จากกรณีอุบัติเหตุรถตู้โดยสารเสียหลักพุ่งชนราวเหล็กกั้นทางเกาะกลางถนนมิตรภาพ ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ จนเกิดไฟลุกไหม้ท่วมรถตู้ทั้งคัน มีผู้เสียชีวิต 11 ราย และมีผู้รอดชีวิตหวุดหวิดคลานหนีออกมาจากรถได้ทันอีก 1 ราย ตามที่เสนอข่าวไป
เปิดนาทีสลด รถตู้ไฟลุก ดับ 11 ศพล่าสุดวันนี้ (23 ม.ค. 66) เวลา 09.30 น. ที่โรงพยาบาลสีคิ้ว จ.นครราชสีมา รถพยาบาลฉุกเฉินของมูลนิธิฮุก 31 นครราชสีมา ได้ไปรอรับร่างของผู้เสียชีวิตทั้ง 11 ราย จากอุบัติเหตุดังกล่าว เพื่อทยอยนำศพผู้เสียชีวิตไปส่งตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจากเมื่อวานนี้ยังติดเรื่องขั้นตอนรายละเอียดของเอกสารต่างๆ
โดยทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งประชาสัมพันธ์ไปยังญาติของผู้เสียชีวิตทุกรายให้เดินทางไปพร้อมกับร่างของผู้เสียชีวิต เพราะเมื่อไปถึงสถาบันนิติเวช ทางเจ้าหน้าที่จะได้เก็บตัวอย่าง DNA เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับผู้เสียชีวิตแต่ละราย และเมื่อดำเนินการตรวจพิสูจน์เรียบร้อยแล้ว ทางญาติก็สามารถรับร่างผู้เสียชีวิตกลับไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลได้ทันที
พ.ต.อ.ยงยศ พลเดช ผู้กำกับการ สภ.สีคิ้ว เปิดเผยว่า วันนี้จะเริ่มดำเนินการทยอยส่งร่างผู้เสียชีวิตที่ถูกไฟคลอกทั้ง 11 ราย ไปตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เนื่องจากเมื่อวานยังติดขั้นตอนกระบวนการต่างๆ ที่ยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ทางญาติผู้เสียชีวิตเดินทางไปที่สถาบันนิติเวชพร้อมกัน เพราะเจ้าหน้าที่จะได้เก็บตัวอย่าง DNA นำไปตรวจเปรียบเทียบ และจะได้สะดวกในการรับศพกลับไปดำเนินการตามประเพณี ส่วนในเรื่องของทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตนั้น ทางญาติสามารถไปติดต่อขอรับคืนได้ที่พนักงานสอบสวน สภ.สีคิ้ว ซึ่งขณะนี้ส่วนใหญ่ได้ติดต่อขอรับคืนไปแล้ว แต่หากมีทรัพย์สินใดที่ยังสูญหายหรือหาไม่พบ ก็สามารถแจ้งกับเจ้าหน้าที่เพื่อจะได้ติดตามหาทรัพย์สินมาคืนให้กับทางญาติได้ต่อไป
ส่วนในเรื่องของคดี ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าอุบัติเหตุเกิดจากอะไรหรือเป็นความประมาทของใคร ซึ่งพนักงานสอบสวนต้องรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดก่อนจะสรุปสำนวนคดี อย่างไรก็ตามหากอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่ ซึ่งผู้ขับขี่ก็ได้เสียชีวิตลงในที่เกิดเหตุ ในทางกฎหมายก็ถือว่าการดำเนินคดีในส่วนนี้ต้องจบตามไปด้วย
ขณะที่ในส่วนของการตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ เบื้องต้นในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ไม่พบร่องรอยของการเบรกรถ และก็ยังไม่มีพยานหลักฐานพบว่ามีการขับรถตัดหน้ากันแต่อย่างใด ซึ่งรถตู้โดยสารคันที่เกิดเหตุ เป็นรถตู้โดยสารรับจ้างไม่ประจำทางที่จดทะเบียนถูกต้องกับกรมการขนส่งทางบก และมีจีพีเอสในการตรวจวัดความเร็วของรถตู้ตลอดการเดินทาง โดยจากการตรวจสอบจากจีพีเอสพบว่า ขณะเกิดอุบัติเหตุรถตู้คันดังกล่าวขับรถมาด้วยความเร็วประมาณ 87 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา ได้ร่วมกันตรวจสอบรถตู้โดยสารคันที่ประสบเหตุแล้ว ในเบื้องต้นคาดว่า สาเหตุของไฟไหม้น่าจะเกิดจากการที่รถตู้เสียหลักพลิกคว่ำแล้วเกิดมีน้ำมันเชื้อเพลิงรั่วไหลออกมา ประกอบกับรถตู้เดินทางมาเป็นระยะเวลานาน ทำให้เกิดความร้อนจนเกิดประกายไฟ เป็นสาเหตุให้เกิดไฟลุกท่วมรถตู้ ซึ่งจากการตรวจสอบถังก๊าซ CNG จำนวน 3 ถังที่ติดตั้งบนรถตู้ เจ้าหน้าที่ไม่พบร่องรอยความผิดปกติ และรอยแตกร้าวแต่อย่างใด
อีจัน ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอเป็นกำลังใจให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยครับ
คลิปอีจันแนะนำ
วงจรปิดจับภาพ! นาทีรถตู้ตกร่องถนนไฟลุก ไฟไหม้รถตู้โดยสาร