ชีวิตที่พลัดพรากพ่อตั้งแต่เด็ก ยังต้องมาสูญเสียแม่ไปอีกตอนอายุ 12 ขวบ
“พี่เด้ง” พลัดพรากพ่อมาตลอด 28 ปี ไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าพ่อจริงๆ เลยสักครั้ง ส่วนแม่…ท่านก็เสียชีวิตไปตอนพี่เด้งอายุได้ 12 ปี ชีวิตที่เคยมีแม่อยู่เคียงข้าง กลับไม่มีอีกแล้ว
หลังจากนั้นเขาต้องทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองมาตลอด พี่เด้งเป็นคนที่เข้มแข็งมากเลยนะครับ แต่ใครจะรู้ ว่าหัวใจของเขาโดดเดี่ยวและอ่อนแอมาแค่ไหน…
ตอนแม่ยังมีชีวิตอยู่ เธอก็ไม่เคยพูดเรื่องพ่อให้พี่เด้งฟัง เมื่อถามว่าพ่อไปไหน แม่ก็ไม่เคยให้คำตอบกับเขาเลยครับ
ปมพลัดพรากพ่อยังคงอยู่ในใจพี่เด้งมาตลอด 28 ปี ต่อให้เข้มแข็งกับชีวิตมากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่เคยลืม “พ่อ”
อีเต้ยอีจันนำชื่อพ่อพี่เด้งไปเช็กเบื้องต้นในทะเบียนราษฎร์ “บุญเลิศ ประทุมสินธ์” ก็พบบุคคลหนึ่งขึ้นมา แต่นามสกุลสะกดอีกแบบคือ “ประทุมสินธุ์” แต่ข้อมูลที่ปรากฏทำเอาคาดไม่ถึง!
เมื่อพบว่าบุคคลนี้ได้เสียชีวิตไปแล้ว แต่ไม่มีใบมรณบัตร เจ้าหน้าที่จึงให้ข้อมูลของญาติมาคือ ป้าอรวรรณ เป็นพี่สาวของพ่อพี่เด้ง เราได้โทรคุยกัน เธอก็ยืนยันว่าพ่อบุญเลิศเสียชีวิตไปแล้วจริงๆ
ตัวเธอเองก็รู้ว่ามีหลานอีกคน อยู่บ้านโป่ง นั่นก็คือพี่เด้ง! เพราะเธอเคยเจอหลานตอนเด็กๆ ตอนนี้ก็อยากพบหน้าหลานมากๆ เราก็อยากให้ป้าอรวรรณเป็นคนแจ้งข่าวกับพี่เด้งด้วยตัวเอง เลยพาเธอไปเจอพี่เด้งทันที!
เพราะใจป้าพร้อม อีเต้ยอีจันก็พร้อม!
เมื่อถึงบ้านพี่เด้ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ก็พบว่าเขากำลังนั่งรอเราอยู่แล้ว อีเต้ยอีจันเดินไปบอกกับพี่เด้งว่า วันนี้พาคนๆ หนึ่งมาบอกข่าวกับเขา
วินาทีที่ป้าได้พบหน้าหลานก็สวมกอดทั้งน้ำตา ด้วยความคิดถึงหลาน พร้อมบอกข่าวการเสียชีวิตของพ่อ เมื่อเขารู้ข่าว พี่เด้งก็รู้สึกเสียใจ แต่เขาเตรียมใจกับทุกคำตอบแล้วแหละครับ ถึงแม้เขาจะดูเข้มแข็ง ไม่ร้องไห้ แต่ลึกๆ หัวใจเขาอาจจะอ่อนแออยู่ก็ได้
แม้วันนี้พ่อไม่สามารถมายืนตรงหน้าพี่เด้งได้ และไม่มีภาพพ่อมาให้ เนื่องจากไม่พบข้อมูลความเคลื่อนไหวทางทะเบียนราษฎร์ และไม่มีใบมรณบัตรอีกด้วย
แต่ป้าอาจเป็นตัวแทนพ่อมาเติมกำลังใจเขาในยามที่ลำบาก ยังไงอีเต้ยอีจันก็ขอแสดงความเสียใจกับพี่เด้งด้วยนะครับ กับการรู้ข่าวว่าพ่อเสียชีวิตไปแล้ว
เป็นกำลังใจพี่เด้งสู้ชีวิตต่อไปนะ พี่เป็นคนหนึ่งที่เข้มแข็งมากๆ เลยครับ ^^