ไทยเดินหน้า จัดหาวัคซีนโควิด-19 ล่วงหน้า ย้ำประชาชนต้องเข้าถึง

ข่าวดี วัคซีนชาติไฟเขียว! จัดหาวัคซีนโควิด-19 ล่วงหน้า

5 ต.ค. 63 แพทย์หญิงพรรณประภา ยงค์ตระกูล โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ว่า ที่ประชุม คณะกรรมการวัคซีนฯ เห็นชอบนโยบายในการจัดหาวัคซีนโดยการจองล่วงหน้า ซึ่งมีโอกาสทั้งได้วัคซีนหรือไม่ได้วัคซีนดังกล่าว

ภาพจากอีจัน
แต่เพื่อให้การจัดหาวัคซีนมีความรวดเร็วทันต่อสถานการณ์ ลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ และประชาชนมีโอกาสเข้าถึงวัคซีน จึงมีการยกร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การจัดหาวัคซีนโรคโควิด 19 ในกรณีมีเหตุฉุกเฉินหรือเหตุจำเป็น พ.ศ. 2563 ตามมาตรา 18 (4) แห่งพระราชบัญญัติความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ. 2561 โดยมอบให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักในการทำข้อตกลงร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งในส่วนของ COVAX facility และการทำความร่วมมือแบบทวิภาคีกับผู้ผลิตวัคซีน ที่กำลังทำการทดสอบในคนระยะที่ 3 ทั้งในเอเชียและยุโรป โดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขในลักษณะเดียวกันกับ COVAX facility คือ ต้องลงนามทำสัญญาสำหรับการร่วมพัฒนาศักยภาพการผลิตวัคซีน เพื่อจัดหาวัคซีนและมีการจ่ายเงินในการร่วมพัฒนาล่วงหน้าก่อนที่จะมีวัคซีน
ภาพจากอีจัน
นอกจากนี้ ในที่ประชุมได้มีการรายงานความคืบหน้าแผนเร่งรัดการเข้าถึงวัคซีนของประชาชนไทย ในโครงการพัฒนาวัคซีนต้นแบบตั้งแต่ต้นน้ำ และเตรียมความพร้อมรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนโรคโควิด-19 วงเงิน 1,000 ล้านบาท ซึ่งได้รับการจัดสรรจากงบกลางปี 2563 โดยแบ่งเป็น 3 กิจกรรมสำคัญ ได้แก่ 1.การพัฒนาวัคซีนต้นแบบตั้งแต่ต้นน้ำในประเทศไทยชนิด mRNA โดยคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำนวน 365 ล้านบาท 2.การเพิ่มศักยภาพอุตสาหกรรมการผลิตวัคซีนชนิด Viral vector โดยบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด จำนวน 600 ล้านบาท 3.การเพิ่มศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานด้านสัตว์ทดลอง ดำเนินการโดยศูนย์วิจัยไพรเมทแห่งชาติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำนวน 35 ล้านบาท