ลอง มีลาน” เธอบอกว่าเคยได้ยินแต่ชื่อ ไม่เคยเห็นหน้า จึงไปหยิบทะเบียนรายชื่อลูกบ้านมาเช็กดู ปรากฏว่ามีชื่อจริงๆ อยู่ในบ้านเลขที่ 152 แต่ก็ไม่เคยเจอตัวจริงอยู่ในตำบลนี้เลยครับ

เพื่อความชัวร์ เธอต่อสายหากำนันให้เราได้โทรสอบถาม แต่คำตอบที่ได้ก็ดูเหมือนจะเป็นข้อมูลเดียวกับที่เราได้มาจากพี่พล “เมื่อก่อนก็อยู่กับพ่อแม่พี่น้อง แต่หลังจากพ่อแม่เสีย ก็พากันแยกย้ายกันไปหมด”

แต่อีเต้ยอีจัน ยังไม่ท้อ! เราเดินหน้าแกะรอยไปยังบ้านเลขที่ 152 ต่อ สุดท้ายได้ข้อมูลมาว่า ปัจจุบันที่อยู่บ้านหลังนี้กลายเป็นจุดรวบรวมขยะของชาวบ้านไปแล้ว แล้วจะไปตามหาต่อยังไงละทีนี้?

เราตัดสินใจกลับมาเริ่มต้นถามชาวบ้านที่ ชุมชนบ้านตาก ละแวกวัดดอยมูล อีกครั้ง ก่อนจะได้เจอกับคุณลุงท่านหนึ่ง แต่แกให้ข้อมูลกับเราไม่ได้ จึงพาไปหาชาวบ้านกลุ่มหนึ่งครับ และดูเหมือนว่าเราจะได้เบาะแสให้ไปต่อ!

อีเต้ยอีจัน เล่าข้อมูลเกี่ยวกับ ลอง มีลาน ให้พวกเขาฟัง พร้อมไล่ชื่อพี่น้องให้ฟัง ปรากฏว่า ลุงคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า “เป็นลูกพ่อลอย” ซึ่งตรงกับข้อมูลที่ได้มาว่า พ่อของทั้งพี่พล และพี่ลองใช้ชื่อนี้จริงๆ ครับ ลุงแกเลยชี้เป้าให้ไปหา คนชื่อ แอน แกบอกว่าเป็นญาติของครอบครัวนี้ครับ

ไม่รอช้า! เราเดินหน้าต่อทันที ไปคุยข้อมูลกับพี่แอน เธอบอกว่า จริงๆ แล้วสามีเธอเป็นญาติของครอบครัวมีลาน จึงต่อสายหาสามีให้เราเพื่อถามเบาะแสเพิ่มเติม สามีของเธอก็แนะนำให้ไปหาเจ้าอาวาสวัดวังมะกอก หรือพระอธิการแผน ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องของสามีพี่แอน เมื่อทีมงานได้ไปนั่งคุยกับท่าน ก็ได้เบาะแสมาว่า ลอง มีลาน ไปขับสามล้ออยู่ที่ จ.พิษณุโลก ซึ่ง พี่พล นี่แหละ เป็นคนบอกท่านไว้ครับ แต่ไม่ได้บอกทีมงาน และเราเองก็ไม่ได้ถามเพิ่มเติมด้วยครับลูกเพจ

ดูเหมือนตอนนี้เราจะได้เบาะแสให้ไปต่อแล้วครับ ปลายทางมุ่งหน้าไปยัง จ.พิษณุโลก แต่คนที่เราตามหาไปขับสามล้ออยู่ที่ไหน อันนี้ไม่รู้จริงๆ ครับ เราจึงพุ่งเป้าไปที่แลนด์มาร์คประจำจังหวัด คือ วัดพระพุทธชินราช ทีมงานลงพื้นที่สอบถามชาวบ้าน พี่ตุ๊กตุ๊ก แนะให้เราไปที่คิวรถสามล้อที่ใกล้ที่สุด ตรงท้อปแลนด์

เราได้เจอกับคุณลุง 2 คนนี้ครับ ทันทีที่เรายื่นรูปภาพของ “ลอง มีลาน” ให้พวกเขาดู ปรากฏว่า ลุงคนหนึ่งรู้จักครับลูกเพจ เขารู้เพียงว่า พ่อลอง ไปขับสามล้อแดงส่งของแทนแล้ว ซึ่งคิวสามล้อแดง อยู่บริเวณตลาดพิษณุโลกร่วมใจ ทีมงานขอบคุณคุณลุงก่อนจะรีบเดินทางไปยังตลาดแห่งนั้น

ซึ่งเราได้เจอกับ “พี่ตี้” พี่แกขับสามล้อแดงอยู่เหมือนกันครับ ในฐานะเจ้าถิ่น เขาอาสาพาทีมงานอีเต้ยอีจัน ไปควานหาคำตอบในย่านที่เขารู้จัก แต่สุดท้ายฟ้าก็ยังไม่เปิดทางให้เราในวันนี้ครับ เพราะมีทั้งคนที่รู้จักและไม่คุ้นหน้าพ่อลอง คนที่รู้จักก็ไม่สามรถชี้พิกัดให้ได้ว่า ตอนนี้เขาไปอยู่ตรงไหน?

ทีมงานตัดสินใจกลับไปตั้งหลักกันใหม่ ฝากความหวังไว้ที่ พี่ตี้ เขาก็รับปากว่าจะช่วยถามสืบหาข้อมูลให้อีกแรง

ไม่กี่วันต่อมา เราได้รับสายจากพี่ตี้ มีข้อมูลสำคัญมาให้ ดูเหมือนว่าจะเจอบุคคลหนึ่ง ซึ่ง 99% คาดจะเป็นพี่ชายของพี่พล ดูท่าว่าฟ้าจะเปิดทางให้เราแล้วล่ะครับ แต่จะเปิดให้เราไปทางไหน ต้องมาลุ้นกันครับ

ซึ่ง พี่ตี้ ได้ข้อมูลจากคนที่รู้จัก พ่อลอง มีลาน เขาบอกว่า พ่อลองแกจะขับสามล้อพ่วงข้าง ไปขายข้าวเกรียบว่าวตามงานบวช งานบุญ ตามอำเภอใกล้เคียง และการขับสามล้อเร่ขายของแบบนี้ แกต้องออกจากบ้านแต่เช้า เราจึงนัดหมายกับพี่ตี้ ตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างเลยครับ เพื่อที่จะไปดักรอพ่อลองกัน

อีเต้ย กระโดดขึ้นรถสามล้อแดงของพี่ตี้ ก่อนจะขับไปยังบ้านของพ่อลอง ทันทีที่ไปถึงบ้านปิดไฟมืด เราให้ พี่ตี้ ลองขานเรียกชื่อ สักพักก็มีผู้ชายคนหนึ่งเปิดประตูออกมาหาเราครับ ใช่ครับ คนนี้คือ “พ่อลอง มีลาน”

แกออกมายืนคุยกับทีมงานนอกบ้าน เราค่อยๆ เล่าที่มาที่ไปให้ฟัง และเมื่อถามถึงชื่อน้องชายของพ่อลอง แกก็ตอบว่าชื่อ “พล” ตัวเขาเองก็อยากเจอน้องเหมือนกัน เพราะจากกันมานาน 20 กว่าปี

ได้เวลาปลดล็อกปมแรกในใจพี่พล กับการพาพี่ชายมาเจอ ทีมงานตัดสินใจไปรับพี่พลมาทันที จุดนัดพบคือ วัดที่ พ่อลอง ตั้งใจไปขายของในวันนี้ครับ

ความฝันของพี่พละกำลังจะเป็นจริงแล้วครับลูกเพจ

วินาทีพบหน้า พี่ชายเอ่ยทักน้องชายที่กำลังเดินเข้ามาหาว่า “นี่ พี่ลองนะ” ก่อนจะสวมกอดกันด้วยความคิดถึง ทั้งคู่นั่งคุยสารทุกข์สุกดิบกันประสาผู้ชาย จากนั้นจึงวิดีโอคอลหาน้องสาวคนสุดท้อง “พี่รัตนา” ทันทีที่เธอได้เห็นหน้าพี่ชาย ก็บอกว่า “อยากไปหาพี่ชาย” ดูเหมือนเธอจะดีใจสุดๆ เลยล่ะครับ ^^

เราคุยกับพ่อลอง บอก จากนี้จะพาพี่น้องไปตรวจดีเอ็นเอ เพื่อเป็นหลักฐานหนึ่งในการทำบัตรประชาชนให้พี่พล และพี่รัตนา พ่อลองแกก็ตอบมาว่า “ผมไปรับรองการทำบัตรประชาชนให้น้องได้ครับ เพราะผมเป็นพี่ชาย” แกพูดอย่างหนักแน่นเลยครับว่าพร้อมช่วยน้องๆ ในการปลดล็อกนาคต และต่อเวลาชีวิตให้กับพี่พล

จากนี้รอวันที่อีเต้ยอีจัน จะพา 3 พี่น้องไปตรวจดีเอ็นเอพร้อมกัน แล้วนับวันถอยหลังวันที่พี่พล และพี่รัตนา ได้บัตรประชาชนนะครับ วันที่ทั้งคู่จะได้สิทธิและสวัสดิการ วันที่พี่พล จะได้รักษาโรคร้ายนี้ให้ทุเลาลงมา

ขอให้เขาได้มีชีวิตไปถึงวันที่ลูกบวชนะครับ รอติดตามและเอาใจช่วยกันต่อนะครับทุกคน ^^

พี่พล ตามหาพี่ชาย พลัดพราก 20 ปี EP.1
พี่พล ตามหาพี่ชาย พลัดพราก 20 ปี EP.2
พี่พล ตามหาพี่ชาย พลัดพราก 20 ปี EP.3