
จากเหตุ สารวัตรกานต์ มีอาการคลั่งก่อเหตุ กราดยิงเขตสายไหม เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 27 ชม.จึงควบคุมสถานการณ์ได้ ซึ่งระหว่างควบคุมมีการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่และสารวัตรกานต์ ทำให้สารวัตรโดนยิงได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิตลงในเวลาต่อมา พี่ชายยังติดใจสาเหตุการตาย ด้าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. เผย ผลชันสูตรยืนยันเหตุการเสียชีวิตเกิดจากการปะทะ!
ล่าสุดวันนี้ (16 มี.ค. 66)พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์สื่อ ยอมรับใช้กระสุนจริงคุมสถานการณ์! เนื่องจากมีการตอบโต้ด้วยกระสุนจริง ยืนยันปฏิบัติตามแผนยุทธวิธี พร้อมแสดงความเสียใจกับญาติของผู้เสียชีวิต และยืนยันว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นยากต่อการเจรจา ตำรวจได้พยายามทุกวิถีทางในการระงับเหตุแล้ว แต่ทางผู้ก่อเหตุ หรือ พ.ต.ท.กิตติกานต์ ไม่มีท่าทีสงบ ไม่ยอมวางอาวุธ และใช้อาวุธที่เป็นกระสุนจริงโต้ตอบเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา ทำให้ชุดปฏิบติการจำเป็นต้องมีอาวุธที่เท่าเทียมกับผู้ก่อเหตุ แต่ก็มีทั้งกระสุนยาง และปืนไฟไฟ้า ใช้ร่วมปฏิบัติด้วย โดยขั้นตอนการปฏิบัติตามแผนกรกฎ
ส่วนกรณีที่พบว่ามีรอยกระสุน 6 จุดตามร่างกาย ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างให้แพทย์ชันสูตรศพให้ละเอียดก่อนว่าเป็นการเสียชีวิตจากสาเหตุใด
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เผยต่อว่า สาเหตุที่ สารวัตรกานต์ คลุ้มคลั่งน่าจะมาจากสภาวะจิตที่ไม่ปกติ ก่อนหน้านี้ทราบว่ารักษาตัวที่โรงพยาบาลในจังหวัดเชียงใหม่ และปกปิดอาการ ส่วนเรื่องความเครียดในการทำงานน่าจะไม่มี เนื่องจากผ่านเกณฑ์การทดสอบทางจิตใจในระบบออนไลน์มาแล้ว และการโยกย้ายมาปฏิบัติงานด้านการข่าวของตำรวจสันติบาล เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ก็เป็นความสมัครใจ เนื่องจากเป็นงานที่ถนัดกว่างานที่อยู่กองบัญชาการศึกษา
ส่วนประวัติการเสพกัญชาจะมีร่วมด้วยหรือไม่ เนื่องจากพบอุปกรณ์ และต้นกัญชาอยู่ภายในบ้านนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
และการเยียวยาชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ให้ตำรวจในพื้นที่สำรวจความเสียหายและพร้อมที่จะให้เงินช่วยเหลือกับบ้านข้างเคียงที่ได้รับผลกระทบทุกราย และให้ความช่วยเหลือกับญาติผู้เสียชีวิตตามสิทธิ์ที่จะได้รับอย่างเต็มที่