จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่แพร่กระจายอยู่ในประเทศไทย และอีกหลายประเทศ สร้างความวิตกกังวลให้กับประชาชนจำนวนมาก โดยหลายๆ คนอาจเกิดความวิตกว่าติดเชื้อโควิดแล้วหรือยัง ทำให้เกิดการหาข้อมูลต่างๆ เอง ซึ่งบางครั้งอาจจะไม่ได้ตรงตามความจริงสักเท่าไหร่ เนื่องจากเกิดจากการคาดเดาเอาเอง
วันนี้ (3 เม.ย.63) ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร ได้คิดระบบ BKK COVID-19 เพื่อช่วยคัดกรอง ให้ความรู้ ช่วยเหลือประชาชนให้ได้รับคำแนะนำ และการรักษาอย่างถูกวิธี และทันท่วงที โดยประชาชนสามารถเข้าไปทำแบบประเมินความเสี่ยงด้วยตนเองได้ที่เว็บไซต์ http://bkkcovid19.bangkok.go.th/ ซึ่งใช้แบบประเมินตามเกณฑ์ PUI เช่นเดียวกันกับที่แพทย์ใช้ในการสอบถามอาการเบื้องต้น เพื่อคัดกรองผู้ที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 โดยมีรายละเอียดการประเมินดังนี้
1.ประเมินประวัติเสี่ยง ได้แก่ เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการระบาดอย่างต่อเนื่อง สัมผัสใกล้ชิดบุคคลที่มาจากพื้นที่ที่มีการระบาด สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยที่เข้าข่าย หรือได้รับการยืนยันการติดเชื้อโควิด-19 หรือเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงภายในประเทศ
2.ประเมินอุณหภูมิ หรือ ประวัติว่ามีไข้
3.ประเมินอาการทางเดินหายใจ ได้แก่ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ และ หายใจเหนื่อยหรือหายใจลำบาก
โดยเมื่อทำแบบประเมินแล้วเสร็จ ระบบจะทำการประเมิน และจัดกลุ่มว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงระดับใด พร้อมให้ความรู้ในการปฏิบัติตนตามระดับความเสี่ยงนั้น ๆ ได้แก่
กลุ่มที่ 1 ไม่พบประวัติเสี่ยง (สีเขียว) จะได้รับข้อแนะนำในการดูแลตนเองเบื้องต้น ด้วยการล้างมือบ่อย ๆ ทานร้อน ช้อนส่วนตัว สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างจากผู้อื่น ออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอ
กลุ่มที่ 2 กลุ่มเฝ้าระวัง (สีเหลือง) อาจเป็นโรคอื่น เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ให้สังเกตอาการใน 48 ชั่วโมง หากอาการไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์ และจะได้รับข้อแนะนำในการดูแลตนเองเบื้องต้นเช่นเดียวกับกลุ่มสีเขียว แต่เพิ่มในเรื่องของการหลีกเลี่ยงกิจกรรมหรือสถานที่แออัด
กลุ่มที่ 3 กลุ่มเสี่ยง (สีส้ม) จะได้รับคำแนะนำสำหรับตนเองและบุคคลใกล้ชิด และสามารถบันทึกข้อมูลเพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ในระบบได้ โดยผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงให้ปฏิบัติตามคำแนะนำเป็นเวลา 14 วัน เพื่อเฝ้าดูอาการและให้ปฏิบัติตามข้อแนะนำจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด เช่น ให้หยุดเรียน ทำงาน กิจกรรมต่าง ๆ ล้างมือบ่อย ๆ ห้ามใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เว้นระยะห่างจากผู้อื่น ปิดปาก/จมูกด้วยทิชชู่ทุกครั้งที่ไอหรือจาม พร้อมสังเกตอาการไข้ ไอ จาม น้ำมูก เจ็บคอ หายใจลำบาก หากมีอุณหภูมิ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป และมีอาการหอบเหนื่อย ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ โดยระบบจะจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปให้ความรู้และประเมินอาการทุกวัน เป็นเวลา 14 วัน
ส่วนผู้ใกล้ชิดกลุ่มเสี่ยง ผู้อาศัยร่วมบ้านทุกคนให้ล้างมือบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดและควรนอนแยกกับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง พร้อมสังเกตอาการเจ็บป่วยของตนเอง 14 วัน หลังสัมผัสใกล้ชิดผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง
กลุ่มที่ 4 กลุ่มเข้าเกณฑ์สงสัย (สีแดง) ให้สวมใส่หน้ากากอนามัย กักตัวเองในบ้านทันที และควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย โดยบันทึกข้อมูลเพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ในระบบ หรือติดต่อทางโทรศัพท์ ได้แก่ ศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานคร โทร.1646 หรือสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ โทร.1669 หากเจ้าหน้าที่ประเมินแล้วว่า อยู่ในกลุ่มที่จะต้องเข้ารับการตรวจโดยด่วน ทางระบบจะจัดรถพยาบาลจากศูนย์เอราวัณของกรุงเทพมหานครเพื่อเข้าไปรับมายังโรงพยาบาลและทำการตรวจเชื้อหาโควิด-19 โดยเร็วที่สุด
- เช็กด่วน! จ.ชลบุรี สั่งปิดที่ไหนบ้าง รับมาตรการเคอร์ฟิว
- ครม. เห็นชอบบรรจุข้าราชการ สธ. 45,242 ตำแหน่ง ปฏิบัติงานสู้โควิด-19
- เปิดมาตรการเข้มตำรวจ หลังประกาศห้ามออกจากบ้าน 4 ทุ่ม-ตี4