วันนี้(6 ม.ค. 64) อิทธิพลของลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรง พัดปกคลุมอ่าวไทยและพื้นที่ จ.นราธิวาส ตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. 64 ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้มีสภาวะ ฝนตก ลงมาอย่างหนักในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ของ จ.นราธิวาส เป็นเวลา 4 วันติดต่อกัน และยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตก ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลัก 2 สาย คือ แม่น้ำสายบุรี และ แม่น้ำสุไหงโก-ลก เอ่อล้นตลิ่ง จากมวลน้ำป่าที่สะสมอยู่บนเทือกเขาสันกาลาคีรี ในพื้นที่ อ.สุคิริน ไหลลงมาสมทบ ส่งผลทำให้มีสภาวะ น้ำท่วมขัง ในพื้นที่ 6 อำเภอ คือ
1. อ.ระแงะ จำนวน 2 ตำบล คือ ต.บองอ และ ต.ตันหยงมัส มีราษฎรได้รับความเดือดร้อน 6 หมู่บ้าน ซึ่งมีระดับ น้ำท่วมขัง สูงโดยเฉลี่ย 40 – 50 ซม.
2. อ.รือเสาะ มีน้ำท่วมขัง 1 ตำบล 2 หมู่บ้าน คือ บ้านท่าเรือ ม.1 และบ้านนาโอน ม.8 ต.รือเสาะ ซึ่งมีน้ำท่วมขังสูงโดยเฉลี่ย 50 ซม.
3. อ.สุคิริน มี น้ำท่วมขัง บ้านเรือนของราษฎรในพื้นที่บ้านไอร์ปูลง ม.7 ต.มาโมง ซึ่งเป็นหมู่บ้านในที่ลุ่มเชิงเขา มี น้ำท่วมขัง สูงกว่า 1 เมตร ราษฎรได้รับความเดือดร้อนกว่า 10 ครัวเรือน
4. อ.สุไหงปาดี มี น้ำท่วมขัง บ้านเรือนราษฎรจำนวน 3 ตำบล 4 หมู่บ้าน คือ บ้านดอเหะ ม.4 บ้านกำปงบือแน ม.6 ต.ริโก๋ บ้านตลิ่งสูง ม.9 ต.สุไหงปาดี และบ้านลาโละ ม.5 ต.สากอ ซึ่งเป็นหมู่บ้านตั้งอยู่ในพื้นที่ราบลุ่ม โดยมีน้ำท่วมขังสูงในภาพรวมโดยเฉลี่ย 50 ซม. ซึ่งหากฝนหยุดตกน้ำจะไหลระบายลงอย่างรวดเร็ว
5. อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งมี น้ำท่วมขัง บ้านเรือนของราษฎรที่ปลูกสร้างอยู่ในพื้นที่ราบลุ่มริมตลิ่งของแม่น้ำสุไหงโก-ลก ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก จำนวน 8 ชุมชน ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก คือ ชุมชนหัวสะพาน ท่ากอไผ่ ท่าโรงเลื่อย ท่าประปา ท่าเจ๊ะกาเซ็ง ท่าโปฮงยามู ท่าบือเร็งในและท่าบือเร็งนอก ซึ่งมีระดับ น้ำท่วมขัง สูงในภาพรวมโดยเฉลี่ย 50 ถึง 100 ซม.
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ น้ำท่วม ในครั้งนี้ ยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้น จากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมา และจากมวลน้ำป่าบนเทือกเขาสันกาลาคีรี ที่กำลังไหลระบายลงมาสมทบในแม่น้ำสุไหงโก-ลก ในครั้งนี้