เจ้าภาพ โต้ ! ไม่ได้หอบเงินกฐินกลับ ยัน! ทำบุญมา 14 ปี ไม่เคยมีปัญหา

คดีพลิก! เจ้าภาพกฐินไม่ได้หอบเงินหนี ยัน! แจ้งยอดให้กรรมการทุกคนรู้ แต่งง ทำไมไม่บอกชาวบ้าน ทำบุญมา 14 ปี ไม่เคยมีปัญหา

เป็นเรื่องราวใหญ่โต จากกรณีที่มีชาวบ้านหนองไผ่ ต.หลักเขต อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ร้องเรียนให้มีการตรวจสอบเงินกฐิน ที่คณะเจ้าภาพจากในตัวเมืองบุรีรัมย์ นำมาถวายที่วัดหนองไผ่ เมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา เพราะหลายคนคลางแคลงใจว่า ทำไมหลังเสร็จพิธีแล้ว เจ้าภาพไม่มีการแจ้งยอดและประกาศให้คณะกรรมการ รวมถึงชาวบ้านที่มาร่วมทำบุญได้รับทราบ บางคนก็บอกว่าเจ้าภาพมีการหอบเงินกฐินหนี ไม่ได้มอบให้กับทางวัดทั้งหมด จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์

คาใจเจ้าภาพกฐิน! หอบเงินกลับบ้าน ไม่แจงยอดรวม

ล่าสุดวันนี้ (18 พ.ย.64) ทีมข่าวได้เดินทางไปเกาะติดสถานการณ์ที่วัดหนองไผ่ เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น พบมีบรรดาญาติโยม ลูกศิษย์ทยอยเดินทางมาสอบถาม และให้กำลังใจ พระครูประดิษฐ์ปัญญาภรณ์ อายุ 74 ปี เจ้าอาวาสวัดหนองไผ่ ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบลหลักเขตด้วย

เจ้าอาวาสได้ให้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. หรือ 19.00 น. เจ้าภาพก็นำเงินมาถวายให้หลวงพ่อจำนวน 100,000 บาท แต่ไม่ได้แจ้งยอดรวมทั้งหมด กระทั่งช่วงเช้าวันที่ 17 พ.ย. ถึงทราบว่ายอดเงินกฐินทั้งหมดเป็นเงินจำนวน 231,702 บาท ส่วนที่เหลือ 131,702 บาท อยู่กับป้ายุ แม่ครัวซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมการวัด เรื่องราวที่เกิดขึ้นน่าจะเกิดจากความเข้าใจคลาดเคลื่อน ซึ่งตอนนี้ทางวัดก็ได้เงินครบแล้วทุกบาท ไม่ได้ติดใจอะไร ทั้งนี้หลวงพ่อยังขอบิณฑบาตให้เรื่องนี้จบแค่นี้ไม่อยากให้เกิดปัญหาบานปลาย

ด้าน นายฉัตรพงษ์ จอมการณ์นนท์ หรืออากง ที่เป็นเจ้าภาพหลัก ได้ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า ขอยืนยันว่าทั้งตัวเองและคณะเจ้าภาพไม่มีใครหอบเงินกฐินหนีตามที่ถูกกล่าวหา เงินทุกบาทยังอยู่ที่วัด ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย. จนถึงวันนี้ แต่ข่าวออกมาว่าเจ้าภาพหอบเงินกฐินหนีก็ตกใจมาก จึงได้ชี้แจงว่าหลังจากเสร็จพิธี และนับเงินเรียบร้อยก็แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือจำนวน 100,000 บาท ใส่ถังพลาสติกห่อผ้าขาว ถวายส่วนตัวให้กับเจ้าอาวาสกับมือ ส่วนอีก 131,702 บาทที่ใส่ถังพลาสติกอีกใบห่อด้วยผ้าขาวเหมือนกัน ที่ตั้งใจว่าจะเก็บไว้สร้างพระปรางค์สายญาติให้กับทางวัด และตั้งไว้ในกุฏิของหลวงพ่อ ซึ่งก็แจ้งหลวงพ่อทราบแล้ว

ยืนยันว่าไม่มีใครเอาเงินออกมาจากวัดเลยแม้แต่บาทเดียว ส่วนที่กล่าวหาว่าไม่ได้แจ้งยอดและประกาศให้ทราบนั้นก็ไม่เป็นความจริง เพราะหลังจากนับเงินเสร็จก็เขียนใส่กระดาษเอาไว้แล้ว แจ้งให้คณะเจ้าภาพรับทราบกันทุกคนแบบปากต่อปากบางคนก็ถ่ายรูปกระดาษไว้ ส่วนที่ไม่ได้ประกาศเนื่องจาก เครื่องขยายเสียงทั้งของผู้ใหญ่บ้านและของทางวัดเสียใช้การไม่ได้จึงไม่ได้ประกาศ ก็ยังงงว่าทุกคนทราบแต่ทำไมกรรมการอ้างว่าไม่ทราบ จึงเชื่อว่าปมเหตุที่เกิดขึ้น เป็นเพราะมีคนไม่พอใจตนเองส่วนตัวมากกว่า แต่ยังไงหลวงพ่อก็ควรจะบอกกรรมการและญาติโยมให้เข้าใจว่าความจริงเป็นยังไง ไม่ใช่ปล่อยให้เกิดความเข้าใจผิด หลังจากเกิดเรื่องทั้งตนและคณะเจ้าภาพ ก็รีบเดินทางไปที่วัด หลวงพ่อก็ยอมรับว่าเข้าใจคลาดเคลื่อน และพูดมาคำหนึ่งว่า หลวงพ่อนึกไม่ถึง

นายฉัตรพงษ์ ยังบอกอีกว่า เสียใจเพราะทำบุญที่วัดนี้มา 14 ปีแล้ว ไม่เคยมีปัญหา ทั้งจัดกฐิน ผ้าป่า รวมถึงปัจจัยส่วนตัวทั้งสร้างหลังคา ซ่อมเมรุ สร้างพระสีวลี และติดไฟโซล่าเซลล์ รวมถึงปลูกต้นไม้ให้กับวัด โดยเงินกฐินหรือผ้าป่าจะแบ่งถวายให้หลวงพ่อส่วนตัว ที่เหลือก็ก่อสร้างตามจุดประสงค์ แต่หลวงพ่อกลับไม่แจ้งให้ญาติโยมได้รับทราบ จนทำให้เกิดความเข้าใจผิด แต่ก็ไม่ได้โกรธเพราะความจริงเป็นยังไงก็รู้อยู่แก่ใจ

ด้าน นายนิยม กางบิด เจ้าภาพร่วมที่เป็นคนถือถังพลาสติกใส่เงินกฐินไปเก็บไว้ในกุฏิเจ้าอาวาส ยืนยันว่าเจ้าภาพทุกคนทราบว่าได้ยอดกฐินทั้งหมดเท่าไหร่ และได้มอบให้ทางวัดครบแล้ว ไม่มีใครหอบเงินออกมาจากวัดตามที่ถูกกล่าวหาเลย การกล่าวหาแบบนี้ทำให้คนที่ตั้งใจไปทำบุญเสียหาย

คลิปอีจันแนะนำ
แต่งเมียได้ เพราะไม้ด่าง