(17 มี.ค.63) นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต เผยว่า การแยกกักตนเองที่บ้านเป็นการสังเกตอาการ ว่า ตนเองจะได้รับเชื้อหรือมีอาการป่วย จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อตนเองและสังคมโดยรวม เนื่องจากจะทำให้สามารถสังเกตอาการของตนเองได้ชัดเจนและสร้างความปลอดภัยให้คนรอบข้าง แต่ทั้งนี้หากผู้ที่แยกกักตนเองที่บ้านมีโรคประจำตัวหรือรักษาโรคทางจิตเวชอย่างต่อเนื่อง ควรเตรียมยาให้เพียงพอสำหรับช่วงการแยกกักตนเอง โดยพยายามไม่ขาดยา
หากอยู่ในระหว่างการแยกกักตนเองที่บ้านและพบว่ายาที่มีอยู่นั้น ไม่เพียงพอต่อช่วงระยะเวลาการแยกกักที่เหลือ สามารถให้ข้อมูลเรื่องอาการของตนเองกับญาติ และมอบหมายญาติเพื่อมาพบจิตแพทย์เพื่อปรึกษาและรับยาจิตเวชแทนได้ที่โรงพยาบาลจิตเวช โดยไม่มีความจำเป็นต้องเดินทางมายังโรงพยาบาลด้วยตนเอง เพราะอาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้ตนเองและผู้ป่วยอื่นๆ
กรมสุขภาพจิตขอเน้นย้ำว่า ทุกคนมีส่วนร่วมในการช่วยให้สถานการณ์ในขณะนี้เบาบางลงได้ โดยต้อง “ตระหนักแต่ไม่ตระหนก” ดูแลป้องกันตนเองและคนใกล้ชิดอย่างมีสติ ลดการเสพข่าวที่มาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือซึ่งอาจสร้างความตื่นตระหนก ไม่ส่งต่อและไม่แชร์ข้อความที่ดูเกินจริงและไม่ได้รับการยืนยัน ลดความเกลียดชังในสังคม และควรติดตามข่าวสารจากกระทรวงสาธารณสุขทางช่องทางต่างๆอย่างใกล้ชิด หากมีข้อสงสัย สอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือหากเกิดความเครียดหรือวิตกกังวลอย่างมาก สามารถโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง
- ไทยพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 30 ราย สะสม 177 ราย
- สราวุธ เผย ตำรวจศาลรวบสาวอ้างป่วยโควิด หลังหลบหนีศาลคดีปลอมบัตรเครดิต
- ธรรมนัส โพสต์ไม่ติดเชื้อโควิด-19
- แพทย์แนะปิดเมือง 21 วัน ช่วยลดการระบาดโควิด-19 ได้
- สถานีรถไฟบุรีรัมย์ตรวจคัดกรองคนผ่านเข้า-ออก ป้องกันโควิด-19