
ใช้เบี้ยคนพิการที่ได้เดือนละ 800
ประทัง 4 ชีวิต ตา ยาย หลานอีก 2 คน
วันไหนเงินหมด ก็อด ไม่มีข้าวกิน
น้ำตาไหลเลยค่ะ กับคำพูดของหญิงสาวชาวบ้าน ที่อยู่บนเกาะบูโหลนเล จ.สตูล จากคนเคยมีกินมีใช้ กลับกันวันนี้เงินทุกบาททุกสตางค์ต้องประหยัดให้ถึงที่สุด
เรามาที่เกาะบูโหลนเล เพื่อมอบอาคารสุขศาลาบ้านเกาะบูโหลน อุปกรณ์การเเพทย์เเละเวชภัณฑ์ต่างๆ ให้กับหมอน้อยเพื่อใช้รักษาคนที่นี่ การมาครั้งนี้ได้เห็นอะไรเยอะเเยะ นอกจากธรรมชาติที่สวยงามเเล้ว เรายังได้ออกไปเยี่ยมชาวบ้านที่ป่วยติดเตียงอีกด้วย ซึ่งบนเกาะบูโหลนเล มีชาวบ้านที่ป่วยติดเตียงอยู่ 1 เคส เรื่องราวของครอบครัวนี้ช่างน่าเศร้า
เธอเล่าให้เราฟังทั้งน้ำตา เสียงสั่นเครือ
บ้านของเธอมีสมาชิกอยู่ด้วยกัน 4 คน มีสามี หลานอีก 2 คน สามีของเธอป่วยร่างกายอ่อนเเรงมา 4-5 ปี หลังเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์คว่ำ จากที่เคยเป็นเสาหลักครอบครัวกลับกลายต้องมาเป็นผู้ป่วยติดเตียง ร่างกายอ่อนเเรง ทำให้การขยับตัวช้าไปหมด
เรื่องที่น่าเศร้าเเละสะเทือนใจจนเราเเละหมอต้องร้องไห้ คือ ในช่วงโควิดวิกฤตเเบบนี้ ทำให้ชีวิตเปลี่ยน จากที่เคยมีเงิน ตอนนี้เเทบไม่มีสักบาท ประทังชีวิตในเเต่ละวันได้ด้วยเบี้ยคนพิการ ที่ได้เดือนละ 800 บาท
พอเรามาคำนวณ 800 บาท 30 วัน ตกวันละ 26 บาท ใน 1 วัน ทั้ง 4 คนจะกินอะไร ?
: เเล้วถ้าไม่มีเงิน 800 นั้นล่ะ กินอยู่ยังไง ?
: บางวันไม่มีก็ไม่กินเลย...
จบประโยคนั้นน้ำตาไหล
เเต่หัวใจของเธอสู้ สู้มากๆ
เธอบอกกับเราว่า เห็นหน้าหลานเเล้ว มันทำให้มีเเรงฮึดสู้ขึ้นมา ยังไม่มีกินยังไง หลานต้องได้กิน
เราทำได้เพียงบอกให้เธอสู้ๆ
เเล้วเอื้อมไปจับมือของเธอ
กำลังใจสำคัญที่สุด
หมอยังเล่าให้เราฟังอีกค่ะว่า บนเกาะบุโหลนไฟฟ้าเข้าไม่ถึง ต้องใช้เครื่องปั่นไฟ หรือไม่ก็โซล่าเซลส์ บ้านหลังนี้ก็เหมือนกันหลังจาก 1 ทุ่มไปต้องใช้ชีวิตใต้เเสงไฟตะเกียง เพียงเพราะๆไม่มีเงินจ่ายค่าเครื่องปั่นไฟเหมือนคนอื่นเขา
เเต่มีความโชคร้ายยังมีความโชคดีที่วันที่เราไป นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม เเละได้มอบข้าวสารอาหารเเห้งไว้ให้ ทำให้ต่อชีวิตครอบครัวไปได้อีกหลายวัน