จากกรณีกรมราชทัณฑ์ ได้ทำการพักโทษนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา โดยทำการใส่กำไลอีเอ็ม หรือ กำไลอิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว ที่สำนักงานคุมประพฤติกรุงเทพมหานคร เขต 7 นั้น
ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ประเด็นการติดกำไลอีเอ็ม ยืนยันว่า การติดกำไลอีเอ็มนั้น ไม่มีค่าใช้จ่าย หรือใครจะเรียกรับเงินในการติดตั้งไม่ได้ ซึ่งทาง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้กำชับมา เพราะเรื่องนี้เป็นการดูแลของภาครัฐ หากมีใครเรียกรับผลประโยชน์ ในเรื่องนี้ สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ทันที
ในกรณีการติดกำไลอีเอ็มพักโทษนั้น ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข ปัจจัย อาทิเช่น ถ้ามีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์พักโทษ ของ กรมราชทัณฑ์ ที่มีหลายโครงการ เช่น ในส่วนของตัว นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา เป็นผู้ต้องขังที่ถูกศาลตัดสิน จำคุก และมีอัตราโทษ ก็ได้รับพระราชทานอภัยโทษ 2 ครั้ง
และในช่วงที่มีการระบาดหนักของไวรัสโควิด นายสรยุทธ ก็เป็นบุคคลที่ทำคุณประโยชน์ ให้กรมราชทัณฑ์ในเวลานั้น ซึ่งขณะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาด มีผู้ต้องขังทั้งหมด 380,000 คน จึงเกิดปัญหาที่กังวลกันว่า ไวรัสโควิด จะแพร่ระบาดเข้าสู่ภายในเรือนจำหรือไม่ ทางผู้บริหารกระทรวง ก็เล็งเห็นว่า เป้นเรื่องที่ต้องเข้ามาดูแล เนื่องจากผู้ต้องขังไม่สามารถออกจากเรือนจำได้ การรักษาก็จะเป็นไปอย่างยากลำบาก
จึงมองว่า นายสรยุทธ มีความสามารถในเรื่องข่าวสาร น่าจะทำการประชาสัมพันธ์ข่าวได้ และทางเรือนจำมีมาตรการงดเยี่ยม ซึ่งผู้ต้องขังภายในไม่สามารถทราบได้ว่า ภายนอกเรือนจำเกิดอะไรขึ้น อาจจะทำให้เป็นเหตุจลาจลขึ้นมาได้ จึงได้นำนายสรยุทธ์ มาช่วยงานผ่านการทำรายการ สำหรับถ่ายทอดภายในเรือนจำต่าง ๆ ในชื่อ เรื่องเล่าชาวเรือนจำ เพื่อนบอกเล่าข้อมูลข่าวสาร ว่า คนในเรือนจำสามารถทำอะไรได้บ้าง ซึ่งทำให้คนในเรือนจำสามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารรวดเร็ว และจึงได้ทำเป็นโครงการต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสามารถเหตุที่พิจารณาให้นายสรยุทธ ได้รับการพักโทษ และในเรื่องคดีความของนายสรยุทธ นั้น ก็ถึงที่สุดของคดีความ มีการรับโทษแล้ว จึงได้รับการพิจารณาดังกล่าว หลังจากนี้ นายสรยุทธ ก็ต้องทำพักโทษและรายงานตัวต่อ เป็นเวลา 2ปี 6 เดือน 14 วัน เพราะยังถือว่า นายสรยุทธ์ ยังไม่สิ้นคดีการต้องขังจากคดี
ด้านนายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า เงื่อนไขการคุมประพฤติของนายสรยุทธ การพักโทษว่า หลังจากติดกำไลอิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัวแล้ว นายสรยุทธ์ จะต้องมาทำการรายงานตัวทุกเดือน และจะมีการให้ทำกิจกรรมเพื่อสังคมอีกด้วย เพื่อประเมินพฤติกรรมของผู้พักโทษ นายสรยุทธ จะไม่สามารถกลับไปใกล้กับบริเวณเรือนจำได้เพราะเป็นข้อห้าม เนื่องจากเกรงว่าจะมีการติดต่อกับนักโทษภายใน หรือให้คุณประโยชน์กับผู้ต้องขังได้ นอกจากนี้ยังห้ามขึ้นเครื่องบิน แต่หากจะเดินทางต้องขออนุญาตก่อน ห้ามเคลื่อนย้ายออกนอกสถานที่ได้รับอนุญาต ซึ่งทางนายสรยุทธ์ ได้ขออนุญาตไว้ในพื้นที่ กรุงเทพ และปริมณฑล
เพราะมีความจำเป็นในการปฏิบัติภารกิจ หน้าที่สื่อมวลชน ซึ่งเป็นอาชีพหลัก ทั้ง ไม่ได้มีการห้ามในเรื่องของการประกอบอาชีพที่สุจริต โดยในส่วนที่หาก ก็จะมีห้ามทำอาชีพทุจริต ยุ่งเกี่ยวกับบุคคล หรือ เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ห้ามยุ่งเกี่ยวกับพรรคการเมือง ในกรณีนายสรยุทธ์ จะทำหน้าที่สื่อมวลชนในเวทีทางการเมืองไม่ได้ ยกเว้นการให้ข้อมูลข่าวสารที่ตรงไปตรงมา ตามจรรยาบรรณของสื่อมวลชน