ฉาว วงการผ้าเหลือง “ พระ ” โชว์สไลด์หนอน

ชาวบ้านสุดทน “ พระ ” โชว์สไลด์หนอน ทำ วงการผ้าเหลือง ฉาว

ฉาววงการผ้าเหลืองอีกแล้ว! หลังมีคลิปวีดีโอของพระรูปหนึ่ง โพสต์-แชร์ ลงในโลกโซเชียล โดยเนื้อหาภายในคลิปคือ มีชายคนหนึ่ง ขับรถผ่านไปบนถนนเชียงใหม่ – พร้าว แต่ เมื่อผ่านหน้าวัดเจดีย์แม่ครัว ต.แม่แฝก อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ พบว่า “ มีพระภิกษุ ยืนถลกจีวร ทำการสไลด์หนอน ที่ริมถนนหน้าประตูวัด ซึ่งเจ้าของคลิปได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพไว้ พร้อมกับได้ว่ากล่าวตักเตือนพระรูปดังกล่าวว่าไม่เหมาะสม ทำให้พระรูปดังกล่าวเดินหันหลังกลับเข้าวัดทันที ” โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 01.35 น. ของวันที่ 7 พ.ย. 63 ที่ผ่านมา


ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ทีมข่าวอีจัน ได้ลงพื้นที่ วัดเจดีย์แม่ครัว ต.แม่แฝก อ.สันทราย ที่ถูกระบุว่า เป็นวัดในคลิปภาพดังกล่าว โดยได้ไปสอบถามข้อเท็จจริงกับ พระครูสถิตเจติยารักษ์ เจ้าอาวาสวัด ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดย พระครูสถิตเจติยารักษ์ เปิดเผยว่า พระในคลิป เป็นพระลูกวัดจริง ชื่อว่าพระเจน ( ขอสงวนนามจริง) อายุประมาณ 35 ปี ก่อนหน้านี้พระเจน ได้บรรพชาเป็นสามเณรที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ก่อนจะมาจำพรรษาที่วัดเจดีย์แม่ครัว ในระหว่างเรียนหนังสือ กระทั่งเรียนจบ ก็ยังจำพรรษาอยู่ที่วัด ตลอดเวลาที่อยู่ที่วัด แม้จะมีพฤติกรรมคล้ายกับเบี่ยงเบนทางเพศ แต่ก็ไม่เคยทำอะไรเสื่อมเสีย ช่วยเหลืองานของวัดทุกอย่างเป็นอย่างดี จนได้รับความไว้วางใจให้เป็นเลขานุการเจ้าอาวาส แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะมีพฤติกรรมตามที่ปรากฏในคลิป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดความมัวหมองต่อพุทธศาสนา และนำความเสื่อมเสียให้กับวัด หลังทราบข่าวจึงได้ไปตามตัวพระเจน ที่กุฏิ แต่ก็พบว่าได้ออกไปจากวัดไปแล้วตั้งแต่ช่วงเช้า โทรศัพท์ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่ทางวัดได้เรียกประชุมคณะกรรมการวัดเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง พร้อมกำชับพระลูกวัดไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ส่วนพฤติกรรมที่พระเจน ทำลงไป ถือว่าเป็นความผิดทางวินัยสงฆ์ที่เรียกว่า สังฆาทิเสส จัดเป็นอาบัติโทษรุนแรงรองจากปาราชิก ซึ่งการออกไปจากวัด ก็เป็นความประสงค์ของพระเจน ที่อาจจะเห็นคลิปตัวเองในโลกออนไลน์ หลังจากนี้หากกลับมาที่วัด ทางวัดก็จะไม่ให้อยู่ที่วัดอีกเพราะมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
ภาพจากอีจัน
ด้าน นายพิพัฒน์ เป็งธินา ผู้ใหญ่บ้านเจดีย์แม่ครัว บอกว่า ที่ผ่านมาพระเจนไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้มาก่อน แม้ที่ผ่านมาจะมีความดีช่วยเหลือวัดมาโดยตลอด แต่เมื่อเกิดเรื่องเสื่อมเสียแบบนี้ทางคณะกรรมการวัดและชาวบ้านก็เห็นร่วมกันว่าจะไม่อนุญาตให้กลับมาจำพรรษาที่วัดนี้อีก