จากเหตุการณ์กราดยิงกลางห้างสยามพารากอน โดยเยาวชนชายอายุ 14 ปี วานนี้ (3 ต.ค.66) จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นนักท่องเที่ยวจีน และพนักงานชาวเมียนมา และมีผู้บาดเจ็บอีก 5 ราย ส่งผลให้ข่าวเหตุกราดยิงที่สยามพารากอน กรุงเทพฯประเทศไทย ติดเทรนอันดับ 5 บนเว่ยป๋อ (Weibo) ซึ่งเป็นเว็บโซเชียลอันดับ 1 ของจีน และเป็นแพลตฟอร์มเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในจีนอีกด้วย
โดยชาวจีนจำนวนมาก ได้เขียนข้อความไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิต พร้อมทั้งตำหนิผู้ก่อเหตุซึ่งยังเป็นเยาวชน และยังมีอาการป่วยทางจิต ซึ่งบางส่วนตั้งข้อสงสัยว่า ผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืนได้อย่างไร ขณะเดียวกัน มีผู้ใช้งานบางส่วนแสดงความเห็นว่า จะไม่ไปท่องเที่ยวที่ประเทศไทยในเวลานี้ เพราะวิตกกังวลเรื่องความปลอดภัย
ทั้งนี้ สื่อต่างประเทศหลายสำนักมีการนำเสนอข่าวเหตุการณ์อึกทึกนี้ เช่น สำนักข่าวรอยเตอร์ส ที่ต่อยอดประเด็นสำคัญนี้ โดยนำเสนอว่า ประเทศไทยมีสถิติการครอบครองอาวุธปืนสูง เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจากรายงานการสำรวจเกี่ยวกับอาวุธขนาดเล็ก 'Small Arms Survey' หรือ SAS ของสวิตเซอร์แลนด์เมื่อปี 2560 พบว่า คนไทยทั่วไปกว่า 10.3 ล้านคนมีอาวุธปืนในครอบครอง หรือเฉลี่ย 15 กระบอกต่อประชากรทุกๆ 100 คน นอกจากนี้ ยังระบุว่า ปืนราว 6.2 ล้านกระบอก ครอบครองโดยพลเรือน เป็นปืนที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
นอกจากนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์ส ยังอ้างอิงข้อมูลจากสถาบัน Institute for Health Metrics and Evaluation (IHME) ของมหาวิทยาลัยวอชิงตันในสหรัฐอเมริกา ซึ่งจัดทำข้อมูลในปี 2562 พบว่า ไทยมีสถิติการก่อฆาตกรรมด้วยปืน มากเป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากฟิลิปปินส์ ที่มาเป็นอันดับ 1 อีกทั้ง เหตุการณ์ดังกล่าวยังใกล้เคียงกับเหตุอดีตตำรวจก่อเหตุกราดยิงศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จ.หนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 6 ต.ค.65 ทำให้มีผู้เสียชีวิต รวมผู้ก่อเหตุ 38 คน
ฟาก สำนักข่าวเอพี รายงานว่า จุดเกิดเหตุครั้งนี้ เป็นห้างสยามพารากอน ซึ่งติดหนึ่งในห้างฯที่ใหญ่ที่สุดของไทย และเป็นแหล่งช็อปปิ้งหรูที่สุดของประเทศด้วย พร้อมกันนี้ ยังยกเหตุดังกล่าวเทียบเคียงกับเหตุกราดยิงที่ห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เมื่อปี 2563 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตรวมผู้ก่อเหตุ 30 คน และบาดเจ็บอีก 58 คน ซึ่งครั้งนั้นต้องใช้เวลานานถึง 16 ชั่วโมงก่อนที่คนร้ายจะถูกวิสามัญ แต่ครั้งนี้ตำรวจสามารถคุมตัวผู้ก่อเหตุได้ภายในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงหลังมีการแจ้งเหตุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
