หลังจากเที่ยวบินพาคนไทยในอิสราเอล 15 คน เดินทางกลับสู่ประเทศไทยโดยสวัสดิภาพเป็นกลุ่มแรก
(12 ต.ค. 66) นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงการต่างประเทศ เผยว่า เวลานี้รัฐบาลไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ ที่จะพยายามพาพี่น้องประชาชนคนไทยที่ยังคงเหลืออยู่ในอิสราเอล ที่ลงทะเบียนประสงค์ขอกลับไทย ได้กลับมาสู่ประเทศไทยโดยเร็วที่สุด ทุกท่านคงทราบอยู่ว่าการเดินทางในอิสราเอลเวลานี้ก็ลำบากมาก และเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยทำงานกันอย่างแข็งขัน 24 ชั่วโมง ทางรัฐบาลไทยก็ได้ประสานงานกับหลายประเทศ เพื่อที่จะให้พี่น้องประชาชนชาวไทยที่อยู่ในอิสราเอลได้รับความปลอดภัย แล้วก็ได้กลับบ้านเร็วที่สุด
ขณะนี้ได้รับแจ้งว่ามีคนได้ประเมินแล้วประมาณ 6,000 คน เราก็พยายามที่จะพาพี่น้องประชาชนกลับประเทศไทยให้เร็วที่สุดและให้ปลอดภัยที่สุดด้วย มันมีความยากลำบากด้วยในการที่จะเดินทางภายในประเทศอิสราเอล เพราะว่าคนไทยกระจัดกระจายทั้งหมดหลายพื้นที่ แต่เมื่อสักครู่ได้รับทราบจากแรงงานท่านหนึ่งแล้วว่า เวลานี้สถานการณ์ภายในเมืองหลวงของอิสราเอล ทางเจ้าหน้าที่ก็สามารถที่จะควบคุมสถานการณ์ แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะสงบ แต่ในมุมของพี่น้องประชาชนก็จะได้รับความปลอดภัย และก็ได้รับการดูแลคุ้มครองดีขึ้นด้วย
ตอนนี้รัฐบาลไทยเร่งดำเนินการประสานงานพาแรงงานไทยกลับมาให้เร็วที่สุด เราได้ประสานงานไปยังการบินพาณิชย์หลายสาย ซึ่งทุกสายในประเทศไทยก็ให้ความร่วมมือ ถ้าเราติดต่อทางอิสราเอลได้และประเทศข้างเคียงได้ เราก็พร้อมที่จะนำคนไทยออกจากอิสราเอลมาอีกจำนวนมาก ไปอยู่ที่ประเทศข้างเคียงก่อน เช่น ดูไบ เพื่อให้ได้รับความปลอดภัย ก่อนที่นำกลับมาสู่ประเทศไทย
ด้าน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า มาตรการในการเยียวยาแรงงานไทยที่กลับมาจากอิสราเอล สำหรับผู้บาดเจ็บ เมื่อเดินทางกลับมาถึงไทย จะได้รับเยียวยาคนละ 15,000 บาท สำหรับผู้เสียชีวิต เยียวยารายละ 40,000 บาท และค่าทำศพอีก 40,000 บาท รวมเป็น 80,000 บาท นอกจากนี้ยังมีในส่วนที่ทางการอิสราเอลจะดูแลคือ สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ 10-19 % ของร่างกาย จะได้รับการเยียวยาจากทางรัฐบาลอิสราเอล 1,440,000 บาท โดยประมาณ ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทางร่างกายเกินกว่า 20% ขึ้นไป จะดูเป็นรายๆ ไป ทางรัฐบาลอิสราเอลอาจจะเยียวยาให้เป็นรายเดือนจนกว่าจะหายดี ซึ่งทางกระทรวงแรงงานจะร่วมเจรจากับทางอิสราเอลด้วย ว่าจะจ่ายเป็นเดือนละเท่าไหร่
ส่วนผู้เสียชีวิต ภรรยาจะได้รับเงินเยียวยาประมาณ 35,000 บาทต่อเดือน จนกระทั่งสมรสใหม่ ส่วนบุตรจะได้รับเงินดูแลรายเดือน ประมาณ 12,000 บาท จนกระทั่งอายุครบ 18 ปี หากบุคคลที่ไม่ได้แต่งงานมีบุตร สิทธิตรงนั้นจะเป็นของพ่อแม่ จะดูแลพ่อแม่ของผู้เสียชีวิตจนถึงวาระสุดท้าย
ส่วนเรื่องของสัญญาจ้างงานที่มีระยะเวลาจ้างอยู่ที่ 5 ปี หากใครที่กลับมาก่อน ยังอยู่ไม่ครบสัญญา แล้วจะอยากกลับไปทำงานใหม่ ทางกระทรวงแรงงานก็จะหารือว่าจะมีเงินจากกองทุนส่วนไหนมาสนับสนุนได้หรือไม่ในการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายเดินทางไป แต่ถ้าหากไม่ได้ ก็อาจจะต้องหันหน้าไปพึ่งท่านนายกรัฐมนตรี ว่าตรงนี้ทางรัฐบาลสามารถจะช่วยเยียวยาแรงงานที่ไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลได้อย่างไร เพราะการที่แรงงานไทยได้กลับมาครั้งนี้ก็ไม่ได้กลับมาแบบปกติ เป็นการต้องเอาตัวรอด เอาตัวเองกลับมาให้ปลอดภัย
