
จากกรณีที่ ตำรวจไล่ล่า รถกู้ภัยขนยาบ้า
ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.ชญานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.สระบุรี เปิดเผยถึง กรณีดังกล่าวว่า ตำรวจได้เฝ้าติดตามผลและติดตามผู้ก่อเหตุมานานพอสมควร จนทราบข้อมูลแน่ชัดว่าคนร้ายซึ่งมีอาชีพเป็นกู้ภัยจะขน ยาเสพติด จากพื้นที่ จ.เลย เข้ามาในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อส่งยาลงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ชุดสืบสวน สภ.สระบุรี จึงสะกดรอยคนร้ายทั้ง 2 คน จาก จ.เลย โดยขับตามมาตลอดทาง จนกระทั่งถึงพื้นที่ห้วยบง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี ตำรวจจึง แสดงตัวขอตรวจค้น แต่คนร้ายไหวตัวเปิดสัญญาณไฟขอทางก่อนหลบหนี โดยตลอดเส้นทางคนร้ายได้ใช้สัญญาณไฟฉุกเฉินเข้าสู่พื้นที่ซอยหทัยราษฎร์ 39
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบว่า ยาบ้าที่ถูกทิ้งบริเวณ ซอยหทัยราษฎร์ มีจำนวนทั้งสิ้น 2,400,000 เม็ด และจากข้อมูลของตำรวจพบว่าคนร้ายใช้รถกู้ภัย ในการขนยามาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า คนร้ายเปิดฉากยิงต่อสู้กับตำรวจมาตลอดเส้นทางนั้น พล.ต.ต.ชญานนท์ ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพียงแต่คนร้ายได้ใช้สัญญาณไฟฉุกเฉินเพื่อนหลบหนี ขณะที่รถตำรวจไม่สามารถขับตามได้
นอกจากนี้ ตำรวจยังสามารถสกัดจากรถสเก๊าหน้า และได้ผู้ต้องหาอีก 2 คน ซึ่งขณะนี้ควบคุมตัวไปสอบปากคำแล้วที่สืบภูธรจังหวัดสระบุรี
รายงานระบุด้วยว่า จากการตรวจสอบรถคันดังกล่าว พบว่า เจ้าของรถคือพ่อของผู้ก่อเหตุ แต่คนขับรถคือลูกชาย และลูกสะใภ้ ซึ่งเป็นอาสากู้ชีพอยู่มูลนิธิหนึ่ง
และจากการสอบถามเจ้าของบ้านที่อยู่ภายในซอยดังกล่าวให้ข้อมูลว่า มีคนในบ้านเห็นรถตู้คันดังกล่าวขับเข้ามาภายในซอย ก่อนที่จะจอดรถ และมีรถอีกคันหนึ่งมารับคนขับและผู้โดยสารไป ซึ่งขณะนี้ได้ให้ข้อมูลกับชุดสืบสวนสอบสวนไปแล้ว
ทั้งนี้ ภายในซอยดังกล่าว เป็นซอยตันและเป็นซอยที่ชาวบ้านทั่วไปจะไม่ทราบว่าเป็นซอยตัน และจะขับรถหลงเข้ามาภายในซอยบ่อยครั้ง ที่ผ่านมาไม่เคยมีการลักลอบขนส่งสิ่งของผิดกฎหมายเข้ามา เนื่องจากตนเองจะคอยเฝ้าดูผู้คนที่เข้ามาในซอยตลอดเวลา