โฆษกรัฐบาล เผย เปิดลงทะเบียนโครงการ ทัวร์เที่ยวไทย เดือนพฤษภาคมนี้

เตรียมพร้อม! โฆษกรัฐบาล แย้ม ความคืบหน้าโครงการ ทัวร์เที่ยวไทย ให้ลงทะเบียนเดือนพฤษภาคมนี้ คาดเศรษฐกิจ และ การท่องเที่ยว กลับมาคึกคัก

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการ ทัวร์เที่ยวไทย โดยรัฐบาลจะสนับสนุน 40% แต่ไม่เกิน 5,000 บาท 1 คนต่อ 1 สิทธิ์ ผ่านบริการของบริษัทนำเที่ยวในประเทศที่มีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย จุดประกายการเดินทางในประเทศ

เพื่อพลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวตลอดห่วงโซ่อุปทาน อาทิ บริษัทนำเที่ยว โรงแรมที่พัก ธุรกิจด้านการขนส่ง ธุรกิจร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องให้มีรายได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 12,500 ล้านบาท เกิดการกระจายรายได้จากโครงการทัวร์เที่ยวไทยในทางอ้อมอีกไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาท ขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการ ฯ ผ่านเว็บไซต์ (www.ทัวร์เที่ยวไทย.ไทย) ซึ่งกำลังจะเปิดให้ลงทะเบียนในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้

โดยผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว ต้องให้ความยินยอม (consent) สมัครบัญชีถุงเงิน ณ สาขา ธ.กรุงไทย ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์ (www.ทัวร์เที่ยวไทย.ไทย) ททท. และกรมการท่องเที่ยวจะตรวจสอบความถูกต้อง นำเสนอรายการนำเที่ยว (แบ่งประเภท รูปแบบการให้บริการ ราคาและเงื่อนไขการเดินทาง โดยมีคณะทำงานตรวจสอบคุณภาพและความคุ้มค่า รายการนำเที่ยวปรากฏบนเว็บไซต์ต้องแสดงรายละเอียด (ชื่อ รร./ร้านอาหาร) หลังผ่านการอนุมัติจากคณะทำงาน ผู้เข้าร่วมโครงการ ฯ ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ต้องให้ความยินยอม (consent) ติดตั้ง แอปเป๋าตังเลือกรายการนำเที่ยวทางเว็บไซต์ (www.ทัวร์เที่ยวไทย.ไทย) ติดต่อบริษัทนำเที่ยวชำระค่ารายการนำเที่ยวร้อยละ 60 แก่บริษัทนำเที่ยว เดินทางท่องเที่ยวโดยมีการสแกนใบหน้าและQR Code เพื่อยืนยันตัวตน

ทั้งนี้ นายอนุชา มั่นใจว่า การที่ไทยได้รับการจัดอันดับจาก Global COVID-19 Index (GCI) เป็นอันดับ 1ของโลกในการฟื้นตัวของจากสถานการณ์ของโรคโควิด-19 จาก 184 ประเทศทั่วโลก และติด 1 ใน 5 ประเทศที่บรรเทาการระบาดของไวรัสได้ก้าวหน้าที่สุด รวมทั้งแผนการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่เริ่มต้นแล้วและเป็นไปตามเป้าหมาย แสดงถึงความพร้อมด้านสาธารณสุขของไทย ประชาชนเชื่อมั่นและมั่นใจความปลอดภัยในการเดินทาง มาตรการ “ทัวร์เที่ยวไทย” และ “เราเที่ยวด้วยกัน” จะช่วยสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวตลอดห่วงโซ่ทั้ง โรงแรม ผู้ประกอบ และแรงงานภาคการท่องเที่ยวกว่า 4.3 ล้านคนกลับมาคึกคักอีกครั้ง