
สุดท้ายเราก็ต้องยอมรับความจริง บทสรุปของภารกิจนี้คือ “แม่พี่เอกเสียชีวิตไปแล้ว”
หลังจากที่อีเต้ยไปควานหาทั่วทั้ง ต.บ้านเชียง และ ต.หนองเม็ก ก็ได้รู้ว่าชื่อตระกูลของแม่วิมล แท้จริงสะกดว่า “พรมศิลป” ไม่มีการันต์
ก่อนจะกลับไปบอกข่าวร้ายกับพี่เอก อีเต้ยยกหูโทรหาน้องโบว์ ลูกสาวจิ๊โจ่ย (น้องคนสุดท้องแม่วิมล) เพื่อขอเบอร์ของป้าน้อย (น้องสาวแม่วิมล) อีกทั้งน้องโบว์ก็รู้ว่าแม่วิมลได้เสียชีวิตไปแล้วเหมือนกันครับ
เมื่ออีเต้ยได้เบอร์ของป้าน้อยมา ก็กดโทรหาแกทันที อีเต้ยเล่าเรื่องพี่เอกให้กับแกฟัง แน่นอนว่าป้าน้อยจำแม่วิมล พี่สาวของตนเองได้ แกเลยเล่าเรื่องอดีตของแม่วิมลให้ฟัง
ย้อนกลับไปตอนที่แม่วิมลได้แต่งงานกับพ่อเล็ก ชูวงษ์ ทั้งคู่มีลูกชายด้วยกัน 1 คนคือพี่เอก แต่ตอนนั้นป้าน้อยเป็นคนตั้งชื่อพี่เอกว่า “เอ๋” หลังแม่วิมลแยกทางกับพ่อเล็ก ก็ได้ไปมีครอบครัวใหม่ที่ จ.โคราช ไม่นานเธอก็โดนฆาตรกรรมเสียชีวิต แล้วไปจัดงานศพที่กรุงเทพฯ แต่ป้าน้อยไม่ได้ไปร่วมงานศพด้วยเพราะไม่ได้ติดต่อกัน แต่ที่รู้เรื่องเพราะแม่ใครแก้วเป็นคนมาเล่าให้ฟัง
แม้จะไม่มีใบมรณบัตรมายืนยัน ก็ต้องเอาคำบอกเล่าจากญาติมายืนยันแทน
ถึงเวลาเอาข่าวร้ายไปบอกพี่เอกที่ จ.ระยองครับ
เมื่อไปถึงปลายทาง อีเต้ยทักทายพี่เอกพร้อมรอยยิ้ม และค่อยๆ เล่าถึงภารกิจการตามหาแม่วิมลให้พี่เอกฟังเป็นฉากๆ จนมาถึงฉากที่แม่มะลิวัลย์บอกกับอีเต้ยว่า “แม่ตีบเสียชีวิตไปแล้ว”
สีหน้าและแววตาของพี่เอกก็เปลี่ยนไป อีเต้ยถามพี่เอกว่าพอได้ฟังถึงตรงนี้แล้วรู้สึกยังไงบ้าง?
“ทุกอย่างมันเกิดขึ้นได้ แต่ก็เสียใจที่ไม่ได้พบหน้า”
อีเต้ยก็รู้สึกเห็นใจพี่เอกเหมือนกันครับ แต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็ยากที่จะปฏิเสธ
หลังจากอีเต้ยสรุปเรื่องราวทั้งหมดให้พี่เอกฟัง เราก็ยกกรอบรูปภาพของแม่วิมลที่ทำขึ้นให้ เป็นภาพแม่วิมลตอนสาวๆ ใส่ชุดกระโปรงสีชมพู ยืนถ่ายรูปด้วยรอยยิ้มกว้าง
นาทีที่พี่เอกเห็นภาพนั้น ก็ฟุบตัวลงพร้อมน้ำตา “ใช่ ผมจำรอยยิ้มนี้ได้”
รอยยิ้มที่เคยเห็นตอนเด็ก ก่อนที่แม่จะเดินจากไป มันเป็นความรู้สึกที่ผูกพันและคุ้นเคย...
อีเต้ยขอมอบสิ่งที่ที่ดีสุดเท่าที่จะทำได้ให้กับพี่เอกได้ รูปภาพแทนใจผู้เป็นแม่
“ผมมาพร้อมเมื่อสายไปจริงๆ ยังไม่ทันได้ดูแลแม่เลย...ชาติหน้าขอให้เกิดมาเป็นแม่ลูกกันอีกนะครับ” พี่เอกพูดทั้งน้ำตา
อีเต้ยขอแสดงความเสียใจกับพี่เอกด้วยนะครับ สุดท้ายแล้วบทสรุปมันต้องจบแบบนี้จริงๆ