
วันนี้ (27 ม.ค.66) ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics ว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) กำลังเฝ้าติดตามการระบาดของ “โรคติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรงในหมู่บ้าน “ปามีร์ คาลัน (Pamir Kalan) ในจังหวัดบาดัคชาน (Badakhshan) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอัฟกานิสถาน โดย WHO ได้กำหนดให้มีการรับมือภายใต้โค้ดเนม “โรคเอ็กซ์”
WHO ระบุว่า ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อโดยไม่ทราบสาเหตุว่าเป็นจุลชีพหรือไวรัสประเภทใดจำนวน 97 ราย ในหมู่บ้านปามีร์ คาลัน เสียชีวิตแล้ว 17 ราย
WHO ได้ประสานให้ความช่วยเหลือครอบครัวที่ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็กในหมู่บ้านดังกล่าวที่เข้าถึงลำบากเนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้าย หิมะตกหนักทำให้ "ทีมเผชิญเหตุ" ยังไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้ แต่ยาและเวชภัณฑ์ได้ถูกส่งไปยังพื้นที่ระบาดล่วงหน้าแล้ว
WHO ได้เตรียมแผนรับมือโรคเอ็กซ์ (disease X) เป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565
ทั้งนี้ “โรคเอ็กซ์" หมายถึงโรคติดเชื้อจากบรรดาจุลชีพหรือไวรัสก่อโรคที่เราไม่รู้จัก หรือยังรู้จักไม่เพียงพอซึ่งมีศักยภาพในการก่อให้เกิดโรคระบาดร้ายแรงระหว่างประเทศได้ โดย WHO เร่งอัปเดตรายชื่อเชื้อโรคที่สำคัญที่สามารถทำให้เกิดการระบาดและโรคระบาดทั่วโลก และประเทศต่างๆ ควรเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดย WHO ได้รวม“โรคเอ็กซ์" ไว้ในรายการด้วย
โดยเผยแพร่ครั้งแรกในปี 2560 และจัดลำดับความสำคัญครั้งสุดท้ายในปี 2561 รายชื่อปัจจุบันประกอบด้วย โควิด-19, ไข้เลือดออกไครเมียคอง, โรคไวรัสอีโบลาและโรคไวรัสมาร์บวร์ก, ไข้ลาสซา, โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (MERS) และ โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS), โรคนิปาห์และโรคเฮนิปาไวรัส, ไข้ริฟต์วัลเลย์, ซิกา และ “โรค X”
WHO กำลังเร่งปรับปรุงรายชื่อเพื่อเป็นแนวทางให้ทั่วโลกทั้งภาครัฐ เอกชน และ NGO ร่วมกันลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) ล่วงหน้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านวัคซีน การทดสอบทางห้องปฏิบัติการ และการรักษา เพื่อจะผลิตภัณฑ์ใช้ได้ทันท่วงทีเมื่อเกิดการระบาด
สำหรับกระบวนการอัปเดตเริ่มต้นเมื่อปลายเดือนตุลาคม 2565 โดยอาศัยนักวิทยาศาสตร์กว่า 300 คนทั่วโลกมาร่วมกันวิเคราะห์หลักฐานเกี่ยวกับตระกูลไวรัสและแบคทีเรียมากกว่า 24 ตระกูล มุ่งเน้นไปที่สายพันธุ์ที่ยังไม่มียารักษา ยังไม่มีวัคซีนในการป้องกัน เป็นอันดับแรก
รายการเชื้อโรคที่สำคัญนี้ได้กลายเป็นจุดอ้างอิงสำหรับนักวิจัยทั่วโลกว่าควรมุ่งเน้นสรรพกำลังเพื่อจัดการกับภัยคุกคามต่อประชาชนในระดับพื้นที่
ปัจจุบันมีไวรัสไม่น้อยกว่า 320,000 ชนิดที่แพร่ติดต่ออยู่ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม แต่ไวรัสที่พบติดต่อและก่อโรคในมนุษย์มีเพียง “219 ชนิด” หรือเป็นเพียง “ร้อยละ 0.06” อันหมายถึงยังมีไวรัสอีกมากจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่พร้อมจะแพร่ติดต่อข้ามมาสู่คนหากมีโอกาสเหมาะ
ในส่วนของศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ. รามาธิบดีได้เตรียมพร้อมถอดรหัสพันธุ์จาก ทั้งดีเอ็นเอ และ อาร์เอ็นเอ ที่สกัดได้จากสิ่งส่งตรวจประเภทต่างๆ จากผู้ติดเชื้อที่คาดว่าเป็น“โรคเอ็กซ์" รวมทั้งจากสิ่งแวดล้อม จากนั้นนำมาวิเคราะห์เพื่อหาว่าเป็นจุลชีพหรือไวรัสสายพันธุ์ใดจากสิ่งส่งตรวจให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งสัปดาห์ เพื่อตอบโจทย์ของ “โรคเอ็กซ์"
ข้อมูลเกี่ยวกับโรคต่างๆ เป็นเรื่องที่น่าสนใจและน่าติดตาม เพื่อให้เราได้รู้และเตรียมรับมือ