ตำรวจเข้ม! คลอด 3 มาตรการคุม หลังต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

โฆษก สตช. เผย ตำรวจคลอด 3 มาตรการเข้ม หนุนรัฐบาล ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กำชับ ใช้กฎหมายจริงจัง ลั่น จะดูแลประชาชนให้ดีที่สุด

(30 เมษายน 2563) หลังจากมีการประกาศขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปอีก 1 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 ถึง 31 พฤษภาคม 2563 นั้น

พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ภารกิจสำคัญของฝ่ายความมั่นคงและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการสนับสนุนการดำเนินการของรัฐบาล คือ การบังคับใช้กฏหมายเพื่อป้องกันและลดการแพร่ระบาดของโรค

ภาพจากอีจัน

3 มาตรการหลักๆ ของฝ่ายความมั่นคง ประกอบด้วย
1. สายตรวจร่วม ซึ่งฝ่ายความมั่นคงจะปรับการปฏิบัติ โดยเปลี่ยนจากการ ตั้งรับ เป็น รุกเข้าสู่ปัญหา โดยตำรวจจะร่วมกับ กรุงเทพมหานคร จังหวัด ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ทหาร สาธารณสุข และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง จัดให้มีชุดปฏิบัติการร่วมในลักษณะ ชุดเคลื่อนที่เร็ว หรือ ชุดปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อ ตามคำสั่งและประกาศที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้าไปดำเนินการในกรณีต่างๆ ใน 4 แนวทาง คือ
1) การสุ่มตรวจสอบการกักกันแบบ Home Quarantine
2) การเข้าตรวจสถานที่ ร้านค้า สถานประกอบการ ที่ได้รับการผ่อนคลายการบังคับใช้ในบางมาตรการ ว่าสามารถปฏิบัติได้ถูกต้องตามสุขลักษณะหรือไม่
3) การเข้าไปตรวจสอบและจับกุมการมั่วสุมรวมตัวกันที่อาจก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ทั้งในช่วงกลางวัน และช่วงเวลาเคอร์ฟิว เช่น โรงแรม หอพัก ฯลฯ
4) การร่วมปฏิบัติหน้าที่ ณ จุดตรวจเคอร์ฟิว ในเวลา 02.00 น. ถึง 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น

2. เข้มงวดการหลบหนีเข้าประเทศ
โดยสั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และตำรวจภูธรจังหวัดทุกจังหวัดที่มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน เพิ่มความเข้มข้นของมาตรการ ตรวจสอบผู้ลักลอบเดินทางเข้าประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติ เพื่อลดจำนวนผู้เดินทางที่ไม่ผ่านการคัดกรอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงงานต่างด้าว รวมถึงการให้การสนับสนุนมาตรการ State Quarantine และ Local Quarantine ของรัฐบาลในทุกจังหวัด

3. บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง
จากสถานการณ์ปัจจุบันซึ่งทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ส่งผลต่อแนวโน้มของการเกิดอาชญากรรม จึงได้กำชับไปยังทุกหน่วยให้เข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน เช่น ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ ลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ฉ้อโกง การกู้ยืมเงินในอัตราดอกเบี้ยที่เกินกว่ากฎหมายกำหนด การทวงหนี้โดยผิดกฎหมาย บ่อนการพนัน และยาเสพติด รวมไปถึงอาชญากรรมที่เป็นการซ้ำเติมประชาชนที่กำลังเดือดร้อนในปัจจุบัน เช่น ความผิดเกี่ยวกับการขายหน้ากากอนามัย และเวชภัณฑ์เกินราคา การเผยแพร่หรือส่งต่อข่าวปลอม การฝ่าฝืนประกาศ ข้อกำหนดของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ หรือการฝ่าฝืนข้อกำหนดห้ามออกนอกเคหสถานในห้วงเวลาที่กำหนด หรือ เคอร์ฟิว เป็นต้น

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอพี่น้องประชาชนทุกท่านโปรดเข้าใจและให้ความร่วมมือ ในการปฏิบัติตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้ประเทศไทยสามารถรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อโรคได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะยังคงคุมเข้ม และเข้มงวดมาตรการต่างๆ ทั้งในด้านสาธารณสุข การเดินทาง และอาชญากรรม

เพื่อไม่ให้สถานการณ์กลับมารุนแรงอีก สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอให้คำมั่นว่า “เราจะดูแลประชาชนให้ดีที่สุด"

ภาพจากอีจัน