*** ความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ***
เพราะปาฏิหารย์ส่วนหนึ่งมาจากตัวเรา เเละกำลังใจของคนรอบข้าง ไม่มีใครรู้ความแน่นอนของชีวิต เเต่สิ่งเดียวที่ลิขิตมันได้คือหัวใจเเละความอดทน ของตัวเราเอง
จันมีเรื่องราวของยายวัย 63 ปี ผู้สร้างปาฏิหารย์และสร้างเเรงบันดาลใจของการสู้กับโรคร้ายให้กับใครหลายๆคน
ก่อนหน้านี้คุณยายเป็นโรคไทรอยด์ที่คอ แต่ก็รักษตามอาการมาเรื่อยๆ จนก้อนเนื้อเริ่มโตขึ้นเเละพบว่ามีมะเร็ง แต่กว่าจะตรวจพบเชื้อมะเร็งก็ได้ลุกลามลงไปที่ปอดทั้งสองข้าง และลามขึ้นไปที่ฟันกรามด้านซ้ายบนรวมถึงลามไปที่สมองเเล้ว
คุณยายตรวจพบเชื้อมะเร็งประมาณ ปี 2557 ตอนนั้นคุณหมอบอกว่าคุณยายเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย อยู่ได้อีกไม่นาน ญาติๆต่างทำใจ
เเต่นับตั้งเเต่วันนั้นคุณยายไข่ขวัญเคยเข้ารับการรักษาที่ศูนย์มะเร็งอุบลฯ และจะส่งตัวเข้าผ่าตัดฉายแสงที่ รพ.พระมงกุฎฯ แต่แพทย์ก็แนะนำว่าเป็นหนทางที่เสี่ยง เพราะร่างกายคุณยายไม่แข็งแรง ประกอบกับอายุที่มาก หากใช้วิธีการใช้เคมีบำบัดอาการของเชื้ออาจลุกลามไปยังส่วนต่างๆได้ในภายหลัง อีกทั้งคุณยายเองไม่ประสงค์จะเข้าผ่าตัด แต่คุณยายเลือกแนวทางการรักษาแบบวิถีธรรมชาติบำบัดชีวจิตเป็นหลัก เรียนรู้การใช้ชีวิตตามแนวทางของผู้ปฏิบัติธรรม ด้วยการทำสมาธิ ทำจิตใจให้ผ่องใสเบิกบาน สวดมนต์เป็นประจำ ควบคุมอาหารโดยการเลือกทานผักพื้นบ้านผลไม้เป็นหลัก เลี่ยงเนื้อสัตว์ ชอบปั่นจักรยานออกกำลังกาย ทำงานบ้าน และอยู่ในที่อากาศถ่ายเทตามวิถีชีวิตของผู้เฒ่าชนบท
สิ่งที่ทุกคนรอบข้างรักคุณยาย เพราะคุณยายเป็นคนน่ารัก อ่อนโยน ชอบปฏิบัติธรรม สอนธรรมะให้กำลังใจแก่ทุกคนโดยที่ไม่คิดว่าตัวเองนั้นป่วย แต่คุณยายสอนเสมอว่า กายมันป่วยได้ แต่อย่าปล่อยให้ใจของเราป่วยตาม
ซึ่งตอนนี้พระอาจารย์ตะวันบอกว่า คุณยายอาการเริ่มทรุดหนัก อวัยวะภายในไม่ไหวเเล้ว เเต่การรับรู้ของคุณยายยังเต็มร้อย คุณหมอเเจ้งใหญาติทำใจเเล้ว ทางญาติได้ทำใจไว้เเล้วหากคุณยายไม่ไหวก็จะให้คุณยายไปอย่างสงบ เพราะคุณยายสู้มามากเเล้ว เกินที่คุณหมอเเละญาติๆคาดหมาย
สิ้นสุดการต่อสู้
30 ปีที่ผ่านมา คุณยายเข้มเเข็งมากค่ะ
หวังว่าเรื่องของคุณยาย จะเป็นกำลังใจให้ทุกคนฮึดสู้นะคะ
เเม้ว่าจุดจบของชีวิตทุกคนคือความตาย เเต่ความตายไม่ใช่ทางออกของชีวิต
ขอให้ทุกคนสู้ๆจนชนะอุปสรรค สู้จนชนะโรคภัย เเละเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับทุกก้าวในชีวิต