จากฟ้าสู่ดิน ! กัปตันขับเครื่องบิน สู่ คนขับแกร็บคาร์

จุดเปลี่ยนชีวิต ! กัปตันการบินไทย ก้าวออกจาก safe zone เมินคำดูถูก ผันตัวสู่ คนขับแกร็บคาร์ แม้เงินน้อย แต่คุณค่าทางใจสูง

ปรับแนวคิด เปลี่ยนมุมมอง จากกัปตันขับเครื่องบิน สู่คนขับแกร็บคาร์
โดยเฟซบุ๊ก Mahesak Wongpa ซึ่งเป็นเฟซบุ๊กส่วนตัวของกัปตันเหม กัปตันของการบินไทย ได้โพสต์ข้อความสร้างแรงบันดาลใจ ในยามที่ชีวิตเจอกับวิกฤติ และพยายามใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
ซึ่งเมื่อโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นให้กำลังใจและกดแชร์ออกไปจำนวนมาก

ภาพจากอีจัน
โดยกัปตันเหม ได้โพสต์ข้อความว่า ในวันเวลาที่ฟ้าปิดมืดสนิท สถานการณ์อะไรก็ดูจะอึมครึม ตน ในฐานะที่เป็นนักบินจึงรู้สึกว่าต้องหาอะไรมาทำ เพื่อใช้เวลาว่างตอนนี้ให้เป็นประโยชน์ และก็นึกขึ้นมาได้ว่า ยังมีอีกทักษะหนึ่งที่ใช้มาตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงทุกวันนี้ นั่นก็คือการขับรถ ซึ่งมันเป็นอะไรที่ง่ายและไม่ซับซ้อน แต่ก็ไม่เคยนึกถึงมัน ก่อนตัดสินใจว่า จะทำอะไรที่ไม่เคยลองทำดู ก็ลองสมัครขับ Grab ซึ่งวิธีการสมัครก็ไม่ได้ยาก แต่ที่ยากกว่าการสมัครก็คือใจของเรานั่นเอง "คนจะดูถูกไหม ที่มาขับ Grab" , "นักบินตกอับมาขับ Grab" , "ถ้าเจอคนรู้จักคงอายแย่" และอีกสารพัดเหตุผลที่คอยดึงตัวเองไว้บางครั้งว่า อย่าทำเลย จนในที่สุด ก็ได้รับการตอบรับเข้าสู่การเป็นนักขับรถ Grab car
ภาพจากอีจัน
การขับ Grab car ครั้งแรกเริ่มต้นขึ้น หลังจากกัปตันเหมรออยู่ประมาณ 1 สัปดาห์ กัปตันเหมยังเขียนไว้ด้วยว่าความรู้สึกครั้งนี้ตื่นเต้น พอๆ กับการเริ่มขับเครื่องบินครั้งแรก แต่เมื่อเปิดแอปขับรถปุ๊บ ก็นิ่งสนิท ต้องขับรถไปเรื่อยๆ เข้าไปในเมือง ไปจนถึงแถวๆ หน้าเซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว ลูกค้ารายแรกก็มา แต่ด้วยความที่ยังไม่ชินกับโปรแกรม ก็เกิดความผิดพลาดขึ้น ขับรถเลยจุดรับลูกค้า จนต้องวนรถกลับมา ขอโทษลูกค้า ซึ่งลูกค้ารายแรกนี้ก็น่ารักมาก ไม่บ่นอะไร แต่ก็ขับไปผิดทางอีก ต้องวนรถกลับมาอีกครั้ง การขับรถครั้งแรกเหมือนถูกรับน้อง จนสุดท้ายก็มาส่งถึงที่หมายจนได้ ลูกค้ายื่นเงินให้ 100 บาท ตนก็ทอนไป 41 บาท เงินก้อนแรกที่น้อยนิด แต่มีคุณค่าทางใจสูงมาก ดีใจที่เริ่มต้นและทำได้สำเร็จ เอาชนะความกลัว ความขี้ขลาดในใจได้ จากนั้นลูกค้ารายที่ 2 3 4 5 ก็ตามมา ตนขับรถเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา ลัดเลาะไปตามแผนที่เพลิน จนลืมเวลา เงินก็เข้ามาใน wallet ทีละนิดทีละหน่อย
ภาพจากอีจัน
กัปตันเหม ยังเขียนไว้อีกว่า ลูกค้า Grab car ส่วนใหญ่น่ารักมากๆ ตนเลยขับด้วยความสบายใจ นอกจากนี้ การขับรถยัง ทำให้ตนรู้จักถนนหนทางในเมืองมากขึ้น รู้ว่าช่วงเวลาไหนที่รถจะติด เส้นทางไหนที่มีลูกค้าเรียกเยอะ ทำให้มีแนวทางในการขับรถให้ได้ลูกค้ามากที่สุดในช่วงเวลาที่เราขับ ซึ่งวันแรกตนก็ขับไป 3 ชั่วโมง ได้ลูกค้า 5 คน ได้เงินประมาณ 500 บาท ถือว่าโอเคแล้วสำหรับการขับรถในวันแรก ดีใจมาก ซึ่งทางบ้านของตนก็ดีใจไปด้วย ที่ตนกล้าหาญกับจริตตัวเอง หลุดออกมาจาก safe zone ได้ในระดับหนึ่ง ทำให้มีกำลังใจที่จะขับรถต่อไป สุดท้าย กัปตันเหม ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับคนที่ยากลำบากในตอนนี้ อะไรที่ดีที่ทำเงินได้ อย่ามัวแต่คิดนาน ก้าวออกจาก comfort zone แล้วลงมือทำเลย