
ปมในใจในวัยเด็กถูกย้ำเตือน นอกจากจะพลัดพรากพ่อนาน 32 ปี แล้ว แม่ก็เคยทอดทิ้งไปเหมือนกัน
อีเต้ยเปิดใจคุยกับพี่กุ๊ก พ่อทิ้งไปตั้งแต่เธอเกิดได้ 3-4 เดือน เหตุเพราะพ่อแม่แยกทางกัน หลังจากนั้นแม่ก็ฝากให้ตายายเลี้ยงดู เมื่อพี่กุ๊กอายุได้ 12 ปี แม่ก็กลับมาหา
ส่วนพ่อนั้น...ไม่เคยกลับมาเลย
พี่กุ๊กจึงได้แต่ฝันว่าครั้งหนึ่งในชีวิต อยากเห็นหน้าพ่อ ได้บอกรัก “พ่อ”
“เหลี่ยม ธรรมสอน” พ่อพี่กุ๊กเป็นคนลำปาง อำเภอเสริมงาม แต่ในอดีตพ่อเคยทำงานอยู่ “ร้านสีสอาด” ที่ตลาดโบ๊เบ๊ สะพานสอง เป็นช่างตัดผ้า
หลังได้เบาะแสมา อีเต้ยตัดสินใจไปเยือนตลาดโบ๊เบ๊ ถามข้อมูลจากคนเก่าแก่ย่านนั้น จนได้เจอร้านสีสอาดครับ แต่ร้านดันถูกเช่าโดยคนจีนไปแล้ว ทำไงต่อดีล่ะเนี่ย!
อีเต้ยหันไปถามร้านตรงข้าม ปรากฏว่าเจ๊เจ้าของร้านมีเบอร์ของเถ้าแก่คนเก่าร้านสีสอาด เมื่ออีเต้ยโทรไป ปลายสายเป็นลูกจ้างรับ แต่เขาก็ไม่รู้จักพ่อเหลี่ยมเช่นกันเพราะทำงานได้ไม่นาน ส่วนเถ้าแก่ตอนนี้ก็หลงๆ ลืมๆ ไปบ้างแล้ว
ในเมื่อเบาะแสที่ตลาดโบ๊เบ๊ไม่ชัดเจน อีเต้ยต้องบินไป จ.ลำปาง อ.เสริมงาม อาจได้ข้อมูลที่แน่ชัด!
อีเต้ยเดินทางไป อบต.เสริมงาม แต่เจ้าหน้าที่อบต.แนะนำให้ไปถามเจ้าหน้าที่ทะเบียนราษฎร์ ที่ว่าการอำเภอเสริมงาม เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่อำเภอก็ช่วยกันค้นหาข้อมูล ตามที่อีเต้ยได้เล่าเบาะแสให้ฟัง
ไม่นานนัก ข้อมูลของบุคคลหนึ่งก็ปรากฏขึ้น!
“โชคชัย ธรรมสอน” เดิมชื่อ “เหลี่ยม ธรรมสอน” เป็นคนลำปาง แต่ที่อยู่ปัจจุบันอยู่กรุงเทพฯ
หรือว่าบุคคลนี้จะเป็นคนที่เรากำลังตามหากันหรือเปล่า?
ปลัดอำเภอเสริมงามช่วยอีเต้ยอีกแรง ไล่โทรหากำนันแต่ละตำบล จนไปหยุดที่ “กำนันพล” ตำบลเสริมกลาง ปลายสายบอกว่ารู้จักพ่อเหลี่ยม เขาไปทำงานเป็นช่างผ้าที่กรุงเทพฯ เบาะแสเกือบตรงกัน 100% แต่ยังไม่มั่นใจนัก! กำนันจึงนัดให้ญาติของพ่อเหลี่ยมมาเจอกับอีเต้ยที่บ้านของแก
ทันทีที่อีเต้ยไปถึงบ้านกำนัน “พ่อช่วย” (น้องชายพ่อเหลี่ยม) ก็มาถึงอีเต้ยกางเบาะแสทุกอย่างมานั่งคุยกัน ปรากฏว่าข้อมูลตรงกันเป๊ะ! พ่อเหลี่ยมเคยทำงานที่ตลาดโบ๊เบ๊จริง พ่อช่วยยืนยันว่า คนเดียวกันแน่นอน
แกจึงช่วยหาเบอร์โทรของพ่อเหลี่ยม แต่ไม่ว่าจะโทรไปสักกี่สายหรือกี่เบอร์ก็ไม่มีคนรับ...
อีเต้ยใจเริ่มไม่สู้ดี แต่ก็ไม่ยอมแพ้!
เราเดินทางกลับกรุงเทพฯ วางแผนกันว่าจะไปตามที่อยู่ปัจจุบันของพ่อเหลี่ยม เช้ามาอีเต้ยขอลองโทรหาพ่อ จากเบอร์ที่ได้มา ไม่นานปลายสายก็รับ!
“กำลังรอสายอยู่ครับ” อีเต้ยได้ยินแบบนั้นก็เอ๊ะใจ เขาบอกว่าเป็นแฟนคลับรายการอีเต้ยอีจันอยู่แล้ว เมื่อรู้ว่าลูกสาวมาตามหา เขาก็ดีใจและรู้ได้ทันทีว่าคือพี่กุ๊ก
อีเต้ยได้ยินแบบนี้ก็ยิ้มแป้น ปาฏิหาริย์พามาเจอพ่อจนได้ ><
ไม่รอช้าจ้า อีเต้ยบึ่งรถไปหาพ่อทันที เมื่อได้พูดคุยกัน เขาบอกว่ายังจำความรู้สึกที่อุ้มลูกครั้งสุดท้ายได้อยู่เลย หลังจากนั้นก็พลัดพรากกันมา 32 ปี พ่อเหลี่ยมก็คิดถึงลูกสาวเหมือนกันครับ
แต่เขาบอกว่าไม่รู้จะตามหายังไง เคยไปตามหาครั้งหนึ่งแล้วก็ไม่เจอ...ได้แต่รอคอยอย่างทรมาณ
อีเต้ยพาพ่อเหลี่ยมไปหาพี่กุ๊กทันที โดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว!
เมื่อไปถึงอีเต้ยให้พ่อรออยู่ข้างนอกก่อน เราเข้าไปเล่าให้พี่กุ๊กฟังถึงเรื่องราวการไปตามหาพ่อ เมื่อเธอรู้ว่าอีเต้ยพบพ่อแล้ว น้ำตาก็เริ่มคลอ
อีเต้ยถามย้ำ...หากเจอพ่อจะทำอะไร พี่กุ๊กยังยืนยันคำเดิมว่า “อยากบอกรักพ่อ”
พ่อเหลี่ยมค่อยๆ เดินมาหาพี่กุ๊กจากข้างหลัง เมื่อเธอหันไปเจอก็สวมกอดทั้งน้ำตา ความรู้สึกแรกที่ได้กอดพ่อ...มันคงอบอุ่นมากเลยนะครับ
“หนูรักพ่อนะ เรามาเริ่มต้นกันใหม่กันนะพ่อ” พี่กุ๊กเอ่ย
ยังไม่สายที่จะสร้างความทรงจำดีๆ ด้วยกันใหม่ครับ ^^ เธออ้อนพ่อให้อยู่ด้วยกันต่อนานๆ
ทั้งคู่พูดคุยสารทุกข์สุกดิบกันอย่างมีความสุข อีเต้ยเห็นแบบนี้ก็ดีใจไปด้วย ปิดฉากความพลัดพราก 32 ปี ภารกิจการตามหาพ่อเหลี่ยมสำเร็จ!!