แรงงานต่างชาติผิดกฎหมาย ลักลอบเข้าไทยอีกแล้ว ?
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 7 ธ.ค.63 โดย น.อ.ณัฐวัชต์ วิชกูล ผบ.นรข.เขตอุบลราชธานี และ น.ต.วิโรจน์ อารียวงศ์สถิตย์ รักษาการณ์หัวหน้าสถานีเรือ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี พร้อมกำลังฝ่ายความมั่นคง เข้าจับกุมตัว นายพรเทพ อายุ 54 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี ขณะขับรถตู้สีขาว ยี่ห้อหนึ่ง ทะเบียน ฮฮ 4045 กทม. ที่ภายในขนแรงงานผิดกฎหมายชาวลาวจำนวน 27 คน ออกจากโขงเจียมมารีน่ารีสอร์ท ที่อยู่ในพื้นที่ริมแม่น้ำโขง ถ.พรหมสิงห์ ต.โขงเจียม อ.โขงเจียม เพื่อนำไปส่งในตัว จ.อุบลราชธานี
ภาพจากอีจัน
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบในห้องพักชั้นเดียวติดกับแม่น้ำโขงจำนวน 4 ห้อง ก็พบชาวลาวอีก 31 คน ที่ลักลอบนั่งเรือข้ามแม่น้ำโขงมาจากบ้านใหม่สิงสัมพัน เมืองชนะสมบูรณ์ แขวงจำปาสัก ประเทศลาว หลบซ่อนอยู่ตามห้องพักเตรียมขึ้นรถกระบะอีก 2 คัน ที่กลุ่มนายหน้าแรงงานเถื่อนนำมารับ เพื่อเดินทางเข้าไปในตัวจังหวัด ส่วนคนขับไหวตัวทันอาศัยความมืดหนีออกไปจากรีสอร์ท นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจสอบบริเวณผาหินหลังรีสอร์ทซึ่งติดกับแม่น้ำโขง ก่อนจะพบมีร่องรอยการถากถางต้นไม้ใหม่ๆ เพื่อเปิดเป็นเส้นทางเดินขึ้นมาจากท่าน้ำเข้ามาในรีสอร์ท และจากการสอบปากคำคนลาวที่ถูกจับได้ ก็รับสารภาพว่า เพิ่งเดินทางข้ามแม่น้ำโขงเข้ามาพักในรีสอร์ทตอนช่วงเย็น เพื่อเตรียมขึ้นรถเข้าไปทำงานในกรุงเทพฯ และจังหวัดปริมณฑล โดยเสียค่าจ้างคนละ 5,000 บาท
ภาพจากอีจัน
เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวชาวลาวทั้ง 58 คน (ชาย 27 คน หญิง 31 คน) มาที่สถานีเรือโขงเจียม เพื่อให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทำการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย พร้อมแจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจัดทำทะเบียนประวัติแล้วส่งตัวให้ ตม.ลาว ควบคุมตัวไปกักกันตามข้อตกลงระหว่างประเทศต่อไป
ด้านนายพรเทพ คนขับรถตู้ อ้างว่า ได้รับการว่าจ้างจากคนรู้จักให้มารับแรงงานเถื่อนจากรีสอร์ทไปส่งในตัวจังหวัด โดยได้เงิน 3,000 บาท ซึ่งนายพรเทพ จะถูกดำเนินคดีฐานซ่อนเร้นหรือกระทำการใดๆ ให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ขณะที่ผู้ประกอบการรีสอร์ท หากสอบสวนแล้ว พบว่า ไม่ปฏิบัติตามระเบียบการเข้าพักของแขก หรือมีส่วนรู้เห็นการนำชาวลาวหลบหนีเข้าในประเทศ ก็จะถูกดำเนินคดีฐานให้ที่พักพิงแก่คนต่างด้าวต่อไป
ด้าน น.อ.ณัฐวัชต์ วิชกูล ผบ.นรข.เขตอุบลราชธานี เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ได้รับรายงานจากแหล่งข่าว ว่าจะมีการลักลอบนำแรงงานเถื่อนเข้ามา จึงได้สนธิกำลังของฝ่ายความมั่นคงเข้าตรวจสอบในรีสอร์ท จนพบแรงงานชาวลาวและผู้นำพาที่เป็นคนไทย
ซึ่งก่อนหน้านี้ ฝ่ายความมั่นคงมีการจับกุมแรงงานเถื่อนชาวลาวลักลอบหลบหนีเข้าเมืองได้หลายครั้งแล้ว แต่มีจำนวนไม่มากครั้งละสิบกว่าคนเท่านั้น แต่การจับกุมในครั้งนี้ ถือว่ามีจำนวนมากถึง 58 คน
จึงขอฝากถึงพี่น้องที่อาศัยอยู่ตามริมแม่น้ำโขง ให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตาและแจ้งเบาะแสการหลบหนีเข้าเมือง ของแรงงานต่างชาติผิดกฎหมายให้เจ้าหน้าที่ทราบ เพื่อเข้าสกัดกั้นไม่ให้แรงงานเหล่านี้มีโอกาสนำเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้ามาระบาดในประเทศไทย เพราะจะส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจอย่างมาก