พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส! เปลี่ยนการรักษา เที่ยวเชิงอนุรักษ์ นี่แหละยาดี ช่วยภูเก็ตให้รอด

“สตางค์ เลิฟอันดามัน” ชายที่ฮึดสู้ทำทุกทาง ในวันที่ภูเก็ตป่วยโคม่า! อยากเสนอทางรอด รัฐ

ในวันที่ภูเก็ตเจ็บหนัก… นักท่องเที่ยวหายไปเกือบ 90% โรงแรมร้าน อาหาร กลับมาเปิดกิจการ แต่ตบยุงเป็นงานหลัก ในขณะที่ภูเก็ตกำลังแย่ เหมือนคนป่วยโคม่าใกล้ตายเข้าทุกวัน ชายคนนี้อยากเสนอทางรอดให้ท่องเที่ยวภูเก็ตกลับมาหายใจได้อีกครั้ง!

ภาพจากอีจัน


เขาชื่อ สตางค์ หรือ ต่อพงษ์ วงเสถียรชัย เจ้าของธุรกิจเรือนำเที่ยวเลิฟอันดามัน Love Andaman พานักท่องเที่ยวลงเรือไปเที่ยว ทั้งภูเก็ต เขาหลัก พังงา ระนอง ออกไปทะเลพม่า แต่หลังจากที่โควิดพ่นพิษ ส่งผลกระทบหนัก ปิดประเทศ ภูเก็ตปิดเกาะ เรือนำเที่ยวจอดทิ้งไว้ ว่างเปล่า

“ผมเชื่อมีคนรอดแค่ 5% ธุรกิจตอนนี้ ภูเก็ต พังงา กระบี่ ชะตากรรมเดียวกัน” สตางค์บอก

ถามว่าทำอะไรได้ ?
ตอนนี้พยายามหาทางแก้ไขแล้ว แต่แก้ยังไงก็ชน เพราะมาตรการที่ทางรัฐออกมา มันช่วยไม่ได้จริงๆ Soft Loan หรือ เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ แทบจะไม่มีใครได้ ผมก็ไม่ได้นะ เราก็เลยอยากสะท้อนเสียงไปถึงรัฐบาล ให้ช่วยเหลืออีก 95% ที่จะไม่รอด

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน


“แคมเปญเยียวยาจากรัฐ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน แคมเปญกำลังใจของ อสม. บอกให้ 2,000 บาท แต่ อสม. ในภาคใต้มีอยู่น้อยมากเมื่อเทียบกับภาคอื่น ทีมผู้ประกอบการอยากได้ อสม. จากภาคเหนือ ภาคอีสาน คนที่เขาไม่เคยเห็นทะเล แต่สุดท้ายงบมันเหลือแค่ 2,000 บาท มันก็เลยได้แค่จังหวัดที่ใกล้เคียงกับภูเก็ต อย่าง พังงา กระบี่ สุราษฎร์ธานี ตรัง ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีทะเลอยู่แล้ว ใครจะมาเที่ยว ?”

ส่วนเงื่อนไขก็ยากไปหมด ต้องมีรถไปรับด้วย มาทีกลุ่มใหญ่แบบ 30 คน โรงแรม 3-1 ดาวแทบจะไม่ช่วย ตายเกลี้ยง!
แคมเปญออกมาเหมือนช่วยให้โรงแรมระดับ 4-5 ดาวให้รอด ช่วยให้คนรวยได้เที่ยวถูกลง เพราะว่า คนมีตังค์จะเที่ยวก็เที่ยวพูลวิลล่าอยู่แล้ว เคยจองคืนละ 10,000 บาท พอมีแคมเปญเข้ามา ช่วยลดลงทีละ 3,000 บาท จองได้ 5 คืน ลดไป 15,000 บาท แน่นอนคนไม่เลือกที่จะพักโรงแรม 3-1 ดาว อยู่แล้ว

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน


สตางค์ยังบอกอีกว่า …
จริงๆโครงการนี้ ต้องเอากลับไปคิดใหม่ หัวใจของการทำโครงการเพื่อกระจายรายได้ให้ทุกคน ยังทั่วถึงและเท่าเทียมอยู่ไหม ? แต่โครงการนี้มันทำให้ คนรวยเที่ยวได้ถูกลง มันมาไม่ถึงคนระดับกลาง ระดับเล็ก มันไม่มีประสิทธิภาพ ช่วยไม่ได้

ผมมีแฟนเพจ 1,000,000 กว่าคน ผมเป็นหนึ่งในคนที่มั่นใจว่ารอด ต่อให้ผมจะรอดผมก็ไม่มั่นใจว่าผมจะรอดแค่ไหน ถ้าสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้อยู่ แล้วโครงการของรัฐ ยังไม่ได้ถูกใช้ขับเคลื่อนทั้งภาคให้ไปได้ สุดท้ายผมก็ไม่รอดอยู่ดี

ภาพจากอีจัน


ตอนนี้ภูเก็ตเปรียบเสมือนคนป่วยหนัก เข้าไอซียู แต่ภูเก็ตเหมือนได้รับการรักษาแบบเดียวกัน สมมุติว่า 77 จังหวัดในประเทศไทย กำลังป่วยอยู่ หมอรักษาแบบเดียวกัน แต่ดันลืมไปว่า คนป่วย ป่วยไม่เหมือนกัน ภูเก็ต พังงา กระบี่ เป็นจังหวัดที่พึ่งพาการท่องเที่ยวประมาณ 99% ดังนั้นถ้าคนที่ป่วยสาหัสแบบภูเก็ต ป่วยแบบจะตายแล้ว เปรียบเทียบกับมะเร็งก็ระยะที่ 4 ต้องการเครื่องช่วยหายใจ ต้องการคีโม ต้องการการรักษาแบบดีที่สุด แต่สุดท้าย ได้ยาพาราอย่างเดียว… จะช้าจะเร็ว ภูเก็ตตายแน่

รัฐจะใช้ยารักษาแบบเดียวกันไม่ได้ ต้องมานั่งมองว่าจะรักษาอย่างไรให้รอด สิ่งนี้จะทำให้มันสามารถต่อลมหายใจให้รอดไปจนถึงวัคซีนมา ให้ตายน้อยที่สุด ให้รอดเยอะที่สุด แล้วให้อาการสาหัส อย่างน้อยๆได้มีเครื่องช่วยหายใจ

ตอนนี้เจ้าของธุรกิจต่างๆในภูเก็ต ทำได้เพียงส่งเสียงให้คนมีอำนาจได้ยิน ว่า “ยาที่ส่งมามันรักษาไม่ได้”
มันคือหยดน้ำเกลือ หยดเดียวกับคนที่โคม่ากำลังจะตาย หรือคนที่โดนมีดบาดแล้วเลือดไหลต้องเย็บ 300 เข็ม แต่เย็บให้พวกเขาแค่เข็มเดียว แบบนี้มันไม่ได้!!!

วันนี้ทุกอย่างชัดเจนแล้วว่า ประชาชนมีการใช้สิทธิ์น้อย แสดงว่าต้องมีปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่งที่โครงการ ต้องไปหาให้เจอ หรือโครงการใช้ยาก? ไม่ทั่วถึง? เมื่อเห็นแล้วว่าใช้ยากมีปัญหา ควรจะประชุมแล้วแก้ไข ถ้าไม่แก้ไขมันเหมือนคนที่กำลังจะตายอยู่แล้ว ไม่เปลี่ยนวิธีการรักษา ทั้งๆที่ หมอบอกต้องลองเปลี่ยนวิธีการรักษา ผมว่าตรงนี้สำคัญ

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน


ชายคนนี้อยากเสนอ ทางรอด…ให้ท่องเที่ยวภูเก็ต
1.รัฐต้องปรับเปลี่ยนวิธีการใช้โครงการ เช่น คนมีงบน้อยได้เงิน 5,000 บาท เขาอาจจะไม่พักโรงแรม 5 ดาว เขาอาจจะพักโฮสเทล โรงแรม 1-3 ดาว เขาอาจจะไม่ได้ไปกินอาหารเหลาจานละ 400 บาท เขาอาจจะกินอาหารตามร้านข้าง ต้องหาวิธีการที่มันง่ายใช้ง่ายและกระจายรายได้ ได้เยอะ

2.รัฐต้องไปดูว่า แต่ละจังหวัดมีการรักษาทรัพยากรไม่เหมือนกัน บางจังหวัดที่พึ่งพาการท่องเที่ยวเยอะ แบบเชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา สตูล ตรัง ต้องไปดู ประเทศเราตอนนี้ถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสแล้ว

ยกตัวอย่างเช่น แท็กซี่แพง เจ้าหน้าที่รัฐต้องลงมาดู มาจัดการ ทำราคาใหม่ เซ็ทอัพระบบขนส่งสาธารณะ ร้านอาหารแพง ก็ลงมาทำแคมเปญใหญ่ๆ ส่งข้อความไปให้ถึงคนไทยเพื่อโปรโมท เอาให้เห็นว่า มุมดีๆของภูเก็ตมีเยอะ ธรรมชาติที่กลับมา รถไม่ติด เช่ารถไม่แพงนะ อาหารที่ถูกๆมีเยอะนะ ส่วนภาพลักษณ์ที่ไม่ดี เราก็ต้องลงมาช่วยกัน เพราะเมื่อก่อนภูเก็ตคนมองว่า “ไม่ต้องง้อใคร” อันนี้เป็นทัศนคติที่ผิด ผมไม่เคยมองอย่างนั้นเลย เพราะเราดูตลาดคนไทยเป็นหลัก เพราะเวลามีวิกฤต ตลาดคนไทย เป็นตลาดที่ช่วยให้เรารอดที่สุด เป็นนโยบายบริษัทมาโดยตลอดเลยว่า “เราจะดูแลคนไทยให้ดีที่สุด”

วันนี้ต้องสร้างภาพลักษณ์ใหม่ ใครที่เอาเปรียบนักท่องเที่ยวต้องจัดให้หนัก

ภาพจากอีจัน
ทำอย่างไรต่อ ไม่มีค่าเช่าบ้าน ไม่มีค่ารถ ไม่มีค่ากิน ค่ารักษาพยาบาล ไม่เห็นอนาคตตัวเองว่าจะไปต่ออย่างไร และยังไม่เห็นเลยว่ายาที่จะเอามารักษาจะเป็นยังไง บอกมีเงินกู้ หากันยังไม่เจอเลย Softlone จำนวนมาก เห็นบอกพักเงินต้น แต่ดอกเบี้ยยังรันทุกเดือน ต้องลงมาดูจริงๆ …ว่าพวกเราป่วยกันขนาดไหน ? ไม่ได้บอกว่า ทั้งประเทศไม่มีใครบาดเจ็บนะ บาดเจ็บกันทั้งประเทศ คำถามคือวันนี้เราบริหารจัดการทรัพยากรให้ดีแล้วหรือยัง ? ต้องทำให้ดี จะได้เอามาเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยว ยกระดับทำ High Standard Tourism แบบจับต้องได้ เพราะของที่มันเป็นของดี เกรด A มีมูลค่าต้องบริหารแบบเกรด A ขายให้ได้ราคาแบบเกรด A แล้วทุกคนที่มาเที่ยวภูเก็ต จะกลับไปบอกว่า “Thailand is the best ประเทศไทยสวยมาก ฉันต้องกลับมาอีกครั้งให้ได้” แบบนี้นักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพ กล้ามากล้าจ่ายแน่! วันนี้ภูเก็ตไม่แพงแล้วนะ! ลองเปิดใจ เก็บกระเป๋าออกไปเที่ยวกัน แล้วคุณจะรู้ ทะเลไทยสวยที่สุดเลย^^
ภาพจากอีจัน