วันนี้ (13 ม.ค. 64) ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง รวบแรงงานกัมพูชา ลักลอบเข้าไทยกว่า 16 คน
โดยการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า “ จะมีแรงงานชาวกัมพูชาลักลอบข้ามชายแดนจากฝั่งกัมพูชา เข้ามาฝั่งไทยในพื้นที่ ต.ทับพริก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ” จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.เรืองเดช ธรรมนันท์ รอง ผกก.ตม.จว.สระแก้ว นำกำลัง จนท.ชุดสืบสวน ตม.จว.สระแก้ว และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมทำการลาดตระเวรบนถนนศรีเพ็ญ ซึ่งเป็นถนนเลียบแนวชายแดนไทยกัมพูชา และเป็นพื้นที่ต้องสงสัย เพื่อป้องกันและจับกุมการลักลอบข้ามชายแดน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ต่อมาขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวทำการลาดตระเวรมาถึงทางเข้าหมู่บ้านทับพริก ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนประมาณ 1 กิโลเมตร ก็พบรถยนต์กระบะต้องสงสัยยี่ห้อ “ มิซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีดำ ทะเบียน สระแก้ว ” วิ่งมาจากพื้นที่ อ.คลองหาด ด้วยความเร็วสูง คาดว่าจะมุ่งหน้าเข้าสู่พื้นที่อรัญประเทศ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้นทันที จากการตรวจค้นพบว่า รถยนต์คันดังกล่าวมี นายจักรกฤษ อายุ 32 ปี เป็นคนขับ และภายในรถมีแรงงานกัมพูชาจำนวน 16 คน แยกเป็นชาย 8 คน หญิง 6 คน และเด็ก 2 คน นั่งโดยสารมาด้วย ตำรวจจึงขอตรวจสอบเอกสารการเดินทาง แต่ชาวกัมพูชาไม่สามารถนำมาแสดงให้ดูได้ จึงทำการควบคุมตัวทั้งหมดมาทำการคัดกรองโรคโควิด-19 และสอบสวนอย่างละเอียดที่สถานีตำรวจภูธรคลองน้ำใสภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
จากการสอบสวนแรงงานทั้งหมดยอมรับสารภาพว่า ได้รับการติดต่อจากนายจ้างคนไทย ให้เดินทางข้ามชายแดนเข้ามารับจ้างตัดอ้อย ที่ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว จึงชักชวนกันเดินทางข้ามชายแดนจากฝั่งกัมพูชาเข้ามาฝั่งไทยทางช่องทางธรรมชาติในเวลากลางคืน หลังข้ามเข้ามาฝั่งไทยได้ก็จะมีคนไทยขับรถยนต์มารับไปทำงานตัดอ้อย โดยยอมจ่ายเงินค่านายหน้าและค่านำพาคนละ 800 บาท โดยนายจักรกฤษ ยอมรับว่า เป็นค่าคนรับจ้างขับรถเท่านั้น หลังสอบสวนเสร็จ ตำรวจได้นำตัวแรงงานทั้งหมดพร้อมนายจักรกฤษ ส่งให้พนักงาสอบสวน สภ.คลองน้ำใส ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป