อีเต้ย สานฝันให้แม่ลูกได้เจอหน้า หลังพลัดพราก 35 ปี

อีเต้ยอีจัน ปิดฉากความพลัดพรากให้พี่หนึ่ง สานฝันให้แม่ลูกได้เจอหน้า

ปาฏิหาริย์แห่งรัก กับความอบอุ่นจากปลายสาย เรื่องราวของชายคนนี้ ที่พลัดพรากแม่มาทั้งชีวิต

“พี่หนึ่ง” ส่งเรื่องราวมาให้อีเต้ยอีจันช่วยตามหาแม่ หลังพลัดพราก 35 ปี เขาเล่าว่า ตั้งแต่เกิดมา เขาไม่เคยเจอแม่เลย ทุกเรื่องของแม่ได้ฟังมาจากญาติฝั่งพ่อ เขาโตมาด้วยการเลี้ยงดูของหลายคน ตั้งแต่คลอดมา เขากินนมของอาจนถึง 2 เดือน หลังจากนั้น แม่ก็นำไปฝากไว้กับป้า และบอกกับป้าว่าจะกลับไปหายายที่ จ.เชียงใหม่ แต่หลังจากเธอไป ก็ไม่มีวี่แววว่าจะกลับมาอีกเลย…

ป้าดูแลเขาจนถึง 1 ขวบ แต่เพราะป้าต้องเลี้ยงลูกของตัวเอง จึงจ้างคนอื่นเลี้ยงให้ จนกระทั่ง 5 ขวบ เขาได้ไปอยู่กับปู่ย่า ทุกวันพ่อและวันแม่ที่ทางโรงเรียนจัดกิจกรรมขึ้น พี่หนึ่งเผยว่า ปู่กับย่าไม่เคยพลาดที่จะเข้าร่วมกิจกรรมสักครั้ง ถึงแม้จะดูเหมือนว่าไม่ได้ขาดส่วนใด แต่ในซอกหลืบหัวใจของชายคนนี้ กลับมีส่วนที่เติมไม่เต็มอยู่ครับ พี่หนึ่งบอกกับเราว่า อยากกราบแม่ และขอแค่ได้เห็นหน้าแม่สักครั้ง “เผื่อตายไปจะได้บอกเทวดา หรือยมบาลถูก ว่านี่คือแม่” คำพูดนี้ ฟังดูแล้วช่างเป็นประโยคเปรียบเปรย ที่ทำให้สัมผัสได้ถึงความหวังของเขาจริงๆ ครับ

ทีมงานได้เริ่มตามหา จาก ชื่อ และที่อยู่ของแม่ ที่ระบุในใบเกิด “สุพิศ ขันแก้ว” อยู่ที่ บ้านหลังหนึ่ง ใน หมู่ 2 ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่

อีเต้ยอีจัน ได้เดินทางไปที่ เทศบาลตำบลช้างเผือก เพื่อสอบถามถึง สุพิศ ขันแก้ว หวังจะได้พบคำตอบที่ใช่ แต่เจ้าหน้าที่บอกไม่มีคนชื่อ-นามสกุล นี้ ในพื้นที่เลย

ไม่นานเราก็ได้ข้อมูลเพิ่มเติม คือ มีคนชื่อ “สุภาพร ขันแก้ว” ซึ่งระบุที่อยู่ของเธอ ตรงกับที่อยู่ของแม่ที่ระบุในใบเกิด ทีมงานจึงเริ่มออกตามหา สุภาพร ที่คาดว่าจะรู้จักแม่พี่หนึ่ง เมื่อสืบเสาะไปเรื่อยๆ ตามเบาะแสทั้งที่อยู่และชื่อ ของบุคคลที่คาดว่าจะสานความฝันพี่หนึ่งได้ ก็ทราบว่า ที่อยู่ของแม่ที่ระบุในใบเกิดนั้น คือบ้านของอดีตกำนัน ต.ช้างเผือก ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว และปัจจุบัน พื้นที่ตรงนั้นได้ถูกทำเป็นหอพักให้ลูกหลานกำนันสืบทอดไปแล้ว

อีกโจทย์ที่เหลือ คือ ญาติกำนันครับ เขาจะรู้เรื่องราวพวกนี้ไหมนะ…

เมื่อเราไปถึงบ้านหลานกำนันและได้พูดคุยกัน เธอก็บอกกับเราว่ารู้จัก สุภาพร ขันแก้ว เพราะคนนี้เคยเป็นพี่เลี้ยงของเธอ และเคยอาศัยอยู่ที่นี่ แต่ไม่รู้จัก สุพิศ ขันแก้ว เลย เราจึงได้เบอร์ติดต่อ แม่สุภาพร และญาติของแม่สุภาพร รวมทั้งหมด 3 เบอร์ครับ

เมื่ออีเต้ยติดต่อไป ก็ต้องพบกับความผิดหวัง เมื่อติดต่อใครไม่ได้เลย เบอร์ของ แม่สุภาพร โทรครั้งแรก ไม่มีใครรับสายครับ อีเต้ยก็ไม่ยอมแพ้ จึงโทรไปอีกครั้ง ปลายสายกดรับ แต่ทีมงานก็ต้องตกใจ เมื่อเธอตัดสายทิ้ง…

จังหวะผิดหวัง เกิดขึ้นรัวๆ อย่างไม่ทันตั้งตัวกันเลยทีเดียว…

หลังจากที่เรารู้ว่า ปลายสายมีตัวตนจริงๆ จึงไม่ยอมแพ้ ตัดสินใจต่อสายไปอีกรอบ ครั้งนี้เจ้าของเบอร์ใจอ่อน ยอมรับสาย เมื่อพูดคุยกันก็ได้ข้อยืนยันว่าเธอคือ “ป้าน้อย สุภาพร ขันแก้ว” พี่สาวของ แม่สุพิศ คนที่เราตามหานั่นเอง! ไม่รอช้าเราจึงรีบไปพบป้าน้อย เพื่อตามหาเป้าหมายต่อไปทันที

อีเต้ยได้เจอกับป้าน้อย จึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดของพี่หนึ่งให้เธอฟัง และสอบถามถึงแม่สุพิศ ก็ทราบว่า ตอนนี้แม่สุพิศไปอยู่ที่ กรุงเทพฯ ย่านสายไหม เธอบอก รู้…ว่าน้องสาวมีลูกชาย เพราะแม่สุพิศเคยพูดถึงหลายครั้ง หากอยากจะแน่ใจจริงๆ ต้องให้ลูกสาวของเธอ ช่วยโทรถามให้ ป้าน้อยจึงอาสาปั่นจักรยานไปตามลูกสาวให้ครับ

พี่บัวลูกสาวป้าน้อย เมื่อเธอมาถึง ก็ได้ยกหูโทรหาป้าแว่น พี่สาวอีกคนของแม่สุพิศ ปลายสายบอกว่าจะช่วยโทรหา และคุยกับแม่สุพิศก่อน หากได้คำตอบอย่างไร คงต้องรอการติดต่อกลับมาอีกที

สิ่งที่อีเต้ยลุ้นที่สุด คือคำตอบจะเป็นยังไง เพราะความหวังของพี่หนึ่ง คือ ขอแค่เห็นหน้าแม่สักครั้ง หากไม่เจอ ขอแค่รูปก็ยังดี

ทีมงานรอการติดต่อกลับมา จากแม่สุพิศ ไม่นานครับ เช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็โทรมา บอกว่าอยากเจอลูกชายเหมือนกัน แต่ด้วยหน้าที่ จึงไม่สะดวกที่จะมาเจอได้ เราจึงให้เบอร์ติดต่อของลูกชายไป ไม่นานก็ได้รับสายจากพี่หนึ่ง เขาโทรมาเล่าว่า ได้คุยเปิดใจกับคุณแม่แล้ว และขอบคุณทางรายการที่ช่วยทำให้ทั้งคู่ได้เจอกัน

แม้ตอนนี้จะยังไม่ได้เจอกันตัวเป็นๆ แต่ก็ได้เห็นหน้าและฟังเสียงผ่านทางออนไลน์แล้ว “แม่ดีใจที่ได้เจอลูกนะ…” คำนี้จากแม่ ดูเหมือนจะเป็นคำตอบ ที่ช่วยปิดฉากความพลัดพรากได้อย่างดีเลยครับ

ความตั้งใจของพี่หนึ่งหลังจากนี้ คือเขาต้องการบวชให้แม่ครับ และวันนั้น คงจะเป็นวันแรก ที่ทั้งคู่จะได้เจอกันตัวเป็นๆ วันนี้ความฝันของพี่หนึ่ง ถือว่าเป็นจริงแล้วนะ อีเต้ยอีจัน ขออนุโมทนาบุญด้วยคนนะครับ ^^

พี่หนึ่งตามหาแม่ พลัดพราก 35 ปี EP.1
พี่หนึ่งตามหาแม่ พลัดพราก 35 ปี EP.2
พี่หนึ่งตามหาแม่ พลัดพราก 35 ปี EP.3