
"อยากชวนเพื่อนไปกราบพระพุทธเจ้า" คือ ความตั้งใจที่แรงกล้า เกือบ 3 ปีที่โควิดทำให้ต้องอยู่แต่บ้าน ดังนั้นเมื่อโควิดซา และอยากเดินทางไปสักแห่งใดในโลก อีจันเลือก "อินเดีย เส้นสี่สังเวชนียสถาน #ไปกราบพระพุทธเจ้า "
การเดินทางครั้งนี้ ชวนพี่ที่เคารพรัก คอเดียวกัน คือ สายบุญตัวแม่ ชื่อพี่ปิ๊ก สุภมาส เจ้าของร้านกล่องแสนศุขไปด้วยส่วนทัวร์ที่นำพาก็เป็นบริษัทของน้องรักผู้คุ้นเคย คือ ศุภกิจทัวร์ ที่มีน้องกิจ และน้องจิ๋ว เป็นผู้ออกแบบการเดินทาง เทคแคร์ ดูแล
วันที่ตัดสินใจจองทัวร์นั้นเราแค่คุยกันประสาคนที่คุ้นกับการเดินทางว่า "คิดถึง...อินเดีย " 3 ปีที่ผ่านมา โควิดเปลี่ยนทุกสิ่งในโลก เราก็อยากรู้อินเดียจะเปลี่ยนมั้ย ? วัดไทย โรงแรม ร้านอาหาร เพื่อนจะยังอยู่มั้ย ? และเป็นอย่างไรกันบ้าง?
ด้วยความอยากรู้ ทริปการเดินทางเยือนอินเดียครั้งแรกในรอบ 3 ปีของศุภกิจทัวร์จึงเกิดขึ้น
#ทริปอินเดียเดย์ 1
วันแรก นัดเจอกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทริปนี้มีนักเดินทางกลุ่มเล็กๆ แค่ 25 ชีวิต ดูแลง่าย ทุกคนยิ้มแย้ม หน้าตาอิ่มบุญ เราสองคน ไม่รู้จักลูกทัวร์ท่านอื่นๆ เลย แต่ที่เห็นและรู้สึกดีในนาทีแรก คือ 3 สาวสวยละมุน มีคุณแม่และลูกสาวคนสวย 2 คน ซึ่งเอาใจใส่ คอยเทคแคร์แม่ทุกฝีก้าว เสียงหวานๆ เรียกหม่ามี้ๆ แว่วมาบ่อยๆ เป็นภาพและเสียงที่ดีต่อใจมากๆเพื่อนร่วมทริปดูจะน่ารัก
เราใช้เวลาบิน 3 ชั่วโมงเศษ ก็ข้ามจากไทยไปอินเดีย บินลงที่เมืองคยา รัฐพิหาร จุดหมาย คือ พุทธคยา สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธองค์ ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นสถานที่รวมใจชาวพุทธทั้งโลกได้มากราบสักการะที่นี่
คณะเรามีวิทยากรบรรยายคือ ท่านพระอาจารย์ บุญมี เป็นพระธรรมทูตประสบการณ์ท่องอินเดียมาหลาย 10 ปี
ท่านพาเรากราบพระพุทธเมตตา
และนั่งสมาธิใต้ต้นโพธิ์
สีสันแห่งศรัทธา ทั้งพุทธไทย พุทธจีน ทิเบต ที่มารวมกันรอบๆ องค์เจดีย์พุทธคยา ทำเราตื่นตาตื่นใจ ภาพตรงหน้าสวยสะกดจริงๆ ทุกตารางนิ้วมีแต่ลามะ ลามะ และลามะ เสียงสวดมนต์ที่ดังกระหึ่มอยู่ทุกวินาที หลายภาษา รวมถึงเสียงสวดมนต์ของคนไทยด้วย
เสร็จจากการกราบพระนั่งสมาธิ ดื่มด่ำใต้ต้นโพธิ์แห่งสถานตรัสรู้ เราก็กลับโรงแรม ภาพสองข้างทาง ยังคงเป็นอินเดียที่คุ้นเคย
วันที่ 2 ในอินเดีย จะเล่าเรื่องอะไร รอติดตามนะ
#9วันในอินเดีย
#ขอบคุณภาพสวยๆจากพี่เจมส์ นาวิน พี่นกนะคะ
#ไปกราบพระพุทธเจ้าสักครั้งในชีวิต