CEO นอท แจงปมพัวพันขบวนการฟอกเงิน ลั่น!ยอมรับว่าโง่เอง

CEO นอท ยอมรับว่าโง่เองที่ไม่ตรวจสอบ ปมพัวพันขบวนการฟอกเงิน พร้อมเปิดโกดังลอตเตอรี่ให้ตำรวจตรวจสอบ

จากกรณี DSI ออกหมายเรียกผู้บริหาร “กองสลากพลัส” เข้าชี้แจงปมพัวพันขบวนการฟอกเงิน

DSI ออกหมายเรียกผู้บริหารกองสลากพลัส ชี้แจงปมรับเงินขบวนการฟอกเงิน

ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (13 ม.ค. 66) นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส เข้าพบ นายพงษธร อินอำนวย ผอ.ศูนย์คดียาเสพติด เพื่อชี้แจงกรณีตำรวจพบพยานหลักฐานเส้นทางการเงิน พบว่า บัญชีธนาคารส่วนตัว มีการรับเงินกว่า 53 ล้านบาท จากขบวนการฟอกเงิน ซึ่งเป็นผู้ต้องหารายสำคัญ ที่ดีเอสไอได้จับกุมตัวไปก่อนหน้านี้

ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. ที่ สำนักงานใหญ่ กองสลากพลัส นายพันธ์ธวัช ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน กรณีดังกล่าวว่า เมื่อเช้านี้ตนเดินทางเข้าไปที่ดีเอสไอ เพื่อให้การในฐานะพยาน กรณีได้รับเงินจากผู้ต้องหาแก๊งฟอกเงิน โอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัว 2 ยอด ยอกแรก 42,381,030 บาท และยอดที่สอง 11,207,680 บาท รวมทั้งหมด 53 ล้านบาท เป็นความบังเอิญ เพราะเป็นเงินของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

ซึ่งเงินที่โอนเข้ามานั้น จุดเริ่มต้นมาจาก เมื่อเดือน สิงหาคม 2564 ตนอยากได้เงินมาลงทุน ทำธุรกิจ ลอตเตอรี่ออนไลน์ จึงทำให้รู้จักกับนายออ (นามสมมุติ) เป็นคนธรรมดา ไม่มียศตำแหน่ง ซึ่งรู้จักกันแค่ 1 วัน ด้วยด้วยความใจ จึงพานายออมาเรียนรู้และทดลองทุกขั้นตอนในบริษัท จนไปถึงขั้นตอนการขึ้นรางวัล ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

ต่อมาตนได้เซ็นมอบอำนาจ ให้ นายออ นำเป็นลอตเตอร์รี่ รวม 1 หมื่นใบ ที่ลูกค้าถูกรางวัล ไปขึ้นเงินที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พอนายออได้เช็คเงินสดมาแล้ว ก็ไปขึ้นเงินที่ธนาคาร ฝากเข้าบัญชีตัวเอง ก่อนจะโอนให้ตนทั้งหมด 53 ล้านบาท หลังจากนั้นพอได้คุยกับนายออ ทำให้รู้ว่าไปด้วยกันไม่ได้ เพราะนายอออยากเป็นหุ้นส่วนบริษัท แต่ตนอยากได้แค่เงินทุนเท่านั้น และไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย

จนกระทั่งภายหลัง นายออ ไปเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงิน พอถูกตรวจสอบเส้นทางการเงิน จึงพบว่า มีหลักฐานการโอนเงิน 53 ล้านบาท เข้ามาให้บัญชีส่วนตัวของตน ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าว ก็คือเงินที่ลูกค้าถูกรางวัลนั่นเอง ยืนยันว่า ตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับขบวนการฟอกเงิน

นายพันธ์ธวัช ยังเผยอีกว่า

“ยอมรับว่าโง่เอง ที่ตอนนั้นไม่ได้ตรวจสอบก่อน คิดเพียงว่าอยากได้เงินมาลงทุน หลังจากนี้จะตรวจสอบให้มากขึ้น”

นอกจากนี้ ทางดีเอสไอได้ตรวจสอบ เส้นทางการเงินของตน เพิ่มอีก 39 รายการใหญ่ รวมมูลค่า 1 พันกว่าล้านบาท ยืนยันว่า เงินจำนวนนี้มาจากการทำธุรกิจ ที่มีการโอนเงินเข้าออกบริษัทตามปกติ และอีก 2 สัปดาห์ ตนจะเดินทางไปดีเอสไออีกครั้ง เพื่อมอบหลักฐานเพิ่มเติม

คลิปอีจันแนะนำ
“นอท กองสลากพลัส” แจงละเอียด พัวพันแก๊งฟอกเงิน