แม่ไพรวันขอทวงที่ดินคืน!!! ใครโกงเอาไปขาย ไถ่มาคืนเสีย

ชาวบ้านตาสีตาสา จ.เลย ไม่รู้กฎหมาย น้ำตาตกใน ที่ดินผืนสุดท้ายในชีวิต ถูกขายต่อไปมา เพราะลูกปลอมลายเซ็นเอาโฉนดไปค้ำ ที่ดินจากราคาหลักหมื่น ต้องซื้อคืนราคาหลักล้าน คาดทำเป็นกระบวนการ

เรื่องราวสะเทือนหัวใจของชาวบ้านตาสีตาสา ไม่รู้กฎหมาย ต้องเสียที่ดินผืนสุดท้ายของชีวิตให้กับใครก็ไม่รู้ ที่ขึ้นชื่อว่านายหน้า หานายทุนกู้เงินให้ และทุกข์ทรมานใจจะหาเงินก้อน 2 ล้านกว่าที่ไหนมาไถ่คืน
เเต่เจ็บยิ่งกว่าเมื่อเเม่รู้ว่า ลูกปลอมลายเซ็นต์…


พี่อุ๊ สาววัย 37 ชาว ต.หนองหิน อ.หนองหิน จ.เลย เธอเล่าให้อีจันฟังว่า เรื่องราวทั้งหมดนี้เกิดจากเธอ… เมื่อปลายปี 2558
เธอเปิดร้านเสริมสวย ลำพังแค่เธอคนเดียวก็พอเลี้ยงชีพได้ แต่เธอต้องเลี้ยงลูก 1 คน ซึ่งเป็นเด็กที่มีพัฒนาการช้า จึงมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้น ในหัวของพี่อุ๊ตอนนี้คิดแค่ว่าจะหาเงินที่ไหนมาจุนเจือครอบครัวให้อยู่รอด จึงคิดหารายได้โดยการขายหวยใต้ดิน แล้วก็ขายมาเรื่อยๆ

ภาพจากอีจัน
อยู่มาวันหนึ่ง มีคนมาซื้อหวยแล้วไม่จ่าย เธอกลายเป็นคนมีหนี้หลักแสน!!! พี่อุ๊ มืดแปดด้าน คิดอะไรไม่ออก เธอหาทางออกด้วยการสอบถามคนรู้จักมักคุ้น น.ส.เอ บอกว่ามีแหล่งเงินกู้ให้ แต่ต้องหาหลักทรัพย์มาค้ำประกัน “เราไม่มีหลักทรัพย์มาค้ำประกันเลย เพราะแม่ก็ยังไม่ได้แบ่งสมบัติให้” พี่อุ๊บอก น.ส.เอ เลยแนะนำว่า ให้เอาโฉนดที่ดินที่เป็นชื่อของแม่มาค้ำก็ได้ “แต่แม่คงไม่เซ็นให้หรอก” พี่อุ๊บอกอีก น.ส.เอ แนะนำอีกว่า เดี๋ยวจะให้พี่อุ๊เป็นคนเซ็นมอบอำนาจ และจะเป็นคนกู้เงินมาให้ พี่อุ๊หลงเชื่อเพราะคิดว่าเขาคือคนรู้จักและคุ้นเคยกันดี และตัวเธอเองไม่รู้เกี่ยวกับกฎหมาย โฉนดที่ดินอะไรเลย จึงตัดสินใจไปเอาโฉนดที่ดินผืนสุดท้าย 17 ไร่ เป็นที่ดินทำมาหากิน ปลูกข้าว ปลูกอ้อย ที่แม่ไพรวัน แม่ของพี่อุ๊มี พร้อมกับสำเนาทะเบียนบ้านของแม่ มาให้ น.ส.เอ พร้อมปลอมลายเซ็นแม่ เขียนลงบนหนังสือมอบอำนาจเปล่าที่ไม่มีรายละเอียดใดๆ วันเดียวกันนั้น น.ส.เอ ที่เป็นนายหน้า ก็นำเงินจำนวน 39,000 บาท มาให้พี่อุ๊ พร้อมกับบอกเธอว่า ต้องจ่ายดอกร้อย 5-10% ต่อเดือน
ภาพจากอีจัน
พี่อุ๊จ่ายดอกไม่เคยขาดตลอด 6 เดือน เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ที่ดินผืนนี้ของแม่กลายเป็นของใครก็ไม่รู้! อยู่มาวันหนึ่ง นาง บ. มาที่บ้าน บอกกับแม่และพี่อุ๊ ว่า โฉนดที่ดินผืนนี้มีคนมาขายให้กับเธอแล้ว และเธอได้นำไปขายฝากต่ออีกทอดหนึ่งให้กับ นาย น. ซึ่งเป็นนายทุนที่รู้จักกัน อีกไม่กี่วันจะครบสัญญาที่ฝากขายไว้ 3 เดือน ให้หาเงินมาไถ่ที่ดินคืนในราคา 600,000 บาท แม่ไพรวัน ได้ฟังเรื่องราวแล้วแทบล้มทั้งยืน ในหัวมีแต่ความสงสัยว่า โฉนดของตัวเองไปอยู่ในมือของผู้หญิงคนนั้นได้อย่างไร ? เพราะจำได้ว่าเก็บโฉนดไว้ในตู้เป็นอย่างดี พี่อุ๊รีบสารภาพผิด เรื่องทั้งหมดเกิดจากเธอและเล่าความจริงให้แม่ฟัง พร้อมกราบขอขมากับสิ่งที่ทำลงไป +++ภาพพี่อุ๊ไหว้ขอโทษแม่+++ พี่อุ๊ไม่รอช้า รีบติดต่อไปหา น.ส.เอ ที่เป็นนายหน้า น.ส.เอ รับปากกับพี่อุ๊ว่า จะรับผิดชอบด้วยการไถ่โฉนดคืนให้เร็วที่สุดและขอร้อง อย่าไปแจ้งความ เพราะถ้าเธอติดคุก พี่อุ๊จะไม่ได้อะไรคืนจากเธอเลย
ภาพจากอีจัน
ความทุกข์ใจเกิดขึ้น 30 ธันวาคม 2559 ครบสัญญา 3 เดือน ที่ดินก็ตกเป็นของนาย น. ต่อมาพ่อของนาย น. เข้ามาหาที่บ้านพร้อมกับบอกว่า ให้พี่อุ๊และแม่ออกจากที่ดินผืนนั้นให้เร็วที่สุด ส่วนข้าวและอ้อยที่ปลูกไว้ จะแบ่งให้ครึ่งหนึ่ง ความไม่รู้ตาสีตาสา อ้อนวอน ว่าถูกโกงที่ดินไป เหลือที่ทำกินแค่ตรงนี้ …เขาไม่ฟังและไม่เห็นใจสักอย่าง พี่อุ๊ติดต่อกลับไปหานายหน้าอีกครั้ง เขาก็แนะนำเธอว่า ให้หานายทุนมาซื้อที่ดินผืนนั้นไว้ให้ก่อน จนกว่าพี่อุ๊จะมีเงินมาไถ่คืน แต่นายทุนที่ติดต่อเข้ามานั้นไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือ นาง บ. คนที่รับซื้อโฉนดคนแรก นาง บ. ตกลงจะซื้อที่ดินผืนนี้ให้ แต่มีข้อแม้ว่า แม่ไพรวันต้องเป็นคนไปขอซื้อคืนจาก นาย น. เอง แล้วค่อยมาขายให้กับนาง บ. โดยจะทำสัญญาให้ซื้อคืนภายใน 1 ปี เพื่อให้เวลานายหน้าหาเงินมาซื้อคืนให้ “ฉันเป็นชาวไร่ชาวนา จะมีเงินที่ไหนไปซื้อคืน” แม่ไพรวันบอก นาง บ. เลยบอกกลับมาว่า ให้ไปเซ็นชื่อและขอซื้อคืนเฉยๆ เรื่องเงินเดี๋ยวเขาจัดการเอง ด้วยความที่กลัวว่าจะเสียที่ดินผืนสุดท้ายไป แม่ไพรวัน ตกลง และ #ไม่รู้ว่าเขามีการซื้อขายกันเท่าไหร่ เงินสักบาทไม่ได้จับ นายหน้าเป็นคนจัดการทุกอย่าง พร้อมบอกว่าไม่ต้องสนใจเรื่องราคา แต่เซ็นชื่ออย่างเดียว!!! วันเดียวกันนั้น แม่พี่อุ๊ เดินทางไปที่กรมที่ดิน เพื่อทำธุรกรรม ซื้อคืนและขายต่อให้กับตัวละครใหม่ คือ นาง จ. ซึ่งเป็นลูกสาวของนาง บ. คำสัญญาที่นาง บ. ให้ไว้ แม่ไพรวันจำได้ขึ้นใจ “จะขายคืนให้แม่ไพรวัน เพียงคนเดียวเท่านั้น ภายใน 1 ปี เกินเวลาไปก็ไม่เป็นไร เพราะสงสารคนยากจน”
ภาพจากอีจัน
ผ่านไป 1 ปี กลุ่มนายหน้า ก็ยังไม่ซื้อที่ดินคืนให้แม่ไพรวัน สองแม่ลูก ร้อนใจอีกครั้ง เมื่อ นาง บ. คนที่เคยบอกจะซื้อที่ดินคืนให้กลับกลายเป็นอีกคน! นาง บ. มาที่บ้าน บอกกับพี่อุ๊ว่า รีบหาเงินมาไถ่คืน ในราคา 1,100,000 บาท ไม่อย่างนั้นจะประกาศขายด่วน ที่ดินราคาพุ่งสูงขึ้นมากเพราะถูกส่งต่อกันหลายทอด หลายมือ แถมนาง บ. ยังขู่อีกว่า ไม่ต้องไปแจ้งความให้เปล่าประโยชน์ ทนายก็ไม่ต้องจ้างเพราะถิ่นนี้เขารู้จักหมด จบประโยคนั้น พี่อุ๊และแม่ไพรวันเจอทางตัน มืดไปหมดทุกด้าน
ภาพจากอีจัน
และแล้ว 3 ตุลาคม 2561 ตัวละครใหม่โผล่!!! นาง จ. ขายที่ดินผืนนั้นให้กับ นาง อ. เรื่องนี้ถึงศาลจังหวัดเลย เพราะนาง อ. ได้ฟ้องศาลเเพ่ง ขับไล่ ละเมิด เรียกค่าเสียหาย พี่อุ๊และแม่ไพรวันให้ออกไปจากที่ดิน พร้อมบอก ถ้าอยากได้ที่ดินคืน ให้หาเงิน 2,400,000 บาท มาไถ่ ศาลจึงทำหนังสือประนีประนอม ยอมความให้ โดยให้เเม่ไพรวันหาเงินมาซื้อที่ดินคืนภายในเดือนตุลาคม 2564 เเละไม่ให้นาง อ.ไปสอดส่อง หรืออ้างว่าไปดูเเลที่ดินผืนนี้เด็ดขาด สองแม่ลูกใจชื้น ยังพอมีเวลาหาเงินมาไถ่คืน แต่ก็ยังหาทางออกไม่ได้ว่าจะหาเงินก้อนใหญ่ขนาดนั้นมาจากไหน แต่แล้วก็มีแสงสว่างส่องเข้ามา เหมือนจะมีทางออก ทนายมนูญ ทองทิพย์ ทนายที่พี่อุ๊รู้จักยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือแล้ว ขณะนี้ทนายกำลังหาทางช่วย ติดตามกันต่อนะคะว่า 2 เเม่ลูก จะได้ที่ดินคืนหรือไม่ หรือการกระทำแบบนี้จะมีขบวนการ ?