
เสียชื่อผู้รับเหมาไทย
เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 อีจัน ได้รับร้องเรียนจาก นักธุรกิจชาวญี่ปุ่น มิสเตอร์ โคทะโร มะรุ
ซึ่งเป็นผู้เคยบุกเบิกสวนสนุกหิมะในร่มขนาดใหญ่ สโนว์ทาวน์ ไทยแลนด์ ในศูนย์การค้าชื่อดังแห่งแรกในประเทศไทย
เขาโดน ผู้รับเหมาไทยที่รับจ้างงาน ทิ้งงาน จนเกิดความเสียหายหลักล้าน
มิสเตอร์ โคทะโร เล่าว่า ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2020 ได้ว่าจ้างผู้รับเหมาไทยรายหนึ่ง ให้รับงานก่อสร้างและตกแต่งบ้าน
เพราะเขาวางแพลนไว้ว่าจะใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศไทย อยากได้ที่พักอาศัยในไทยสักหลัง
จึงตัดสินใจลงทุนสร้างบ้านแบบในฝันมูลค่าหลายสิบล้านบาท โดยการว่าจ้างสถาปนิกออกแบบงานและให้ผู้รับเหมารายนี้ดำเนินการก่อสร้าง
แต่เจอปัญหาตั้งแต่ฐานราก ไม่ได้มาตรฐานตามแบบที่กำหนด โดยเฉพาะการลงเสาเข็มที่วางศูนย์กลางผิดไปจากแบบจนน่าตกใจ
ซึ่งคุณมะรุได้แจ้งให้แก้ไขเพราะกลัวจะมีปัญหาเรื่องโครงสร้างอย่างแน่นอน จึงนัดผู้รับเหมาเคลียร์งานแบบและแก้ไขให้เรียบร้อยตามสัญญา ซึ่งตอนนั้นเขาเบิกเงินไปแล้วเกือบ 2 ล้านบาท
แต่ผู้รับเหมากลับไม่ยอมแก้ไขใดๆ ให้ เมื่อติดต่อไปสอบถาม กลับได้คำตอบว่า
“ถ้าอยากคุยให้ไปคุยกันที่ศาล”
มิสเตอร์ มะรุ จึงดำเนินคดีกับผู้รับเหมารายนี้ตามกฎหมาย และเป็นผู้ชนะคดีในเวลาต่อมา โดยศาลมีคำสั่งให้จำเลยคือผู้รับเหมา จ่ายค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 1.6 ล้านบาท
ซึ่งวันที่ศาลนักพิพากษา ผู้รับเหมาก็ไม่ได้เดินทางมา ฟังคำตัดสิน และไม่ได้ดำเนินการตามคำพิพากษาของศาล
มิสเตอร์ โคทะโร จึงเดินทางไปแจ้งความสน.ลาดกระบัง เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 11.00 น. พร้อมส่งจดหมายติดตามทวงถามไปยังที่อยู่ของผู้รับเหมาเพื่อนัดมาไกล่เกลี่ยและเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้น
แต่จำเลยบ่ายเบี่ยง ทุกวันนี้ก็ยังหลบหน้าไม่ติดต่อขอไกล่เกลี่ยใด ๆ ทั้งสิ้น
มิสเตอร์ มะรุ บอกว่าที่เขาเจ็บใจคือ ผู้รับเหมารายนี้ก็ยังคงรับงานก่อสร้างอย่างไม่สะทกสะท้านใดๆ
หากเขาเป็นคนไม่มีเงิน เขาจะเห็นใจ แต่ผู้รับเหมา มีเงินในการใช้ชีวิต สามารถส่งลูกสาวเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษได้
มันเป็นการสร้างความหม่นหมองให้วงการผู้รับเหมาไทย ทำให้เขากลัวที่จะว่าจ้างผู้รับเหมาไทยรายอื่นๆ
มิสเตอร์ มะรุ กล่าวทิ้งทายเพิ่มเติมว่า
"ผมรักประเทศไทยและเคารพวัฒนธรรมไทยมา 20 ปี แต่ดูเหมือนไม่มีทางที่จะแก้ปัญหาได้ แม้ว่าจะมีคนมาหลอกลวงผมก็ตาม กรณีนี้อยากให้เป็นอุทาหรณ์แก่บุคคลทั่วไป ให้เพิ่มความระมัดระวังจะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อเหมือนที่ผมโดนมา
ซึ่งตอนนี้รู้สึกกังวลใจเป็นอย่างมากว่าจะได้รับการชดใช้จากจำเลยหรือไม่
จึงอยากวิงวอนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เมตตาหาทางช่วยเหลือตนให้ได้รับความยุติธรรม อย่างน้อยก็ถือเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อประเทศไทย และสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนต่างชาติ ที่จะมาลงทุนในประเทศไทย
ขอฝากสื่อมวลชนช่วยกระจายข่าวนี้ และเป็นกระแสปลุกจิตสำนึกให้เกิดความรับผิดชอบ และเรียกร้องความยุติธรรมต่อผู้ว่าจ้างและผู้ที่ต้องการสร้างบ้านไม่ว่าคนไทยหรือคนต่างชาติ และหวังว่าข่าวนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกท่าน ขอให้ช่วยแชร์และบอกต่อด้วยครับ ขอบคุณมากครับ”