วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563 นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ทำหนังสือถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ขอให้ลงโทษทางวินัยกับ ดร.วิชญ์ วณิชพัทธ์ อาจารย์ที่ละเมิดกฎหมายเมาแล้วขับ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง กับอาจารย์ท่านอื่น ๆ หลัง ดร.วิชญ์ เมาแล้วขับ จนไปชนท้าย จยย. สายตรวจตำรวจ สภ.พระประแดง จนนายตำรวจ และ แม่ค้าได้รับบาดเจ็บรวม 3 ราย ก่อน ดร.วิชญ์ จะโทรเรียกน้องสาวให้มาช่วยเจรจากับตำรวจที่รับแจ้งเหตุ จากนั้นเรื่องก็ลุกลามใหญ่โต เมื่อน้องสาว ดร.วิชญ์ อ้างว่า ตำรวจใช้กำลังเกินกว่าเหตุ ขณะที่ตำรวจก็พยายามชี้แจงว่า ที่ทำแบบนั้น เพราะ ดร.วิชญ์ มีท่าทีคล้ายจะขับรถหลบหนี
โดยในหนังสือ ระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า “เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 ดร.วิชญ์ วณิชพัทธ์ อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ได้กระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย เมาแล้วขับเป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่บาดเจ็บ 2 นาย ซึ่งผลการตรวจพบมีแอลกอฮอล์ 161 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ เกินกว่ากฎหมายกำหนด 2 เท่า เหตุเกิดท้องที่ สภ.พระประแดง พฤติกรรมของ ดร.วิชญ์ วณิชพัทธ์ นับเป็นภัยร้ายแรงต่อประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน เป็นการท้าทายกฎหมาย ทั้ง ๆ ที่รัฐบาล หน่วยงานทุกภาคส่วนได้มีการรณรงค์ เพื่อให้เห็นถึงพิษภัยของการเมาแล้วขับอย่างกว้างขวางในสื่อมวลชนทุกแขนง ประกอบกับ ดร.วิชญ์ วณิชพัทธ์ เป็นครูบาอาจารย์ ควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกศิษย์
มูลนิธิเมาไม่ขับ ในฐานะองค์กรสาธารณประโยชน์ ที่ไม่ได้มุ่งแสวงหากำไร ซึ่งทำงานรณรงค์และสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายเมาไม่ขับ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2539 จึงมีหนังสือมายังท่าน เพื่อขอให้มีการลงโทษทางวินัยกับ ดร.วิชญ์ วณิชพัทธ์
ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับข้าราชการในมหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของท่าน ในนามของมูลนิธิเมาไม่ขับ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการพิจารณาจากท่าน พร้อมทั้งมูลนิธิเมาไม่ขับ ขอยืนยันว่าไม่มีเหตุโกรธเคืองใด ๆ เป็นส่วนตัวกับ ดร.วิชญ์ วณิชพัทธ์ แต่อยากให้กรณีดังกล่าวเป็นกรณีศึกษาเพื่อให้ข้าราชการในมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ที่ยังมีพฤติกรรมเมาแล้วขับ ได้ลด ละ เลิกพฤติกรรมดังกล่าวเสีย ในฐานะข้าราชการที่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับประชาชน ซึ่งผลการดำเนินการเป็นประการใด ขอความกรุณาแจ้งให้กับมูลนิธิเมาไม่ขับทราบด้วย จักเป็นพระคุณอย่างยิ่ง จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา”
